ทำเนียบ 4 ส.ค.- “วิษณุ” ระบุ หากกฎหมายลูกไม่เสร็จตามกรอบเวลา รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมือง แค่ถูกตำหนิ เชื่อมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ส่วนปม นายกฯ 8 ปี แนะควรยื่นให้ กกต.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาล่มวานนี้(3 ส.ค.) ที่หลายฝ่ายมองว่า กฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. อาจไม่แล้วเสร็จทันกรอบเวลา 180 วัน หรือภายในวันที่ 15 สิงหาคม ว่า ตนไม่ทราบ โดยหลักการต้องให้ทัน ซึ่งในรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาก็มีการเผื่อเวลาไว้ เช่น การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ถ้าไม่เสร็จก็ต้องใช้ตามร่างต้นฉบับที่รัฐบาลเสนอ เช่นเดียวกับร่างประกอบรัฐธรรมนูญ ไม่ไช่เฉพาะกฎหมายเลือกต้ัง ขึ้นชื่อว่า กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ซึ่งผู้ร่างก็มีการคาดการณ์ไว้แล้วว่าอาจจะไม่เสร็จ เพราะสภาฯ ชินกับการพิจารณากฎหมายปกติ ที่ไม่มีกรอบเวลา ดังนั้นกฎหมายสำคัญจึงต้องมีการล็อกเวลาไว้ ซึ่งร่างประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว แม้จะเป็นร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แต่เป็นร่างที่เสนอมาให้รัฐบาลและผ่านการแก้ไขจากกฤษฎีกาแล้ว จึงเรียกว่า ร่างของรัฐบาล ซึ่งหากร่างดังกล่าวไม่เสร็จตามกรอบ รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมือง เหมือนร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่อาจถูกประชาชนตำหนิ
ส่วนถ้าใช้ร่างรัฐบาล จะทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองตามมาหรือไม่ เพราะไม่สามารถแก้ไขใดๆ ได้ นายวิษณุ กล่าวว่า บางเรื่องเป็นเรื่องความชอบไม่ชอบ สามารถแย้งโดยยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ แต่ต้องแย้งว่า ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญ รับแล้ว และเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็จะให้ตัดหรือแก้ไขส่วนนั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นสาระสำคัญ ก็จะถูกตีตกไปทั้งฉบับ และยกร่างใหม่ ส่วนตัวขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการยื่นหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าจะมีการยื่น เรื่องสูตรคำนวณส.ส.ทั้งหาร 100 หรือ 500 ซึ่งอาจยื่นร้องในประเด็นขั้นตอนกระบวนการก็ได้ ขณะเดียวกัน การยื่นตีความ จะไม่มีผลกระทบเงื่อนปมเวลา ทั้งอายุรัฐบาล หรือการเลือกตั้ง รัฐบาลเดินหน้าทำงานต่อไปได้
ส่วนที่มีการต้ังข้อสังเกตว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ร่างกฎหมายลูกดังกล่าวผ่านความเห็นชอบนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะทันก็ได้ เพราะเหลืออีกไม่กี่มาตรา และรัฐบาลก็คาดหวังอยากให้ไปได้ รัฐบาลไม่เคยพูดเรื่องถ่วงเวลา
นายวิษณุ ยังกล่าวถึง ปมอายุการอยู่ในตำแหน่ง 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ทุกคนสามารถยื่นต่อ กกต.ได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ที่นำมาตรา 82 มาใช้โดยอนุโลม ในเรื่องที่ ส.ส. หรือ ส.ว. สงสัย ความเป็น ส.ส.หรือ ส.ว.ด้วยกัน ส่วนจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หรือ กกต.ยังเป็นปัญหาอยู่ วิธีที่ดีที่สุดคือ ไปยื่นที่ กกต. เพราะมาตรา 170 วรรคท้ายระบุว่า กกต.มีอำนาจหน้าที่พิจารณาเรื่องนี้ โดย ส.ส. ส.ว .สามารถเข้าชื่อ ส่งประธานสภาฯ ให้ยื่น ต่อ กกต. เช่นเดียวกับที่ฝ่ายค้านที่เตรียมจะยื่นก็ควรจะยื่นกับ กกต.
ส่วนกรณีนางสาวธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ ถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 1 ปี แต่รอลงโทษ 2 ปี และปรับ 2 แสนบาท นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ถือว่า นางสาวธนิกานต์พ้นจากการเป็น ส.ส.เพราะอยู่ระหว่างหยุดปฎิบัติหน้าที่ และเวลานี้สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีได้ ซึ่งทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย