ทำเนียบรัฐบาล 11 มี.ค. – นายกฯ ห่วงวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ทำปุ๋ยและอาหารสัตว์ราคาแพง กำชับพาณิชย์-เกษตรฯ ติดตามระดับราคาซื้อ-ขายในประเทศ กระจายแหล่งนำเข้าวัตถุดิบปุ๋ยและอาหารสัตว์
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ได้ส่งผลต่อระบบการค้าโลกแล้ว โดยราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ และสินแร่ที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว และหากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อ จะยิ่งทำให้การค้าโลกมีข้อจำกัดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปุ๋ยและวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ ข้าวสาลี และข้าวโพด จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีก เพราะรัสเซียและยูเครนเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญ ขณะที่ไทยยังต้องนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์และปุ๋ยจากต่างประเทศเป็นหลัก ประกอบกับราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการขนส่งสินค้าปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปุ๋ยในประเทศมีราคาแพง ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ถึงปี 2565 ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหา ทั้งติดตามระดับราคาอาหารสัตว์และปุ๋ยให้ขึ้น-ลง สอดคล้องกับสัดส่วนต้นทุนที่แท้จริง ไม่ให้มีการกักตุน ฉวยโอกาสขึ้นราคา ขณะเดียวกันก็ให้เร่งกระจายการนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยและอาหารสัตว์จากแหล่งนำเข้าอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งใช้มาตรการอื่นในการอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหา ลดอุปสรรคการผลิต การนำเข้า เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรด้วย
ในปี 2564 ไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีจาก 45 ประเทศ ปริมาณ 5,520,883 ตัน คิดเป็นมูลค่า 70,103 ล้านบาท โดย 5 ประเทศที่ไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีมากที่สุด ได้แก่ จีน นำเข้า 1.25 ล้านตัน ซาอุดีอาระเบีย นำเข้า 8.4 แสนตัน รัสเซีย นำเข้า 4.4 แสนตัน โอมาน นำเข้า 3.6 แสนตัน และเกาหลีใต้ นำเข้า 3.3 แสนตัน
ทั้งนี้ ปุ๋ยเคมีและอาหารสัตว์ เป็นสินค้าควบคุม หากจะมีการปรับราคา กระทรวงพาณิชย์จะต้องพิจารณาคำร้องของผู้ประกอบการก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครทำเรื่องขอปรับราคาอย่างเป็นทางการ
“นายกรัฐมนตรีได้เตรียมมาตรการและแนวทางรับมือผลกระทบตั้งแต่มีความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ก่อนที่จะพัฒนาเป็นวิฤกติสงคราม และนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมาเป็นระยะ โดยอะไรที่อยู่ในอำนาจหรือกฎหมายที่รัฐบาลสามารถผ่อนผันได้ ก็เร่งดำเนินการทันที เช่น กระทรวงการคลังใช้มาตรการทางภาษี ลดภาษีสรรพสามิต กระทรวงพลังงาน ดูแลราคาพลังงาน ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร กระทรวงพาณิชย์ กำกับราคาเนื้อสัตว์และอาหาร สินค้าจำเป็น เป็นต้น ทั้งนี้ หากภาวะสงครามยุติเร็ว คาดว่าราคาสินค้าและน้ำมันจะกลับเข้าสู่กลไกตลาด แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ รัฐบาลก็ได้เตรียมมาตรการอื่นๆ ไว้แล้ว เพื่อบรรเทาภาระพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการ และประชาชนให้มากที่สุดด้วย” นายธนกร กล่าว. – สำนักข่าวไทย