กต.ช่วยคนไทยออกจากยูเครนแล้ว 203 คน ยังเหลืออีก 1

สุวรรณภูมิ 5 มี.ค. – กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยเหลือคนไทยออกจากยูเครนแล้ว 203 คน เหลือเพียง 1 คน ที่อยู่เมืองเซเบโรโดเนส เตรียมช่วยเหลือทันทีหากสถานการณ์ดีขึ้น ขณะที่คนไทยชุดที่ 6 จะเดินทางถึงไทย 7 มี.ค.นี้


เมื่อเวลา 12.05 น. วันนี้ (5 มี.ค.) กลุ่มคนไทยจากยูเครน ชุดที่ 5 จำนวน 45 คน เดินทางด้วยเครื่องบินออกจากโปแลนด์ มาถึงไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK384 โดยมีนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายนฤชัย นินนาท ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ให้การต้อนรับ โดยทันทีที่คนไทยเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกคนได้รับการตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นรถบัส เพื่อเดินทางไปรอฟังผลตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร หากผลการตรวจเชื้อเป็นลบ สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ และหลังจากนั้นอีก 5 วัน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขแต่ละพื้นที่จะทำการตรวจเชื้อซ้ำอีกครั้ง ส่วนคนที่มีผลเป็นบวก จะเข้าสู่กระบวนการรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยกลับจากยูเครน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั้ง 2 เที่ยวบิน และหลังจากนี้ได้รับรายงานว่าจะมีคนไทยกลับมาอีกชุด ในวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ประมาณ 20 กว่าคน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดเที่ยวบิน


ด้านนายนฤชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ให้การช่วยเหลือคนไทยในยูเครนกลับประเทศไทยแล้ว รวม 203 คน จากทั้งหมด 256 คน และได้รับรายงานว่า ทุกคนปลอดภัยดี และขณะนี้ยังมีการช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีอีก 1 คน ที่อยู่ในเมืองเซเบโรโดเนส ซึ่งยังไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังรุนแรง หากพิจารณาแล้วว่ามีความปลอดภัยจะช่วยเหลือออกมาทันที

ขณะที่คนไทยที่ประสงค์อยู่กับครอบครัวที่ยูเครน มีประมาณ 25-26 คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ยังประสานงานอยู่ตลอด หากเปลี่ยนใจที่จะกลับประเทศ สถานทูตฯ ยังพร้อมให้การช่วยเหลืออยู่ตลอด

ด้านคนไทยที่กลับมา บอกว่า สถานการณ์ที่ยูเครนยังรุนแรง ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่นได้ยินเสียงระเบิดอยู่ตลอด และต้องหลบอยู่ชั้นใต้ดินประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ เพื่อรอเวลาอพยพออกมา และได้รับการติดต่อช่วยเหลือจากสถานทูตฯ เป็นอย่างดี ก่อนที่จะอพยพออกมาด้วยรถไฟไปยังเมืองลวิฟ ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือฯ ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง ตอนนี้รู้สึกโล่งใจ และดีใจมากที่ได้กลับประเทศไทย เพราะมีความปลอดภัยกว่าอยู่ที่ยูเครน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน