สระบุรี 4 ธ.ค.-ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกิจกรรมวันดินโลก (World Soil Day) ประจำปี 2564 เน้นย้ำ ช่วยกันบ่มเพาะให้กับลูก ๆ หลาน ๆ เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ร่วมสืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9 ช่วยกันสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างยั่งยืน
วันนี้ (4 ธ.ค. 64) เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านพุแค หมู่ที่ 1 ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในกิจกรรมวันดินโลก World Soil Day ปี 2564 โดยมี นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายสมภพ สมิตะสิริ นางอังคณา ชิตะติตติ นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นางวรสุดา วรสุคนธ์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัด นายอำเภอ ข้าราชการ ประชาชน เด็กและเยาวชน และภาคีเครือข่าย ร่วมกิจกรรม
ในโอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้เข้าร่วมพิธีทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกล่าวคำน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ได้ทรงดำรงมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม และทรงยึดมั่นในปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” อีกทั้งทรงพระวิริยอุตสาหะ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อให้ประชาชนได้รับความร่วมเย็น ตลอดจนทุกคราที่ชาติบ้านเมืองประสบความทุกข์ยากจากวิกฤตภัยต่าง ๆ พระองค์ได้พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์และพระราชทานแนวทางเพื่อคลี่คลายขจัดปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นำความผาสุกมาสู่ประเทศและอาณาประชาราษฎร์โดยถ้วนหน้า โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ล้วนเป็นการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ประชาชนชาวไทยสามารถดำเนินชีวิตด้วยความผาสุกมั่นคงในทุกสถานการณ์ของบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงการทำหน้าที่บนหลักของการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ นับเป็นแนวทางสำคัญที่ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายยึดถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่เสมอมา ซึ่งแม้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่โครงการตามพระราชดำริน้อยใหญ่ยังคงผลิดอกออกผล และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลก ตัวอย่างเช่น ผลสำเร็จของการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรดินผ่านโครงการต่าง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เป็นที่มาของการทูลเกล้าฯ ถวาย “รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม : Humanitarian Soil Scientist” เป็นพระองค์แรกของโลก โดยสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ หรือ IUSS : International Union of Soil Science และองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้มีมติรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันดินโลก (World soil Day) ทำให้ประเทศสมาชิก UN กว่า 200 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย มีการจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลกพร้อมกัน เพื่อเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนกิจกรรมการรณรงค์และเผยแพร่ความรู้ทางด้านดิน และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของดิน ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ต่อมนุษยชาติและสภาพแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งพวกเราทุกคนจะสืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี จะยึดมั่นในการปฏิบัติดี รักษาชาติบ้านเมือง และสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สนองพระมหากรุณาธิคุณตลอดไป”
จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เยี่ยมชมนิทรรศการ และร่วมกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของดิน ผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคี เรียนรู้ผ่านหลักกสิกรรมธรรมชาติ รักษ์ดิน คืนชีวิตให้ผืนดิน 4 กิจกรรม ได้แก่ การทำปุ๋ยหมักแห้ง ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกป่า 5 ระดับ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และห่มดิน แห้งชาม-น้ำชาม
ภายหลังเสร็จกิจกรรม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับจังหวัดสระบุรี และพี่น้องประชาชนในจังหวัดสระบุรี มาร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมทั้งปลูกฝังบ่มเพาะให้กับลูก ๆ หลาน ๆ เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ด้วยการฝึกปฏิบัติ ทั้งการบำรุงดินตามหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เช่น ตัวอย่างเรื่องของการห่มดิน การทำปุ๋ยหมัก เพื่อให้ดินมีคุณภาพที่ดี เรียนรู้เรื่องการทําคลองไส้ไก่ เพื่อที่จะทำให้น้ำสามารถไหลไปหล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินของเราได้โดยทั่วถึง และจะทำให้ต้นไม้ที่เป็นพืชอาหารก็ดี เป็นที่ที่ให้ความร่มเย็น เป็นยารักษาโรค และเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้มีน้ำที่อุดมสมบูรณ์ โดยไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ สามารถที่จะดำรงชีวิตได้ แต่ต้องไม่ขี้เกียจ และต้องไม่ขี้โม้ เรามาช่วยกันฝึกลูกหลานของเรา
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจ และความหวัง และทรงมีพระราโชบายที่สำคัญในการที่จะที่ทำให้พวกเราคนไทยทุกคนได้น้อมนำเอาแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ซึ่งในขณะนี้ทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณและแนวนโยบายของการให้ความสำคัญในการน้อมนำเอาทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา เพื่อใช้พัฒนาพื้นที่และพัฒนาคุณภาพชีวิต และกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy Model) มีเป้าหมายเพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งในลักษณะที่ดินที่ทำด้วยตนเอง และลักษณะที่มีที่ดินมากและอยากช่วยเหลือ อยากสงเคราะห์คนยากไร้เพื่อมีที่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อจะนำมาพัฒนาเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลทำให้ประเทศชาติของเราเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองที่สมบูรณ์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย