กำชับผู้ว่าฯ กทม.ดูแก้โควิดมากขึ้น

ทำเนียบรัฐบาล 7 มี.ค.-นายกฯ เรียกผู้ว่าฯ กทม.กำชับตามแก้ปัญหาโควิดใกล้ชิด หลังมีเรื่องร้องเรียนเข้าไม่ถึงระบบ ขอสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ “เจอ แจก จบ” วอน พร้อมขอประชาชนช่วยประหยัดพลังงาน รัฐพยายามหามาตรการช่วย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่า เรียกมาสอบถามเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิด-19  ว่าจะทำอย่างไร โดยเฉพาะที่มีประชาชนร้องเรียนว่าไม่สามารถเข้าถึงการรักษา ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม.รับว่าจะไปดูแลให้มากขึ้น ทั้งนี้ เห็นว่ามาตรการบางอย่างที่ออกไปแล้วประชาชนไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะทุกคนติดตามจากโซเชียลฯ จึงไม่เข้าใจกัน ดังนั้น ขอฝากสื่อมวลชนช่วยกันชี้แจงมาตรการ “เจอ แจก จบ” เพราะประชาชนอาจยังไม่เข้าใจมาตรการนี้

“ไม่ได้พูดคุยกับพล.ต.อ.อัศวิน ถึงปมปัญหาการขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเป็นเรื่องที่กทม.ต้องไปคุยกับกระทรวงคมนาคม ขออย่านำทุกเรื่องมาปนกันจนเละไปหมด เพราะจะทำอะไรไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับสถานการณ์ภายนอกที่เกิดขึ้น และต้องดูว่ามีผลกระทบกับประเทศไทยอย่างไรบ้าง หรือได้รับความเดือดร้อนอะไรบ้าง ซึ่งตนพยายามจะคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด แต่จะให้ทุกคนพอใจ 100% คงเป็นไปไม่ได้ ต้องสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับทุกคนให้ได้ในเกณฑ์ที่รัฐบาลสามารถรองรับได้ ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่

“ประด็นสำคัญที่สุดขณะนี้คือต้องเตรียมเรื่องราคาพลังงานที่ปรับขึ้นทุกวัน ต้องหามาตรการที่เหมาะสม แต่จะดูแลได้ถึงเมื่อไหร่ ต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ อาจต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และต้องช่วยรัฐบาลและช่วยประเทศชาติบ้าง สิ่งสำคัญคือไม่สามารถบังคับใครได้ ขอให้ทุกคนประหยัดการใช้พลังงานให้มากที่สุด โดยเฉพาะการใช้รถเท่าที่จำเป็น เพราะราคาน้ำมันสูงขึ้นทุกวัน ถ้าน้ำมันสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จะทำอย่างไร เพราะ งบประมาณมีจำกัด และจะส่งผลกระทบให้เรื่องอื่น ๆ เดือดร้อนไปด้วยหรือไม่ ตอนนี้ขออย่าเพิ่งเอาเรื่องอื่นมาเป็นปัญหา ผมทำให้ทุกอย่าง ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามถึงการไปร่วมรับประทานอาหารกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพล.อ.ประวิตรทำอาหารให้รับประทานว่าฝีมือการทำอาหารของพล.อ.ประวิตรอร่อยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ส่ายศีรษะพร้อมระบุว่า “ไร้สาระ ไม่อร่อยจะกินทำไม” ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง