ทำเนียบรัฐบาล 11 มี.ค.-“เสกสกล” มั่นใจมาตรการต่าง ๆ จะแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ใน 2 เดือน เตรียมเสนอแก้ไขสัญญาตัวแทนฯ เพิ่มโทษทางแพ่ง
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า วันนี้ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่มีความห่วงใยปัญหาดังกล่าว และกำชับให้คณะทำงานเร่งแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
“คณะทำงานต้องเร่งรัดการทำงาน เพื่อให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 2 เดือน เพื่อสรุปสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ได้ผลในทางปฏิบัติให้ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวว่า ที่ประชุมวางกรอบการทำงานให้เป็นรูปธรรม เบื้องต้น เสนอว่าควรปรับปรุงแก้ไขข้อสัญญาที่สำนักงานสลากฯ ทำกับตัวแทนจำหน่ายสลาก โดยให้มีผลทางแพ่งเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเข้มข้นในทางปฏิบัติยิ่งขึ้น
“ที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวทางและมาตรการของสำนักงานสลากฯ แก้ปัญหาสลากเกินราคาระยะสั้น ที่จัดให้จำหน่ายสลากผ่านโครงการสลาก 80 ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ควรเพิ่มบทบาทและบูรณาการหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบการจำหน่าย” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กลjาวว่า ตัวแทนที่จะขายแต่ละอำเภอจะได้โควต้าคนละ 25 เล่ม โดยขายให้ทุกอำเภอ ผ่านระบบลงทะเบียนแอปถุงเงิน และ QR Code ซึ่งใครจะซื้อต้องแจ้งผ่าน QR code ในราคา 80 บาท เท่ากับแต่ละอำเภอจะขายสลากประมาณ 20,000 ใบ ประชาชนเข้าถึงได้อย่างแน่นอน ถ้าใครขายเกินราคา จะยกเลิกสัญญาและเสียสิทธิ์ทันที
“ส่วนการซื้อจองล่วงหน้าเป็นระบบเสรีจากการลงทะเบียน ขณะนี้มียอดประมาณ 100,000 คน และกำลังให้สมัครเพิ่มเติม ใครขายจะมีระบบตรวจสอบ ถ้าเอาไปขายช่วงต่อจะถูกตัดสิทธิ์เช่นกัน และหากไปรับสลากที่ไปรษณีย์ ห้ามมอบอำนาจให้ใครไปรับแทน ยกเว้นมีเหตุจำเป็นต้องมีใบมอบอำนาจที่มีเหตุผลชัดเจน และการขายลักษณะนี้จะตรวจสอบและแจ้งเข้ามาในระบบ QR Code ซึ่งมาตรการนี้ควบคุมได้ แต่ยังเป็นเพียงข้อเสนอซึ่งต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ มั่นใจว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นมา จะแก้ปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคาได้ภายในเวลา 2 เดือน” นายเสกสกล กล่าว.-สำนักข่าวไทย