6 ก.ย. – ตำรวจเร่งขยายผลหาตัวกลุ่มคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินในโรงแรมหรูบนเกาะสมุย มูลค่าความเสียหายมากถึง 70 ล้านบาท หลังจับกุมได้แล้ว 3 คน พร้อมติดตามยึดทรัพย์สินที่คนร้ายนำไปขายกลับคืนมา
ความคืบหน้ากรณีเจ้าของโรงแรมบนเกาะสมุย ถูกขโมยทรัพย์สินเกลี้ยงโรงแรม มูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท โรงแรมนี้มีห้องพัก 348 ห้อง ตกแต่งเรียบร้อยพร้อมเปิดให้บริการ ด้วยงบลงทุนถึง 400 ล้านบาท แต่เลื่อนกำหนดการเปิดออกไป เนื่องจากยังขาดบุคลากรที่มาให้บริการ
แต่สภาพปัจจุบันไม่เหลือความเป็นโรงแรมหรูให้เห็น คนร้ายได้ตัดสายกล้องวงจรปิดและเข้าไปขโมยสิ่งของทุกอย่างที่สามารถขายได้ ทั้งหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่หน้าโรงแรม สายไฟฟ้าภายในอาคาร หลอดไฟ ปลั๊กไฟ โต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน ชักโครก เครื่องทำน้ำอุ่น ฝักบัว ผ้าม่าน เหล็กราวบันได ราวกันตก โครงหลังคา กระจก ประตูไม้ ขอบประตูกระจก หน้าต่าง เครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำที่ใช้กับสระน้ำ ลิฟต์ยี่ห้อดังจากเยอรมัน นอกจากนี้ยังพบขวดน้ำดื่มประเภทต่างๆ และห่อขนมของคนร้ายที่กินแล้วทิ้งไว้

ตำรวจ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย นางยมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของโรงแรม เข้าตรวจสอบความเสียหาย พบว่าห้องพักทุกห้องถูกทำลายเพื่อเอาทรัพย์สินไป สายไฟกองตามพื้น ฝ้าเพดานถูกทำลาย กระจกแตกเกลื่อน และยังพบหัวตัดแก๊ส ถังลมถังแก๊ส เครื่องมือช่าง และอาหาร อยู่ในที่เกิดเหตุ คาดเป็นของคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบวงจรปิดใกล้เคียง เชื่อว่าทำงานกันเป็นขบวนการใหญ่และทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน กระทั่งตำรวจ สภ.บ่อผุด และ กอ.รมน.ภาค 4 พื้นที่เกาะสมุย จับกุมผู้ก่อเหตุได้ 3 คน คือ นายอภิพัฒน์ จันทร์แจ่ม อายุ 35 ปี นายกฤษณะ ขำเมือง และ น.ส.ขวัญใจ นิยม จับภายในซอยศาลเจ้า ต.บ่อผุด พร้อมของกลางกองเหล็กขนาด 2 นิ้ว x 4 นิ้ว 60 ท่อน ชุดแก๊สตัดโลหะ 1 ชุด รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน สว่านไร้สาย 1 อัน ชะแรง 1 อัน ค้อน 1 อัน กระเป๋าพร้อมเครื่องมือช่าง 1 อัน เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ
นายอภิพัฒน์ ผู้ต้องหา สารภาพว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ได้ไปรับเหมาซื้อเหล็กขนาด 2 นิ้ว x 4 นิ้ว จำนวน 60 ท่อน ในราคา 30,000 บาท และนำรถบรรทุกไปไว้ที่แคมป์คนงาน

ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด เปิดเผยว่าตำรวจยังเร่งขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดที่คาดว่าจะมีหลายคน พร้อมตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่เกาะสมุยที่อาจรับซื้อทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป และติดตามยึดทรัพย์สินที่คนร้ายนำไปขายกลับคืนมา พร้อมฝากถึงนักธุรกิจและนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด โดยยังไม่ได้เข้ามาลงทุนต่อ และยังคงปิดให้บริการ ขอให้มาติดต่อกับตำรวจ หรือประสานกับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยว่ายังหยุดให้บริการ โดยอยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อมเปิดให้บริการ รวมถึงเจ้าของที่ดินที่ผู้เช่าอยู่ระหว่างหมดสัญญาและกำลังอยู่ระหว่างหาผู้เช่าใหม่ ขอให้มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตำรวจจะได้เข้าไปตรวจสอบ และหามาตรการในการดูแลทรัพย์สินของผู้ประกอบการ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก. – สำนักข่าวไทย