ทำเนียบ 25 พย. -“นายกฯ” มอบรางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมซนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ขอนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นต่อยอด สร้างรายได้ ขอประชาชนอย่าเลือกวัคซีน รีบฉีดลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด ระบุประกันราคาข้าวใช้เงินสูง เร่งแก้ปัญหาจากต้นทาง สั่งคลังจัดการงบฯ ไม่เพียงพอ
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบโล่รางวัลในพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมซนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” เพื่อยกย่อง สร้างขวัญกำลังใจแก่ชุมชนและผู้สนับสนุนการขับเคลือนชุมชน ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดชุมชน”เที่ยวชุมชน ยลวิถี แก่ผู้นำชุมชน 10รางวัล และรางวัลผู้สนับสนุนการชับเคลื่อนชุมชนแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกอบด้วย 1.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนบุรี ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ 2.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของจ.เชียงราย 3.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโคกเมือง ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 4.ชุมชนคุณธรรมฯบ้านสามช่องเหนือ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 5.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดศรีดอนคำ ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง จ.แพร่ 6.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านผาบ่อง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน 7.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเก่าริมน้ำประแสต. ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง 8.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่ามะโอ ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง 9.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ ต.บางใบไม้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี และ 10.ชุมชนคุณธรมฯเมืองลับแล ต.ศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอชื่นชมการดำเนินงาน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ และผู้ว่า ราชการจังหวัดที่สนับสนุนการขับเคลื่อน ทั้ง 10 จังหวัด รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรม ที่ขับเคลื่อนงานนี้ให้ประสบความสำเร็จ โดยรางวัลที่ทุกคนได้รับนี้แสดงให้เห็นถึงการได้อุทิศตน ทุ่มเท และเสียสละแรงกาย แรงใจขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 10 จังหวัด ที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำทุนทางวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่มีอยู่ในชุมซน ท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ เชื่อโยงไปสู่การท่องเที่ยววิถีชุมชน สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพื่อร่วม “พลิกโฉมประเทศไทยสู่สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน”
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเอาไว้แล้ว โดยเฉพาะการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่มี BCG ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศด้วยเศรษฐกิจ ควบคู่ กับการลดโลกร้อน ที่ภัยธรรมชาติเตือนไทย และทั่วโลก ดังนั้นจำเป็นต้อง ปรับวิธีการดำเนินการเศรษฐกิจใหม่รวมทั้งดำเนินการชีวิตใหม่ของเราให้สอดคล้องกับคำว่า New normal หรือ Universal Prevention เพื่อป้องกันตัวออกจากโควิด
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สถานการณ์โควิดภายในประเทศค่อยๆดีขึ้น แต่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ให้ฉีดวัคซีนให้ครบ ซึ่งขณะนี้วัคซีนเพียงพอแล้ว อย่ารอ หรือ เลือก เพราะวัคซีนเราผ่านการอนุมัติ จาก องค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและยาของประเทศไทย ส่วนตัวผมฉีดครบแล้ว แต่ หลายคนยังไม่ยอมฉีด ขอย้ำว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันช่วยไม่ทำให้โรครุนแรงหรือเสียชีวิตจึงขอความร่วมมือ และขอให้แต่ละจังหวัดจัด สถานที่จุดบริการให้กับประชาชน เพราะที่ทำทั้งหมดจะเกิดผลประโยชน์ ไม่ให้โควิดกลับมาแพร่ระบาดอีก
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า วันนี้สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นเรื่องของความเข้มแข็งของประเทศ และไทย มีความหลากหลายทางชีวภาพทางภูมิศาสตร์จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราต้อง ทั้งวิจัยและพัฒนาเพิ่มมูลค่า เราจำเป็นต้องมีรายได้เพิ่มเติม จากนวัตกรรมใหม่ต้องมีรายได้เพิ่มจากท่องเที่ยว ผลิกโฉมใหม่สร้าง ผลิตภัณฑ์ใหม่
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การประกันราคาข้าว ว่าประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมซึ่งราคาสินค้าเกษตรค่อนข้างผันผวนต้นทุนการผลิตสูง กำไรส่วนต่างน้อย รัฐบาลต้องเข้าไปประกันราคาข้าวซึ่งใช้เงินมหาศาล ในเวลานี้ต้องดูว่าต้องทำอย่างไรรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่ซึ่ง
“เมื่อวานนี้ได้สั่งการให้แก้ไขงบประมาณที่มีไม่เพียงพอไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุดแต่จะต้องทำอย่างไรเพราะโครงการดังกล่าวต้องใช้เงินมากขึ้นเรื่อยๆต้องทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ตั้งแต่ต้นทางไม่ใช่มาแก้ปัญหาปลายทาง ซึ่งใช้เงินจำนวนมากเกินไปไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ เราต้องดูแล แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้มแข็งได้ด้วยตัวเองมากที่สุด เพื่อที่จะช่วยพัฒนาดูแลประชาชนทั้งประเทศ ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรียังได้ฝากเรื่องของการศึกษาของลูกหลานและเยาวชนว่ารัฐบาลจะลงทุนเรื่องการศึกษาให้ถึงที่สุดและขอให้ผู้ปกครองใส่ใจว่าลูกหลานชอบเปลี่ยนอะไรอยากให้เรียนตามเพื่อนเพราะจบมาแล้วจะไม่มีงานทำ นอกจากนี้ต้องดูว่าตลาดแรงงานต้องการอะไรเพื่อเรียนแล้วจบมามีงานทำ
ในช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนให้คนในห้องประชุมได้เปิด YouTube ค้นหาคำว่า ชิลไปไหน – Chillpainai พร้อมระบุว่า หลังจากที่ได้ดูแล้วรู้สึกรักเมืองไทยมากยิ่งขึ้น เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งเตรียมจะนำไปเปิดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารหน้า
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วย ว่าส่วนตัวไม่มีโอกาสได้ท่องเที่ยวมาเป็น 10 ปีแล้วเพราะตั้งแต่เป็นทหารผู้ใหญ่ และมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยว จะได้เห็นก็ต่อเมื่อนั่งอยู่บนเครื่องบิน หรือนั่งในรถ ดังนั้นเราต้องรู้จักและเราต้องเห็นประเทศไทยให้ครบ เพื่อที่จะมาเชื่อมต่อกัน อยากให้ทุกคนได้เข้าไปดู เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมต่อเพิ่มเติมความคิดเข้าไปสนับสนุนการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ปลอดภัยควบคุมมาตรฐานได้ประเทศไทยจะมีคนเข้ามาท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมากดังนั้นเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรี ถ่ายรูปกับผู้ได้รับรางวัลร่วมกันนายกรัฐมนตรี ได้หันมาสั่งการกับทีมงานว่า ขอให้นำวิดิทัศน์ที่ฉายก่อนพิธีเปิดงานวันนี้ นำไปเปิดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เห็นถึงวิถีชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในแต่ละจังหวัด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและให้ทุกฝ่ายนั้นทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมชมนิทรรศการของแต่ละจังหวัดที่ได้รับรางวัล 10 ยอดชุมชนต้นแบบโดยนายกรัฐมนตรีได้ซื้อผ้าไหมของจังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นผ้าไหมสีม่วง โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าชอบสีนี้
อย่างไรก็ตามระหว่างเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าสื่อมวลชน สอบถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับประเด็นกลุ่มป้องสถาบันนัดรวมตัวหน้าทำเนียบรัฐบาล ปราศรัย-ยื่นหนังสือถถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบการทำงานขององค์แอมเนสตี้ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าถือว่าเป็นการขัดแย้งเพราะเป็นความคิดของคน ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปปฏิบัติภารกิจต่อ.-สำนักข่าวไทย