ทำเนียบฯ 24 มี.ค.- ศบค.เผย ศธ.ช่วยเด็กติดโควิดหลายพันคน ได้เข้าสอบเพื่อศึกษาต่อในหลายระดับชั้น ห่วงกลับบ้านสงกรานต์สุ่มเสี่ยง ย้ำห้ามสาดน้ำ
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก กระทรวงศึกษาธิการนำเสนอโครงการห้องเรียนพิเศษให้ความช่วยเหลือเด็กติดเชื้อไม่ให้เสียสิทธิทางการศึกษา การสอบ และพัฒนาการ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการสอบทั่วประเทศทั้งระดับ ม.1 และ ม.4 รวมแล้วมี 317 โรงเรียน ผู้สมัครสอบ ม.1 และ ม.4 มี 124,478 ราย เป็นเด็กติดเชื้อ 1,205 ราย และเสี่ยงสูงติดเชื้ออีก 1,180 ราย หากตัดสิทธิไม่ให้เข้าสอบก็จะเสียโอกาส จึงต้องขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการและโรงเรียนที่จัดการสอบห้องเฉพาะ โดยมีแพทย์ดูแลเด็กๆ ด้วย
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 12-15 มี.ค.กลุ่มมหาวิทยาลัยก็จัดสนามสอบทั่วประเทศสำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย รวมแล้ว 32 สนามสอบ เด็กที่เข้าสอบมี 389,674 คน ในจำนวนนี้มีเด็กติดเชื้อ 3,232 คน คิดเป็น 0.8% โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุด ในวันที่ 12 มี.ค. มีเด็กติดเชื้อมาร่วมสอบ 525 คน และมีประวัติเสี่ยงสูงอีก 70 คน จึงขอชื่นชมการจัดการของ กระทรวงศึกษาธิการที่ทำให้เด็กไม่เสียสิทธิในการสอบ
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า อีกประเด็นที่ ศบค.เป็นห่วง คือ เทศกาลสงกรานต์ ที่หลายครอบครัววางแผนพาเด็กไปท่องเที่ยว พบปะญาติผู้ใหญ่ และมีการสังสรรค์ โดยกระทรวงวัฒนธรรมขอความร่วมมือว่า ให้จัดงานสงกรานต์ได้ เดินทางข้ามพื้นที่ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ สังสรรค์ ร่วมงานประเพณีได้ แต่ทำในลักษณะที่ขับเคลื่อนเดินหน้าเศรษฐกิจ ดำรงวัฒนธรรมประเพณี โดยอยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยทางสาธารณสุขด้วย บางประเทศที่ยกเว้นมาตรการต่างๆ รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย ถือว่าทำโดยยอมรับความเสี่ยง แต่เรายังต้องทำ โดยช่วยประคับประคองความเสี่ยงและรักษาประเพณีที่ดีด้วย
“กระทรวงวัฒนธรรมขอความร่วมมือ ห้ามการละเล่นประเภทใกล้ชิด งดการสาดน้ำ ประแป้ง และงดปาร์ตี้โฟม ไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ทั้งที่จัดงานและท้องถนน หากประชาชนที่เดินทางให้เช็กเอกสาร เชื่อว่า ทุกที่ทั้งสนามบิน รถบัส สถานที่เดินทาง อาจขอตรวจสอบเอกสารการฉีดวัคซีน หรือแสดงผลการตรวจ ATK ก็ต้องเตรียมการให้พร้อม ระหว่างเดินทางระมัดระวังเพื่อนร่วมทาง คนที่นั่งรถส่วนตัวด้วยกันหลายคนมีประวัติเสี่ยงหรือไม่ ต้องคัดกรองความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง” พญ.อภิสมัยกล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขณะที่สาธารณสุขขอให้เลี่ยงรับประทานอาหารร่วมกันในพื้นที่ปิด หรือใช้เวลานาน หลายคนอาจจำเป็นต้องจองร้านอาหาร โรงแรม เพื่อพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน ขอให้ซักประวัติความเสี่ยง รักษามาตรการและอาจตรวจ ATK ก่อนร่วมรับประทานอาหาร ระหว่างรับประทานก็ระมัดระวังเท่าที่ทำได้ “
ถ้าครอบครัวที่เราไปเยี่ยม มีผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียง มีโรคติดตัวหลายอย่าง ก็ไปเยี่ยมไปกราบให้ท่านชื่นใจได้ แต่ขณะเข้าไปต้องสวมหน้ากากให้ตัวเราและท่านด้วย เว้นระยะห่าง ล้างมือ ระหว่างพูดคุยรับประทานอาหารให้เลี่ยงใกล้ชิด ไอ จาม รดกัน และเพื่อป้องกันให้ผู้สูงอายุปลอดภัย ก่อนถึงเทศกาลให้ไปฉีดวัคซีน ส่วนการไปชมการแสดงมหรสพ ผู้จัดต้องจัดมาตรการ ประชาชนก็ต้องร่วมมืออย่างเคร่งครัด จะได้ผ่านไปอย่างปลอดภัย”พญ.อภิสมัยกล่าว.-สำนักข่าวไทย