กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. – เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ “พล.อ.ประวิตร” ชื่นชมรองนายกฯ ในฐานะประธานคณะมนตรีการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำโขง

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 เวลา 15.00 น. นายตีแยรี มาตู (Thierry Mathou) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสฯ ที่ได้ปฏิบัติงานอย่างแข็งขัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส ตั้งแต่การเข้ารับหน้าที่ รวมทั้งยินดีที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการ (Roadmap) สำหรับการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส เพื่อยกระดับไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ฝรั่งเศส ที่ครอบคลุมรอบด้าน อาทิ ความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ และความร่วมมือทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะความประสงค์ของฝรั่งเศสในการบริจาควัคซีน Pfizer ให้แก่ไทย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสฯ ได้นำเสนอยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป รวมถึงแนวทางความร่วมมือกับไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว และประเด็นที่ฝรั่งเศสให้ความสำคัญในโอกาสที่ฝรั่งเศสจะดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ในครึ่งปีแรก 2565 รวมทั้งได้ชื่นชมบทบาทของรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ประชุมคณะมนตรีของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Council – MRC Council) ในปี 2564 โดยฝรั่งเศสพร้อมผลักดันความร่วมมือเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และพัฒนาความสามารถของประเทศสมาชิก MRC ในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำโขง ดังที่สำนักงานเพื่อการพัฒนาสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Agence française de développement) ได้มอบทุนสนับสนุนจำนวน 1.5 ล้านยูโร ให้แก่ MRC เพื่อปรับปรุงและขยายเครือข่ายการติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลฝรั่งเศสให้การสนับสนุนเงินทุนแก่ MRC ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550-2555 เพื่อสร้างและติดตั้งสถานีโทรมาตร 49 แห่ง และปี พ.ศ. 2559-2565 เพิ่มเติมอีก 11 แห่ง สรุปภาพรวมแล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสให้การสนับสนุนเงินทุนแก่ MRC ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นเงินประมาณ 10 ล้านเหรียญยูโร หรือประมาณ 400 ล้านบาท
อนึ่ง รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ ให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันความร่วมมือไทย-ฝรั่งเศส ที่รองนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสฯ ได้หารือให้เกิดเป็นรูปธรรม. – สำนักข่าวไทย