กรุงเทพฯ 9 มี.ค. – “อนุทิน” สั่งการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ว่าการอำเภอ-สถานที่ราชการ-ฐานปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มความปลอดภัยในเดือนรอมฎอน ช่วงเวลาแห่งความสงบของพี่น้องชาวมุสลิม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (9 มี.ค.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้มีหนังสือสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในฐานะผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หลังเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุระเบิดบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 8 นาย และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย
นายอนุทิน ได้สั่งการให้กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด แจ้งกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ และชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย) เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยให้สมาชิก อส. และชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยที่ว่าการอำเภอ สถานที่ราชการ และฐานปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกำชับให้มีการตรวจสอบยานพาหนะทุกคันที่เข้า-ออกในพื้นที่อย่างละเอียด ห้ามยานพาหนะที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาโดยเด็ดขาด รวมถึงต้องจัดทำบัญชียานพาหนะที่อยู่ในบริเวณที่ว่าการอำเภอ และหากพบสิ่งผิดปกติให้รายงานผู้บังคับบัญชาโดยทันที
“เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบสุขของพี่น้องชาวมุสลิม จึงให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง และให้ผู้บังคับกองร้อย อส. และปลัดอำเภอหัวหน้าชุดคุ้มครองตำบล กำกับดูแลพื้นที่ให้มีความปลอดภัยตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเดือนรอมฎอน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการรักษาความปลอดภัยของประชาชน และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้บังคับการ อส.จังหวัด นายอำเภอ ในฐานะผู้บังคับกองร้อย อส.อำเภอ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ผ่านสายด่วนตำรวจ 191 หรือสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 โทร. 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง.-319-สำนักข่าวไทย