นายกฯ ชี้ไทยผ่านวิกฤติโควิดจนแข็งแกร่ง เชื่อปี 65 เป็นปีแห่งการต่อยอด

กทม. 2 ม.ค.-นายกฯ โพสต์ข้อความไทยผ่านวิกฤติในปี 2564 มาได้จนแข็งแกร่งขึ้น ชี้ รัฐบาลคลี่คลายปัญหาจากโควิด-19 สามารถเปิดประเทศ ช่วยเศรษฐกิจฟื้นตัว แจงออกมาตรการต่างๆ ช่วยประชาชน เชื่อปี 2565 จะเป็น “ปีแห่งการต่อยอด”

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ข้อความว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหาโควิด รวมทั้งปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการจำเป็นต้องปิดประเทศ นอกจากนั้นยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ได้สั่งการและติดตามการแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมานาน โดยเฉพาะการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดในยามวิกฤต ผมจึงรู้สึกยินดีที่มาตรการต่างๆ ที่ผมได้สั่งการไปนั้น มีส่วนคลี่คลายหลายปัญหาให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เช่นในเรื่องดังต่อไปนี้


  1. การจัดการปัญหาโควิด รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนได้ตามเป้าหมาย และฉีดวัคซีนฟรีให้ประชาชนได้มากกว่า 100 ล้านโดส เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีส่วนสำคัญทำให้ไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาด ลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลงได้ จนสามารถเปิดประเทศ เปิดกิจการและกิจกรรมต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนได้กลับไปทำงาน เปิดร้านค้าและธุรกิจต่างๆ ได้บนมาตรการความปลอดภัย
  2. ผลจากการเปิดประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นกว่าเดิม ในปีหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวสูงขึ้นทุกภูมิภาค ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ และการลงทุน เศรษฐกิจไทยจะพร้อมกลับมาทะยานอีกครั้งในปี 2565 ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยรัฐบาลได้เตรียมแผนส่งเสริมการค้าการลงทุนไว้แล้ว ทั้งในระดับนานาชาติ ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับจังหวัด หรือกลุ่มจังหวัด
  3. โครงการคนละครึ่ง ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและรักษากำลังซื้อในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์จริง ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรายย่อย เฉพาะเฟส 3 มียอดการใช้จ่ายสะสมกว่า 2 แสนล้านบาท และพร้อมขยายผลเฟส 4 ในช่วงเดือน มี.ค.- เม.ย.65
  4. ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด รัฐบาลได้ออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อ ที่สามารถช่วยพี่น้อง SMEs กระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย ให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ถึง 2.4 แสนล้านบาท นอกจากจะรักษาระดับการจ้างงานแล้ว ยังสร้างการจ้างงานใหม่ได้มากกว่า 2.65 ล้านตำแหน่ง
  5. สำหรับพี่น้องเกษตรกรผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ผมพูดเสมอว่าเป็นกลุ่มที่ผมมีความห่วงใยอย่างยิ่ง และคิดหาวิธีตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไรจะช่วยพี่น้องเกษตรกรได้มากที่สุด โดยเฉพาะในยามลำบากเช่นนี้ ผมจึงดีใจที่ได้รับรายงานว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สามารถช่วยเหลือชาวนาไทยได้ 4.7 ล้านครัวเรือน เป็นเงินมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท

อีกปัญหาใหญ่ที่ผมยอมรับว่าทำให้ผมกังวลใจ และเป็นห่วงพี่น้องที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก นั่นคือ “ปัญหาหนี้สินครัวเรือน” ซึ่งวิกฤติโควิดที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปีนั้น ยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาหนักหน่วงขึ้นไปอีก ผมจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการผ่อนคลายความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น ตลอดทั้งปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้วอย่างน้อย 8 ด้าน ดังนี้

  1. การแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
  2. การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้ ผ่านกลไกธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินของรัฐ
  3. การแก้ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์
  4. การแก้ปัญหาหนี้สินข้าราชการ
  5. การปรับลดและทบทวนโครงสร้างและเพดานอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม รวมทั้งการออกมาตรการคุ้มครองสิทธิ์ของลูกหนี้
  6. การแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
  7. การแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อยและ SMEs
  8. การปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม

ซึ่งทั้งหมดนี้ ยังจะต้องดำเนินการต่อเนื่องให้มากขึ้นอีก โดยตั้งเป้าหมายให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” ให้สำเร็จให้ได้ โดยสองกลุ่มอาชีพสำคัญที่เป็นเป้าหมาย และมีปัญหาหนี้สินที่หมักหมมมาช้านาน นั่นคือ กลุ่มข้าราชการครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการโดยด่วนตามแนวทางที่ได้วางไว้ ทั้งการยุบยอดหนี้ การปรับลดค่าธรรมเนียม ปรับปรุงระบบการตัดเงินเดือน การพักชำระหนี้ การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น โดยควรที่จะมีเงินหลือใช้ไม่ต่ำกว่า 30% ของเงินเดือน


แม้ว่าอาจจะมีอุปสรรคเกิดขึ้นมากมายในปี 2564 กับประเทศของเราและทั่วโลก แต่ไทยเราสามารถผ่านมาได้ด้วยความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ หากเรามองย้อนกลับไปแล้วก็จะพบว่า อุปสรรคที่เราพบเจอนั้น กลับส่งผลประเทศไทยแข็งแกร่งขึ้น เกิดโอกาสในวิกฤตโควิดที่เปิดทางให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพระดับโลก ที่ทั่วโลกต้องจับตามอง ทั้งความแข็งแกร่งด้านระบบสาธารณสุข อันดับ 5 ของโลก ประเทศที่น่าเริ่มต้นธุรกิจที่สุด อันดับ 1 ของโลก กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่ามาทำงานและท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก และไทยเป็น Top Ten ของประเทศที่มีวัฒนธรรม และน่ามาเยือนมากที่สุด ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าปี 2565 จะเป็น “ปีแห่งการต่อยอด” ของไทย จากศักยภาพและความสำเร็จท่ามกลางวิกฤตที่เราได้สร้างไว้ตลอดปี 2564 ที่ผ่านไป ซึ่งจะเป็นการต่อยอดอย่างมั่นคง ยั่งยืน ด้วยโอกาสดีๆ ที่เราจะได้รับตลอดทั้งปี

ท้ายที่สุดนี้ ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุข ร่มเย็น พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ประสบพบเจอกับสิ่งที่ดีตลอดทั้งปี ปลอดโรค ปลอดภัย เปี่ยมพร้อมไปด้วยแรงกายแรงใจ ในการช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าตามเป้าหมายในปีใหม่ 2565 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ร่วมวงถก สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เลื่อนวาระงาน เพื่อร่วมประชุม สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเป็น 11.00 น. เพื่อมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มารอต้อนรับ ซึ่งการร่วมประชุม กับ สมช. ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าและเป็นการมาร่วมประชุมกับ สมช. เป็นครั้งแรก .-316 -สำนักข่าวไทย

โคราชพบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19

นครราชสีมา 6 มิ.ย. – จ.นครราชสีมา พบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19 เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 เผยตัวเลขเก็บศพโควิด เดือนนี้ 8 ราย ส่วนยอดติดเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน 68 วันเดียวเพิ่ม 2 หมื่นคน นายชัยสิทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 โพสต์ภาพลงในโซเชียล ขณะอาสากู้ภัย “ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หรือ ฮุก 31” กำลังช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากโรงพยาบาล ไปฌาปนกิจ พร้อมข้อความเตือน “ระวังกันนะครับ ให้ระวังกัน เพราะช่วงนี้ติดเชื้อกันเยอะ คนที่ไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ไม่เกี่ยงอายุ วันนี้ มีตั้งแต่ไม่กี่ขวบ จนถึงสูงอายุ ทีมงานฮุก 31 บ้านหลังสุดท้าย ทุกๆ เขตรับผิดชอบ เริ่มมีภารกิจถี่ขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. […]

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]