ทำเนียบรัฐบาล 9 ธ.ค.- โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ติดตามสถานการณ์โควิดใกล้ชิด แม้ภาพรวมติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง แนะประชาชนฉีดวัคซีน ลดรุนแรงได้ทุกสายพันธุ์
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมติดตามสถานการณ์รายวันของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด แม้ภาพรวมผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้(9 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 4,203 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 7,939 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 49 ราย ส่วนผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 60,415 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 จำนวน 2,047,662 ราย
“รายงานภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจำนวนผู้ที่ได้รับได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. – 6 ธ.ค. 2564 อยู่ที่ 95,616,058 โดส ใน 77 จังหวัด โดยแบ่งเป็น จำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 49,308,940 ราย ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 42,527,505 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม 3,779,613 ราย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ โอไมครอน โดยวางแนวป้องกันตามช่องทางการเดินทางเข้าออกประเทศและสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด การสุ่มตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยไข้หวัดที่เป็นกลุ่มก้อน (Cluster) และส่งตัวอย่างเชื้อที่พบจากผู้เดินทางหรือรายที่น่าสงสัยไปตรวจหาสายพันธุ์ โอไมครอนที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำให้การตรวจพบเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากภายนอกได้เร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถคัดกรองผู้ที่เข้าข่ายอาการป่วยได้อย่างทันท่วงที
“ประชาชนสามารถให้ความร่วมมือได้ โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ฉีดวัคซีนโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด ใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคลที่เข้มงวด เช่น สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และ VUCA คือ V Vaccine ฉีดครบโดส ลดการป่วยหนัก U Universal Prevention การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล C Covid Free Setting มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร และตรวจ A ATK เป็นประจำหรือเมื่อมีอาการป่วยหรือใกล้ชิด สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวถึงกรณีล่าสุดที่ศบค. รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายที่ 2 และ 3 ของประเทศไทย ซึ่งเดินทางมาจากทวีปแอฟริกา พบว่ายังไม่ได้รับวัคซีน ขณะที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ไม่ใส่หน้ากากอนามัย จึงเพิ่มความเสี่ยงในการรับเชื้อ ปัจจุบันทั้ง 2 รายอยู่ระหว่างการคุมสังเกตอาการเพิ่มเติมอีก 7 วัน จึงขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนที่ยังลังเลไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน ให้รีบเข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันป้องกันตัวเองจากเชื้อโควิด-19 ช่วยลดอาการรุนแรงจากเชื้อโควิดได้
“รัฐบาลอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงวัคซีน โดยประชาชนที่ต้องการฉีดวัคซีน สามารถประสานอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือสถานพยาบาลสุขภาพใกล้บ้าน เพื่อรับคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนที่ถูกต้องได้ นายกรัฐมนตรีต้องการให้ประชาชนเปลี่ยนความกังวลและความตกใจให้เป็นพลังป้องกันต่อสู้โรค โดยการฟังข้อมูลข่าวสารจากทางภาครัฐ มาตรการรับมือกับโรคและแนวทางป้องกันต่าง ๆ หากต้องการทราบข้อมูล สามารถสอบถามจากแหล่งที่ให้ข้อแนะนำที่เชื่อถือได้ เช่น กรมควบคุมโรค และหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อช่วยลดความตื่นกลัว และนำมาใช้ป้องกันโรคอย่างถูกทาง” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย