ชัวร์ก่อนแชร์: ใช้ยาย้อมผม เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

22 กรกฎาคม 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลน่าสงสัย :

มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีคดีฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิตยาย้อมผมในสหรัฐอเมริกา ในข้อหาปกปิดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งจากการใช้ยาย้อมผม โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อช่างทำผมที่ย้อมผมให้ลูกค้าเป็นประจำจนป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ


บทสรุป :

1.มีคดีฟ้องร้องบริษัทยาย้อมผมข้อหาทำให้ช่างทำผมป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
2.หน่วยงานมะเร็งของ WHO ไม่พบว่าการย้อมผมเป็นประจำทำให้เสี่ยงมะเร็ง
3.แต่พบว่าช่างทำผมที่สัมผัสยาย้อมผมเป็นประจำมีความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
4.งานวิจัยความเสี่ยงมะเร็งชนิดอื่น ๆ จากยาย้อมผมยังไม่ชัดเจน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


คนย้อมผมไม่เสี่ยงมะเร็ง แต่ช่างทำผมมีความเสี่ยงมะเร็ง

ข้อมูลจากองค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer : IARC) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อ้างอิงงานวิจัยของประเทศเยอรมนีในปี 2010 ที่ศึกษางานวิจัยจำนวน 42 ชิ้น พบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของการป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในกลุ่มช่างทำผม โดยเฉพาะช่างทำผมที่ทำงานเกินกว่า 10 ปี

IARC จึงระบุว่า ผลจากการทดลองในสัตว์ทดลองและมนุษย์พบว่า การสัมผัสสารที่อยู่ในยาย้อมผมเป็นเวลานาน ทำให้ช่างทำผมและช่างตัดผมมีความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ส่วนความเสี่ยงมะเร็งชนิดอื่น ๆ ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเพียงพอ

แต่สำหรับการใช้ยาย้อมผมทั่วไป IARC ไม่จัดว่ามีความเสี่ยงมะเร็ง เนื่องจากข้อมูลการทดลองในมนุษย์ยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันว่าเป็นอันตราย

ส่วนโครงการพิษวิทยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Toxicology Program – NTP) ไม่จัดให้การย้อมผมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง แต่จัดให้สารบางชนิดที่อยู่หรือเคยอยู่ในยาย้อมผม มีความเสี่ยงการก่อมะเร็งในมนุษย์

ความกังวลจากยาย้อมผมถาวร

ยาย้อมผมชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือยาย้อมผมชนิดถาวร ซึ่งผมจะกลับเป็นสีเดิมต่อเมื่อมีผมใหม่งอกขึ้นแทน

แต่กระนั้นยาย้อมผมชนิดถาวรก็สร้างความกังวลเรื่องความเสี่ยงมะเร็งมากที่สุด เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารเคมีหลายชนิด ทั้ง Aromatic Amine และ Hydrogen Peroxide โดยเฉพาะยาย้อมผมสีเข้มมากเท่าไหร่ จะยิ่งมีสารเคมีเหล่านี้มากขึ้นเท่านั้น การได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทั้งการสัมผัสหรือการสูดดม อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง

ในทศวรรษที่ 1970s มีงานวิจัยที่พบว่า สาร Aromatic Amine บางชนิดในยาย้อมผมก่อให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง นำไปสู่การยุติการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายในยาย้อมผมที่สหรัฐฯ ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980s ทำให้
ยาย้อมผมในปัจจุบันมีความปลอดภัยมากกว่าในอดีตอย่างมาก

การพบสาร 4-ABP ในยาย้อมผมรุ่นใหม่

ในปี 2003 ศูนย์วิจัยพิษวิทยาระดับชาติ (National Center for Toxicological Research : NCTR) หน่วยงานขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) นำยาย้อมผมในท้องตลาดมาตรวจสอบ พบว่า 8 จาก 11 ยี่ห้อมีสาร 4-aminobipheny หรือ 4-ABP เป็นส่วนประกอบ โดยพบในยาย้อมผมสีดำ แดง และบลอนด์ ยกเว้นสีน้ำตาล

4-ABP จัดเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งตับ และถูกห้ามใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950s

ผู้วิจัยย้ำว่า จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเสี่ยงของ 4-ABP ในยาย้อมผม กับการเกิดมะเร็งในมนุษย์

ในปี 2025 สำนักข่าว NBC อ้างความเห็นของแพทย์และนักวิจัยหลายราย ที่ยืนยันว่า ยังพบสาร 4-ABP ในยาย้อมผมที่จำหน่ายในปัจจุบัน

อดานา ยานอส รองศาสตราจารย์ภาควิชาระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ย้ำว่า 4-ABP ไม่ควรมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงมือประชาชน พร้อมระบุว่าสาเหตุที่ไม่มีการระบุรายชื่อสาร 4-ABP ในฉลากยาย้อมผม เพราะสาร 4-ABP จะเกิดขึ้นภายหลัง ไม่ว่ากระบวนการผลิตหรือตอนที่น้ำยาย้อมผมถูกนำไปผสมกับสาร Hydrogen Peroxide อีกที

ข้อจำกัดของ FDA ในการควบคุมเครื่องสำอาง

ในสหรัฐอเมริกา องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) เป็นผู้ออกระเบียบความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมถึงยาย้อมผม แต่ไม่มีอำนาจในการอนุมัติส่วนประกอบทุกชนิดที่อยู่ในยาย้อมผม ความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยทั้งหมด เป็นหน้าที่ของผู้ผลิต

FDA มีหน้าที่ดำเนินคดีในกรณีที่ผู้ผลิตทำผิดกฎหมาย เช่น จำหน่ายสินค้าไม่ตรงกับฉลาก หากพบว่าในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีสารอันตรายเป็นส่วนประกอบ FDA มีสิทธิแจ้งจดหมายเตือนผู้ผลิตให้เรียกคืนสินค้า แต่ไม่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกคืนสินค้าด้วยตนเอง นอกจากจะได้รับการอนุมัติจากคำสั่งศาล

งานวิจัยมะเร็งเต้านมกับการย้อมผม

งานวิจัยปี 2020 ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIH) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งกับยาย้อมผมในผู้หญิง 47,000 ราย พบว่าการใช้ยาย้อมผมแบบถาวรเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม

โดยพบว่า กลุ่มที่เสี่ยงที่สุดคือสตรีแอฟริกันอเมริกัน โดยคาดว่าน่าจะมาจากความนิยมใช้ยาย้อมผมสีเข้มให้เข้ากับสีผมธรรมชาติของตนเอง ซึ่งยาย้อมผมสีเข้มมีสารเคมีสูงกว่ายาย้อมผมสีอ่อน

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวเป็นงานวิจัยแบบการสังเกตการณ์เท่านั้น ยังไม่อาจพิสูจน์ได้ว่ายาย้อมผมคือปัจจัยทำให้เกิดมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่

งานวิจัยมะเร็งผิวหนังกับการย้อมผม

งานวิจัยปี 2020 โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ศึกษาความเสี่ยงมะเร็งกับการใช้ยาย้อมผม กับกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงจำนวน 117,200 ราย รวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปี 1976 จนถึงปี 2012

ผลวิจัยพบว่าการใช้ยาย้อมผมเป็นประจำ ไม่ทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงเสียชีวิตจากมะเร็งมากกว่าผู้ไม่ใช้ยาย้อมผม

แต่พบว่ามีความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังเบซัลเซลล์มากกว่าผู้ไม่ใช้เล็กน้อย

มะเร็งผิวหนังเบซัลเซลล์ (Basal cell carcinoma) คือ มะเร็งผิวหนังที่พบมากที่สุดในคนไทย มักพบในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี แต่ในปัจจุบันมีรายงานพบมะเร็งผิวหนังชนิดนี้ในประชากรที่อายุน้อยมากขึ้น

เช่นเดียวกับความเสี่ยงมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ที่พบมากกว่าในกลุ่มที่ใช้ยาย้อมผมชนิดถาวรเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ ผู้หญิงที่มีสีผมต่างกันมีความเสี่ยงมะเร็งจากการใช้ยาย้อมผมต่างกัน เช่น ผู้หญิงผมสีเข้มเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่า ผู้หญิงผมสีอ่อนเสี่ยงมะเร็งผิวหนังเบซัลเซลล์มากกว่า

แต่กระนั้น งานวิจัยดังกล่าวยังมีข้อจำกัดเรื่องกลุ่มตัวอย่างที่ไม่หลากหลาย และยาย้อมผมที่มีการเปลี่ยนแปลงสูตรในช่วง 36 ปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่แน่ชัดว่าความเสี่ยงมะเร็งมาจากการใช้ยาย้อมผมสูตรเก่าหรือไม่

ผู้วิจัยย้ำว่าผลวิจัยแสดงถึงความสัมพันธ์ของสองเหตุการณ์ แต่ยังไม่อาจพิสูจน์ได้ว่า ยาย้อมผมคือสาเหตุของมะเร็งหรือไม่ และต้องมีการวิจัยที่ชัดเจนมากกว่านี้

การเปรียบเทียบความเสี่ยงมะเร็งแต่ละชนิด

สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Society : ACS) แยกความเสี่ยงของการใช้ยาย้อมผมกับการเกิดมะเร็งแต่ละชนิด ดังนี้

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ – งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่าช่างทำผมและช่างตัดผมที่สัมผัสกับยาย้อมผมเป็นประจำ มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมากกว่าคนปกติเล็กน้อย แต่ไม่พบความเสี่ยงในคนทั่วไปที่ใช้ยาย้อมผมอย่างต่อเนื่อง

มะเร็งโรคเลือด – ผลการทดลองความเสี่ยงการใช้ยาย้อมผมกับมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่มีความชัดเจน บางรายงานพบว่าความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้หญิงที่ใช้ยาย้อมผมสีเข้มหรือใช้ยาย้อมผมก่อนทศวรรษที่ 1980s แต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเม็ดเลือดขาว บางงานวิจัยพบความเสี่ยงมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่ก็มีงานวิจัยที่ไม่พบความเสี่ยงใด ๆ

มะเร็งเต้านม – งานวิจัยมะเร็งเต้านมกับยาย้อมผมยังไม่แน่ชัด แม้งานวิจัยยุคหลังเริ่มพบความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งเต้านมบางชนิดกับการใช้ยาย้อมผมมากขึ้น

ส่วนความเสี่ยงมะเร็งชนิดอื่น ๆ ยังไม่มีความชัดเจน

สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำการใช้ยาย้อมผมอย่างปลอดภัย ดังนี้

1.ส่วนผสมบางอย่างในสีย้อมผมอาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงในบางคน
2.สีย้อมผมอาจทำให้ผมร่วงได้ในบางคน
3.แพทย์บางคนแนะนำให้ผู้หญิงหลีกเลี่ยงการย้อมผมในระหว่างตั้งครรภ์ หรืออย่างน้อยจนกว่าจะผ่านช่วงไตรมาสแรก เพราะยังไม่มีข้อมูลการใช้ยาย้อมผมในระหว่างตั้งครรภ์มากพอที่จะทราบได้อย่างแน่ชัดว่ามีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์หรือไม่ แพทย์จึงแนะนำเพื่อความปลอดภัย

องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) แนะนำการใช้ยาย้อมผมอย่างปลอดภัย ดังนี้

1.ปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ ทั้ง ข้อควรระวัง และ คำเตือน ทั้งหมด
2.อย่าลืมทดสอบอาการแพ้บนผิวหนังก่อนใช้ยาย้อมผมทุกครั้ง เพราะบางคนจะแพ้ส่วนผสมบางอย่างมากขึ้นเมื่อสัมผัสมากขึ้น
3.สวมถุงมือเมื่อย้อมผม อย่าทิ้งสีย้อมผมไว้บนศีรษะนานเกินกว่าที่คำแนะนำ
4.ล้างหนังศีรษะด้วยน้ำให้สะอาดหลังใช้งาน
5.อย่าใช้สีย้อมผมเพื่อย้อมคิ้วหรือขนตา เพราะอาจทำให้ดวงตาของคุณได้รับบาดเจ็บ และอาจถึงขั้นตาบอดได้
6.เก็บสีย้อมผมให้พ้นจากมือเด็ก
7.ห้ามเกาหรือแปรงหนังศีรษะเป็นเวลา 3 วันก่อนใช้สีย้อมผม
8.ห้ามย้อมผมหากหนังศีรษะของคุณระคายเคือง ถูกแดดเผา หรือเสียหาย
9.หลังจากกัดสีผม ยืดผม หรือดัดผม ควรรออย่างน้อย 14 วันหลังก่อนใช้ยาย้อมผม

สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า สำหรับผู้ที่มีความกังวลเรื่องความเสี่ยงมะเร็งจากการใช้ยาย้อมผม อาจลดความกังวลด้วยการหันมาใช้ยาย้อมผมสูตรสมุนไพรแทนก็ได้

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.cancer.org/cancer/risk-prevention/chemicals/hair-dyes.html
https://www.health.harvard.edu/blog/do-hair-dyes-increase-cancer-risk-2021012021767
https://www.nbcnews.com/health/health-news/-hair-stylist-sues-beauty-brands-bladder-cancer-rcna191706

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]