ศบค.ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ให้คนเข้าชมการแข่งกีฬาได้

ทำเนียบรัฐบาล 21 ส.ค.-มติ ศบค.ให้ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ให้คนเข้าชมกีฬาได้ แต่ต้องแบ่งสัดส่วน-ประเภทกีฬาให้เกิดความปลอดภัย ให้ขนส่งสาธารณะรับคนได้เต็มจำนวน นายกฯย้ำต้องสร้างความเข้าใจประชาชน เพื่อความไว้ใจ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้(21 ส.ค.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 3,390 ราย รักษาหาย 3,219 ราย รักษาอยู่ 113 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยใหม่ 1 รายเป็นชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานบริษัท กลับมาจากสิงคโปร์ถึงไทยวันที่ 7 สิงหาคม เข้าพักในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 18 สิงหาคม ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ

โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 22,859,239 ราย เสียชีวิต 797,009 ราย สหรัฐอเมริกาติดเชื้อมากที่สุด 5,746,272 ราย เสียชีวิต 177,424 ราย ขณะที่ไทยอยู่อันดับที่ 115 ของโลก ขณะที่อินเดีย วานนี้(20 ส.ค.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 68,507 ราย และญี่ปุ่น ติดเชื้อรายใหม่ 951 ราย


“องค์การอนามัยโลก(WHO) เปิดเผยว่า คนช่วงวัย 20-40 ปีเป็นตัวการแพร่กระจายโควิด-19 มากขึ้นเรื่อย ๆ และหลายคนไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ เป็นความเสี่ยงให้เกิดการระบาดไปยังผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยอื่น ๆ ซึ่งการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกรอบ ทำให้บางประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการควบคุมอีกครั้ง ส่วนสหรัฐฯ เป็นอีกตัวอย่างที่ภายหลังมีการชุมนุมกัน ทำให้การติดเชื้อและแพร่กระจายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ วันนี้(21 ส.ค.0) หารือความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนที่หลายประเทศกำลังเข้าสู่การทดลองกับมนุษย์ ในส่วนของไทยอยู่ระหว่างขั้นตอนก่อนการทดลองในมนุษย์ สำหรับกระบวนการได้มาซึ่งวัคซีน มีหลายทาง ทั้งเตรียมการผลิต โดยรับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผู้ผลิตต่างประเทศ ซึ่งต้องจัดสรรงบประมาณให้ผู้ผลิตพัฒนาวัคซีน รวมถึงต้องสั่งซื้อและจองวัคซีนจากผู้ผลิตจากทุกแหล่งที่เป็นไปได้ โดยต้องวางแผนจัดสรรงบประมาณและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศด้วย และต้องสนับสนุนการวิจัยในประเทศและร่วมมือกับต่างประเทศ

“ที่ประชุมศบค.เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 5) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง 30 กันยายน 2563 ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เสนอ และเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป เนื่องจากจำเป็นต้องมีอำนาจตามกฎหมายเชิงป้องกันในการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การบริหารจัดการวิกฤติการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ ภายหลังผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงแล้ว ทั้งการเปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษาทั้งหมด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


โฆษกศบค. กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติอนุญาตให้แข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชมได้ ให้ขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ทางน้ำมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มความจุมาตรฐาน โดยฝ่ายความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้หารือเรื่องนี้อย่างรอบคอบ สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่กังวลคือคน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการควบคุมการเดินทางเข้า-ออกของคน ทั้งในประเทศและแรงงานต่างด้าวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ยืนยันว่าพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน ภาคธุรกิจสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ

“แต่การแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม ต้องลดความแออัดของผู้ชมให้ได้ ไม่ใช่นั่งเต็มพื้นที่เหมือนเวทีมวย โดยกำหนดสัดส่วนจำนวนผู้ชมเป็นแบบเปอร์เซ็นตามความเสี่ยงของระดับการบริหารสถานการณ์โควิด-19 คือ ระดับสีขาว เขียว เหลือง ส้ม แดง และตามประเภทของสนามกีฬา ซึ่งแบ่งเป็นสนามกลางแจ้งและสนามในร่ม รวมถึงแบ่งเป็นชนิดกีฬาที่มีการตะโกนเชียร์และไม่มีการตะโกนเชียร์ เพราะการตะโกนเชียร์ถือเป็นความเสี่ยงของการแพร่เชื้อได้ เช่น ขณะนี้ไทยอยู่ในสถานการณ์ระดับสีเขียว ปลอดภัย แต่ยังไม่มีวัคซีน ทำให้กีฬาฟุตบอลที่มีการตะโกนเชียร์ จะมีจำนวนผู้เข้าชมในสนามได้ 25 เปอร์เซนต์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า การควบคุมโรคและเศรษฐกิจแล้ว ต้องดูแลอารมณ์และจิตใจของประชาชนด้วย เพราะจากการวิเคราะห์จะมีคน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่กังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอยากให้มีมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ที่อยากให้ผ่อนคลายกิจการ เพื่อให้ทำมาหากินได้ตามปกติ ดังนั้น ศบค.ต้องดูแลทั้ง 2 กลุ่มอย่างเท่าเทียมและให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นวยการศบค.เน้นย้ำว่าต้องทำให้ประชาชนไว้วางใจมากที่สุด ด้วยการชี้แจงข้อเท็จจริงและสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้มากที่สุด เพราะในความเป็นจริงจะต้องอยู่กับโรคไปอีกระยะหนึ่ง และไม่อาจคงตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศให้เป็นศูนย์ได้ไปตลอด ดังนั้น การป้องกันตนเองจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย