ฝ่ายค้านเตรียมพร้อมชำแหละงบฯ 66 พบทุจริตชัด

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สุทิน” เผยฝ่ายค้านเตรียมพร้อมชำแหละงบฯ 66 ระบุพบทุจริตชัด-แจกงบพรรคร่วมฯ สร้างความนิยม เชื่อประชาชนไม่ขัด ฝ่ายค้านโหวตคว่ำ เล็งใช้ช่อง รธน. เปิดโอกาสยึดร่างเก่า


นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการหารือการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566 ว่า ในการประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านวันนี้ (30 พ.ค..)จะทบทวนเรื่องการจัดสรรเวลาการอภิปราย รวมถึงการวางโครงสร้างการอภิปรายทั้งตัวผู้ที่จะอภิปรายแต่ละพรรค ลำดับสคริปต์ และประเด็นว่าควรจะร้อยเรียงเรื่องราวเริ่มจากอะไร อย่างไร เบื้องต้นได้จัดสรรเวลาการอภิปรายให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะลดหลั่นกันไปตามสัดส่วนอย่างที่เคยผ่านมา

ส่วนแนวทางการอภิปรายเพื่อให้เห็นถึงข้อบกพร่องของร่างงบฯ ฉบับนี้นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ฝ่ายค้านวิเคราะห์แล้วพบว่าร่างงบฯ มีจุดอ่อน และจะชี้ให้เห็นว่างบส่วนไหนที่ได้จัดไปแล้ว แล้วไม่ควรทำในสถานการณ์แบบนี้ และงบประจำที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อสุดท้ายจัดทำงบฯ ไปเรื่อยๆ การจัดทำงบฯ ก็จะมีแต่งบประจำ ทั้งที่จริงๆ ควรจะควบคุมงบประจำให้ลดลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากล และส่อทุจริต เมื่อถามถึงกรณีที่เคยระบุว่าร่างงบฯฉบับนี้เหมือนขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิด และมีการจัดงบลงพื้นที่ให้พรรคร่วมรัฐบาล นายสุทิน กล่าวว่า เรามีข้อมูลนี้อย่างชัดเจนที่มีการแบ่งงบฯ ให้พรรคร่วมฯ ไปลงพื้นที่ของตนเอง ส่วนคำว่าขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิดนั้น มีคนไปบิดเบือนว่า เราไปว่าประชาชนว่าเป็นขอทาน แต่หมายความว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นผู้จัดงบเป็นขอทาน ปัจจุบันงบประมาณที่ใช้เป็นส่วนของเงินกู้ ซึ่งควรจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างรายได้และให้หลุดหนี้ แต่กลับนำเงินส่วนนี้มาแจกให้พรรคร่วมรัฐบาล เป็นการจัดงบโดยไม่คิดถึงยุทธศาสตร์ แต่กลับจัดงบตามที่กระทรวงต่างๆ ของพรรคร่วมขอมา ทำให้มองว่าต่อให้กู้เงินมาก็จะไม่มีการหลุดพ้นจากการเป็นขอทาน เพราะว่ามาแจกกันใช้มาแจกกันกิน


สำหรับกรณีที่รัฐบาลมีความมั่นใจว่าจะมีเสียงเพียงพอในการโหวตผ่านวาระ 1 และเชื่อว่าการจัดทำงบมีความเหมาะสม นายสุทิน กล่าวว่า เสียงฝ่ายรัฐบาลมีเยอะอยู่แล้ว จึงมีความได้เปรียบที่จะโหวตผ่านร่างงบฯ และในทุกยุครัฐบาลไม่เคยวิตกกับเรื่องโหวตผ่านงบ แต่รัฐบาลชุดนี้มีจุดอ่อน ที่จัดงบผิดพลาด และเรามองออกว่าตลอด 8 ปี ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง จัดงบมาก็เป็นแบบนี้

เมื่อถามว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีแผนสำรองกรณีที่รัฐบาลไม่ยอมปรับเปลี่ยนแผนตามคำแนะนำของพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นคงต้องหารือกัน ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะว่ารัฐบาลคงจะไม่แก้ไข เราจึงทำได้ในแง่ของการตีแผ่ให้สังคมได้รู้

เมื่อถามถึง กรณีที่นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ระบุว่า หากฝ่ายค้านไม่ยอมทำหน้าที่ ก็ให้ลาออกไป นายสุทิน กล่าวว่า นายนิโรธเป็นส.ส.อีกระดับหนึ่ง ซึ่งต้องชวนให้นายนิโรธคิดว่าการจัดทำงบประมาณเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของการเป็นรัฐบาล หากจะให้ฝ่ายค้านผ่านทุกอย่างที่รัฐบาลส่งมาโดยคิดว่าต้องมีสำนึกห่วงชาวบ้าน แล้วจะเกิดการถ่วงดุลของสภาอย่างไร ถ้ารัฐบาลจัดทำงบไม่ดีแล้วฝ่ายค้านปล่อยให้ผ่านนี้คือการไม่ทำหน้าที่ วันนี้ฝ่ายรัฐบาลออกมาร้อนรนว่าถ้าฝ่ายค้านไม่ให้ผ่านงบฯ เหมือนการทำร้ายชาวบ้านและทำให้ประเทศไปไม่รอด ถือเป็นเจตนาพูดให้ประชาชนเข้าใจผิด


“รัฐธรรมนูญเขียนไว้เป็นทางให้แล้ว เพื่อให้เกิดการพิจารณางบฯอย่างรอบคอบและเป็นประโยชน์ที่สุด คือ ร่างงบฯ จะตกก็ได้โดยไม่กระทบกับประชาชน โดยให้นำร่างงบฯปีเก่ามาใช้ไปพลาง นี่ถือเป็นการเปิดโอกาสไว้ ว่าหากร่างงบฯ ไม่ดี เมื่อถูกตีตก แต่ชาวบ้านไม่เดือดร้อน และให้รีบกลับไปทำมาใหม่ หากเราจะใช้โอกาสที่รัฐธรรมนูญเปิดไว้ให้ แล้วจะผิดตรงไหน ถ้าไม่ใช้สิผิด” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะนำคะแนนความนิยมของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. อย่างท่วมท้น ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการสะท้อนคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ตกต่ำลง มาพิจารณาตัดสินใจ ว่าจะคว่ำร่างงบฉบับนี้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า จากผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นักการเมืองทุกคนจะต้องคิดว่า ประชาชนต้องการอะไร กรณีโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า ต้องยึดประชาชนเป็นที่ตั้งนั้น เราก็ต้องบอกว่าเรากำลังยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เสียงประชาชนที่สะท้อนออกมาจากการเลือกตั้งกทม.และการรับฟังเสียงชาวบ้านตามต่างจังหวัด เรายืนยันว่าชาวบ้านรับรัฐบาลไม่ได้แล้ว สิ่งที่ชาวบ้านอยากให้ทำที่สุด คือ การกระตุกเตือน ถ้างบประมาณใช้ไม่ได้เราก็จะไม่ให้ผ่าน นี่คือความต้องการของประชาชน ถ้าไม่ทำตามนี้ชาวบ้านจะเดือดร้อน บ้านเมืองลำบาก เพราะหลับหูหลับตาผ่านงบ นี้คือการไม่ยึดประชาชน ดังนั้นจึงขอย้ำว่าฝ่ายค้านทำงานโดยยึดประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ได้ยึดรัฐบาลเป็นสำคัญ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย