กทม. 25 มี.ค.- “ศุภชัย” ปาฐกถา ระดมทุน ปชป. Go Together เราจะไปด้วยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างเดิน ขอพรรคการเมือง ทำนโยบายชัดเจนต่อเนื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมให้คะแนน “จุรินทร์-เฉลิมชัย” สูงมาก ที่ผลักดันการเกษตร-แข่งขันสินค้า
พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานดินเนอร์ทอล์ก ภายใต้ชื่องาน “Go Together, Go Further” เพื่อระดมทุนพรรค โดยนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังก์ถัด (UNCTAD) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) บรรยายในหัวข้อเรื่องเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ตอนหนึ่ง ว่า คำว่า Go Together เราจะไปด้วยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างเดิน สถานการณ์บ้านเมืองของเราและสถานการณ์ของโลกในเวลานี้ ถ้าเราไม่เดินไปพร้อมกัน ตนคิดว่าจะเกิดสงครามในทุกด้าน ไม่ใช่สงครามที่เรารบพุ่งกันเอง แต่เป็นสงครามเศรษฐกิจโลก สงครามโรคภัยไข้เจ็บ สงครามความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมในโลก แต่ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลกคงไม่มีครั้งใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าช่วงนี้ เรียกว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจริงๆ ในหลายๆ เรื่องพร้อมกัน ไม่มีครั้งไหนรุนแรงเท่านี้มาก่อน แต่ตนโชคดีที่ได้ทำงานกับบุคคลสำคัญหลายๆ คน เช่นนายโคฟี แอนนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาเรื่องโรคระบาดในตอนนี้เชื่อว่ายังไม่มีความเชี่ยวชาญชำนาญพิเศษ แต่โรคระบาดเกิดขึ้นได้ก็ต้องหายไปได้ บางคนบอกว่ามันไม่มีวันหายแล้วจะอยู่ตลอดไป แต่ตนคิดว่ามันก็เหมือนโรคระบาดหลายโรคที่เคยเกิดขึ้นมา เรื่องที่เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาตอนนี้ คือ 1.ยอมรับว่าทุกเรื่องตอนนี้เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ 2.ต้องตะลุยฉีดวัคซีนซึ่งเป็นทางออกที่สำคัญที่สุด และ 3.ต้องวิจัยร่วมกัน โควิดเราใช้เวลาเป็นปีกว่าจะมีวัคซีนมารักษาได้ เป็นผลจากการร่วมมือของทั่วโลก จากนี้ก็จะเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่รักษาหายและป้องกันได้ แต่สิ่งที่ไม่น้อยไปกว่าโรคระบาดนี้คือปัญหาสงคราม เวลานี้โลกของเราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน แต่เราต้องระมัดระวังเรื่องการกระทบกระทั่งกัน โดยเฉพาะปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยูเครนเป็นหัวใจของสหภาพโซเวียตก่อนล่มสลาย ก่อนเป็นประเทศที่สามในโลกที่มีขีปนาวุธมากที่สุด เพราะเคยมีกองกำลังมาตั้ง
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า สำหรับไทยนั้นเราต้องเตรียมพร้อมรับมือ ตนคิดว่าแผนยุทธศาสตร์ของชาติ 20 ปีของเราที่หลายคนบอกว่ายาวนานเกินไปนั้น ตนเชื่อว่าจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับเราทุกด้าน ทั้งด้านความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างมนุษย์และการเจริญเติบโตกับสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและด้านการศึกษา ทั้งหมดนี้อยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเป็นการสร้างเกราะกำบังที่แข็งแกร่งให้กับเรา ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องเข้าใจในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และช่วยกันพยายามผลักดันโครงการนี้ต่อไป
“การเมืองบ้านเราเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง นโยบายก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ถ้าทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจะไม่มีทางสำเร็จได้ ซึ่งต้องเป็นนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่อง โดยยุทธศาสตร์ชาติของเราชัดเจนว่าจะต้องพัฒนาคนอย่างไรให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่แค่การท่องจำ ทั้งนี้ผมขอให้คะแนนนายจุรินทร์ และนายเฉลิมชัย ในการผลักดันเรื่องการเกษตร และความสามารถในการแข่งขันสินค้าของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญอย่างมาก ผมขอให้คะแนนทั้งสองท่านสูงมาก” นายศุภชัย กล่าว.- สำนักข่าวไทย