ทำเนียบรัฐบาล 8 ธ.ค.-ศบค.เผย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,618 ราย เสียชีวิต 38 ราย พบผู้ไม่ฉีดวัคซีน 75.38% เพราะกลัวอัมพฤกษ์ อัมพาต อ่อนแรง ทำงานไม่ได้
พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้(8 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,618 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,467 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 95 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 40 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 16 ราย มาจากเนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เวียดนาม ลาว ประเทศละ 1 ราย รัสเซีย 2 ราย สหราชอาณาจักร เยอรมนี สวีเดน ประเทศละ 3 ราย
พญ.สุมนี กล่าวว่า ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 697 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,152,384 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหาย 5,775 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 64,200 ราย อาการหนัก 1,217 ราย โดยใส่เครื่องช่วยหายใจ 321 ราย
พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตมีจำนวน 38 ราย เป็นชาย 18 ราย หญิง 20 ราย อายุเฉลี่ย 73 ปี (อายุระหว่าง 25-92 ปี) โดยเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 27 ราย คิดเป็น 71% และเป็นผู้อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 13% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 16% รวม ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 21,035 ราย
พญ.สุมนี กล่าวว่า จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 847 ราย, นครศรีธรรมราช 241 ราย, สงขลา 182 ราย, เชียงใหม่ 134 ราย, สุราษฎร์ธานี 133 ราย, ชลบุรี 109 ราย, ปัตตานี 104 ราย, พัทลุง 86 ราย, สมุทรปราการ 83 ราย และตรัง 82 ราย
“พบคลัสเตอร์ทั้งในโรงงาน สถานประกอบการ ที่กรุงเทพมหานคร ลำพูน สิงห์บุรี ชลบุรี ,ในตลาดที่พิษณุโลก ขอนแก่น เชียงใหม่ ยะลา ตาก ลำพูน ,ในแคมป์คนงาน ที่กรุงเทพมหานคร ปราจีนบุรี สมุทรปราการ ,ในสถานศึกษา ที่ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ อุบลราชธานี ,ในค่ายทหาร ที่ปัตตานี และในร้านอาหาร ที่อุบลราชธานี สุราษฏร์ธานี” พญ.สุมนี กล่าว
พญ.สุมนี กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันที่ 6 ธ.ค.64 มีจำนวนทั้งหมด 6,553 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 5,713 ราย, Sandbox 681 ราย, Quarantine 7 วัน 26 ราย, Quarantine 10 วัน 114 ราย และ Quarantine 14 วัน 19 ราย
พญ.สุมนี กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามผู้ที่เดินทางเข้ามาจากประเทศเสี่ยงสูง 8 ประเทศจากทวีปแอฟริกา ตั้งแต่ช่วง 15-27 พ.ย. และ 15 พ.ย.-5 ธ.ค. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 333 คน เดินทางออกไปแล้ว 55 คน กักตัวครบ 14 วัน 113 คน อยู่ระหว่างกักตัวและติดตามได้ 152 คน ซึ่งในส่วนนี้ตรวจ RT-PCR แล้ว ไม่มีอาการ ผลเป็นลบทั้งหมด และยังต้องติดตามเพิ่มอีก 13 คน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขในเรื่องของมาตรการเฝ้าระวังตรวจสอบและคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศยังคงมีประสิทธิภาพและสามารถวินิจฉัยการติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว
“มาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ โดยจากข้อมูลพบว่าหากใกล้ชิดผู้ติดเชื้อแต่ใส่หน้ากากอนามัยทั้งคู่จะมีความเสี่ยงได้รับเชื้อ 1.5% และหากใส่หน้ากากอนามัยรวมถึงอยู่ห่างกัน 2 เมตร จะมีความเสี่ยงได้รับเชื้อ 0 %” พญ.สุมนี กล่าว
พญ.สุมนี กล่าวว่า กรมควบคุมโรคเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยสอบถามผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว ถึงสาเหตุที่ยังไม่ฉีดวัคซีน 5 อันดับแรก พบว่า กลัวมีอาการอ่อนแรง ทำงานไม่ได้ 75.38% กลัวเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต 74.62% กลัวเกิดอาการข้างเคียง เช่น เป็นไข้ อาเจียน ปวดหัว ปวดตัว 72.31% ไม่แน่ใจในประสิทธิภาพวัคซีน 64.62% คิดว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อ 53.08% เมื่อสอบถามว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ ผลสำรวจออกมาว่าขอคิด/รอดูก่อน 42.30% ไม่ฉีดแน่นอน 30.77% จะฉีดเมื่อมีโอกาส 26.93%
พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีน ตั้งแต่ 28 ก.พ. – 6 ธ.ค. 2564 รวม 95,616,058 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 49,308,940 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 42,527,505 ราย และจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 3,779,613 ราย พญ.สุมนี กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 13 ธ.ค.นี้ จะประชุมศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เนื่องจากสถานการณ์ระบาดดีขึ้น และมีความครอบคลุมการฉีดวัคซีนในจังหวัดต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย
