มท.1 แจ้ง ศปถ.ทุกจังหวัด Kick off รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางข้าม

กรุงเทพฯ 16 ก.พ. – มท.1 แจ้ง ศปถ.ทุกจังหวัด Kick off รณรงค์ลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม 21-25 ก.พ.65 พร้อมสร้างความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องทุกเดือน รวมทั้งสร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด หากพบผู้ฝ่าฝืนต้องได้รับโทษสูงสุด


วันนี้ (16 ก.พ.65) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนเดินข้ามถนน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตบริเวณทางข้าม เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทั่วประเทศ เร่งสร้างกระแสการรับรู้และสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขับรถที่ไม่มีวินัยและไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดการสร้างกระแสการรับรู้ และสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด จัดกิจกรรมสัปดาห์การรณรงค์ ภายใต้ชื่อ “การรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม” ในระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้ได้รับโทษสูงสุด เพื่อให้ผู้ขับขี่เคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นต้น และเร่งทำการปรับปรุงบริเวณทางข้ามให้มีความปลอดภัย อาทิ การตีเส้นชะลอความเร็วก่อนถึงทางข้าม การจัดทำเครื่องหมายจราจรบนพื้นผิวถนนให้มีความชัดเจน จัดทำป้ายเตือนและป้ายสัญลักษณ์ให้ผู้ขับขี่และผู้ข้ามถนนเห็นได้ชัดเจน


พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ในสถานศึกษา เพื่อให้มีความปลอดภัย โดยเฉพาะทางข้ามบริเวณโรงเรียน และรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วในเขตชุมชน สถานศึกษา สถานพยาบาล ด้วยการชะลอความเร็วในที่คับขันที่มีการจราจรพลุกพล่าน หรือมีสิ่งกีดขวาง ทางร่วม ทางแยก ทางข้ามหรือทางม้าลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การหยุดให้คนข้ามในทางข้ามหรือทางม้าลาย” ตลอดจนสร้างความตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการขับรถที่ไม่มีวินัยและไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ทั้งนี้ ให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยกำหนดให้วันที่ 21 ของทุกเดือน เป็นเป้าหมายในการรณรงค์

“ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด สั่งการและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม ซึ่งถือว่าเป็นบริเวณที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับประชาชนในการใช้ข้ามถนน อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ด้วยการสร้างจิตสำนึก ทำให้คนที่ใช้รถใช้ถนนมีความตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีวัฒนธรรม มีจิตวิญญาณการใช้รถใช้ถนนที่รับผิดชอบต่อสังคม และขณะเดียวกัน หน่วยงานที่รับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ต้องเร่งปรับปรุงพื้นผิวจราจร ทั้งเครื่องหมาย ป้ายเตือน สัญลักษณ์ต่างๆ ให้สามารถเห็นได้ชัดเจน โดยอาจพิจารณานำเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตามผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิด และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น จริงจัง ใช้ยาแรง คือ ผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร ต้องได้รับโทษสูงสุด” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ น้ำค้างแข็งต่อเนื่อง อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ

ภาคเหนือหนาวต่อเนื่อง บริเวณกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งขาวโพลน เป็นวันที่ 10 อุณหภูมิยอดหญ้า ติดลบ 0.4 องศาฯ

U.S. President Joe Biden and Trump shaking hands during meeting in Oval Office on November 13, 2024

“ทรัมป์” เตรียมสาบานตนรับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐวันนี้

วอชิงตัน 20 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกอบกิจกรรมหลายอย่างเมื่อวานนี้ ก่อนเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นายทรัมป์เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ และเมื่อวานนี้เขาและนายเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ได้เดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลาและเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นนายทรัมป์ได้ไปเข้าร่วมงานปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่แคปิตอลวันอารีนา ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มในกรุงวอชิงตัน นับเป็นการปราศรัยใหญ่ในกรุงวอชิงตันครั้งแรกของทรัมป์ หลังจากที่เคยปราศรัยเรียกร้องผู้สนับสนุนให้ยกขบวนไปอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 คัดค้านที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 สนามกีฬาแห่งนี้ยังจะเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมงานพิธีสาบานตนของทรัมป์ผ่านการถ่ายทอดสดทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลกแผ่ปกคลุมสหรัฐ ทำให้ต้องย้ายการจัดพิธีสาบานตนจากด้านหน้าอาคารรัฐสภาเข้าไปจัดด้านใน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ชาวอเมริกันจากทั่วประเทศเดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้วเพื่อร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีสาบานตนของทรัมป์ หลายคนผิดหวังที่พลาดโอกาสได้ร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย นายทรัมป์ วัย 78 ปี จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย ตามด้วยการกล่าวปราศรัย ซึ่งจะเป็นการประกาศแนวทางสำหรับการบริหารงานเป็นเวลา 4 ปีหลังจากนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ฝุ่นPM

เตือนเฝ้าระวังค่าฝุ่น PM2.5 สูงตลอดสัปดาห์นี้

กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนแนวโน้มค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 22-25 ม.ค. ทั้งสาเหตุจากอากาศนิ่งและจมตัว อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่ รวมถึงหมอกควันข้ามแดน