นายกฯ ขออย่าเลือกวัคซีน รีบฉีดลดความเสี่ยง

ทำเนียบ 25 พย. -“นายกฯ” มอบรางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมซนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ขอนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นต่อยอด สร้างรายได้ ขอประชาชนอย่าเลือกวัคซีน รีบฉีดลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด ระบุประกันราคาข้าวใช้เงินสูง เร่งแก้ปัญหาจากต้นทาง สั่งคลังจัดการงบฯ ไม่เพียงพอ


พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบโล่รางวัลในพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมซนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” เพื่อยกย่อง สร้างขวัญกำลังใจแก่ชุมชนและผู้สนับสนุนการขับเคลือนชุมชน ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดชุมชน”เที่ยวชุมชน ยลวิถี แก่ผู้นำชุมชน 10รางวัล และรางวัลผู้สนับสนุนการชับเคลื่อนชุมชนแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกอบด้วย 1.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนบุรี ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ 2.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของจ.เชียงราย 3.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโคกเมือง ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 4.ชุมชนคุณธรรมฯบ้านสามช่องเหนือ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 5.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดศรีดอนคำ ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง จ.แพร่ 6.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านผาบ่อง ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน 7.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเก่าริมน้ำประแสต. ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง 8.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่ามะโอ ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง 9.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ ต.บางใบไม้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี และ 10.ชุมชนคุณธรมฯเมืองลับแล ต.ศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอชื่นชมการดำเนินงาน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ และผู้ว่า ราชการจังหวัดที่สนับสนุนการขับเคลื่อน ทั้ง 10 จังหวัด รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรม ที่ขับเคลื่อนงานนี้ให้ประสบความสำเร็จ โดยรางวัลที่ทุกคนได้รับนี้แสดงให้เห็นถึงการได้อุทิศตน ทุ่มเท และเสียสละแรงกาย แรงใจขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 10 จังหวัด ที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำทุนทางวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่มีอยู่ในชุมซน ท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ เชื่อโยงไปสู่การท่องเที่ยววิถีชุมชน สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพื่อร่วม “พลิกโฉมประเทศไทยสู่สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน”


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเอาไว้แล้ว โดยเฉพาะการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่มี BCG ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศด้วยเศรษฐกิจ ควบคู่ กับการลดโลกร้อน ที่ภัยธรรมชาติเตือนไทย และทั่วโลก ดังนั้นจำเป็นต้อง ปรับวิธีการดำเนินการเศรษฐกิจใหม่รวมทั้งดำเนินการชีวิตใหม่ของเราให้สอดคล้องกับคำว่า New normal หรือ Universal Prevention เพื่อป้องกันตัวออกจากโควิด



นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สถานการณ์โควิดภายในประเทศค่อยๆดีขึ้น แต่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ให้ฉีดวัคซีนให้ครบ ซึ่งขณะนี้วัคซีนเพียงพอแล้ว อย่ารอ หรือ เลือก เพราะวัคซีนเราผ่านการอนุมัติ จาก องค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและยาของประเทศไทย ส่วนตัวผมฉีดครบแล้ว แต่ หลายคนยังไม่ยอมฉีด ขอย้ำว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันช่วยไม่ทำให้โรครุนแรงหรือเสียชีวิตจึงขอความร่วมมือ และขอให้แต่ละจังหวัดจัด สถานที่จุดบริการให้กับประชาชน เพราะที่ทำทั้งหมดจะเกิดผลประโยชน์ ไม่ให้โควิดกลับมาแพร่ระบาดอีก


นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า วันนี้สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นเรื่องของความเข้มแข็งของประเทศ และไทย มีความหลากหลายทางชีวภาพทางภูมิศาสตร์จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราต้อง ทั้งวิจัยและพัฒนาเพิ่มมูลค่า เราจำเป็นต้องมีรายได้เพิ่มเติม จากนวัตกรรมใหม่ต้องมีรายได้เพิ่มจากท่องเที่ยว ผลิกโฉมใหม่สร้าง ผลิตภัณฑ์ใหม่

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การประกันราคาข้าว ว่าประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมซึ่งราคาสินค้าเกษตรค่อนข้างผันผวนต้นทุนการผลิตสูง กำไรส่วนต่างน้อย รัฐบาลต้องเข้าไปประกันราคาข้าวซึ่งใช้เงินมหาศาล ในเวลานี้ต้องดูว่าต้องทำอย่างไรรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่ซึ่ง


“เมื่อวานนี้ได้สั่งการให้แก้ไขงบประมาณที่มีไม่เพียงพอไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุดแต่จะต้องทำอย่างไรเพราะโครงการดังกล่าวต้องใช้เงินมากขึ้นเรื่อยๆต้องทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ตั้งแต่ต้นทางไม่ใช่มาแก้ปัญหาปลายทาง ซึ่งใช้เงินจำนวนมากเกินไปไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ เราต้องดูแล แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้มแข็งได้ด้วยตัวเองมากที่สุด เพื่อที่จะช่วยพัฒนาดูแลประชาชนทั้งประเทศ ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรียังได้ฝากเรื่องของการศึกษาของลูกหลานและเยาวชนว่ารัฐบาลจะลงทุนเรื่องการศึกษาให้ถึงที่สุดและขอให้ผู้ปกครองใส่ใจว่าลูกหลานชอบเปลี่ยนอะไรอยากให้เรียนตามเพื่อนเพราะจบมาแล้วจะไม่มีงานทำ นอกจากนี้ต้องดูว่าตลาดแรงงานต้องการอะไรเพื่อเรียนแล้วจบมามีงานทำ

ในช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนให้คนในห้องประชุมได้เปิด YouTube ค้นหาคำว่า ชิลไปไหน – Chillpainai พร้อมระบุว่า หลังจากที่ได้ดูแล้วรู้สึกรักเมืองไทยมากยิ่งขึ้น เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งเตรียมจะนำไปเปิดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารหน้า

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วย ว่าส่วนตัวไม่มีโอกาสได้ท่องเที่ยวมาเป็น 10 ปีแล้วเพราะตั้งแต่เป็นทหารผู้ใหญ่ และมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยว จะได้เห็นก็ต่อเมื่อนั่งอยู่บนเครื่องบิน หรือนั่งในรถ ดังนั้นเราต้องรู้จักและเราต้องเห็นประเทศไทยให้ครบ เพื่อที่จะมาเชื่อมต่อกัน อยากให้ทุกคนได้เข้าไปดู เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมต่อเพิ่มเติมความคิดเข้าไปสนับสนุนการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ปลอดภัยควบคุมมาตรฐานได้ประเทศไทยจะมีคนเข้ามาท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมากดังนั้นเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรี ถ่ายรูปกับผู้ได้รับรางวัลร่วมกันนายกรัฐมนตรี ได้หันมาสั่งการกับทีมงานว่า ขอให้นำวิดิทัศน์ที่ฉายก่อนพิธีเปิดงานวันนี้ นำไปเปิดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เห็นถึงวิถีชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในแต่ละจังหวัด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและให้ทุกฝ่ายนั้นทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมชมนิทรรศการของแต่ละจังหวัดที่ได้รับรางวัล 10 ยอดชุมชนต้นแบบโดยนายกรัฐมนตรีได้ซื้อผ้าไหมของจังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นผ้าไหมสีม่วง โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าชอบสีนี้

อย่างไรก็ตามระหว่างเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าสื่อมวลชน สอบถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับประเด็นกลุ่มป้องสถาบันนัดรวมตัวหน้าทำเนียบรัฐบาล ปราศรัย-ยื่นหนังสือถถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบการทำงานขององค์แอมเนสตี้ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าถือว่าเป็นการขัดแย้งเพราะเป็นความคิดของคน ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปปฏิบัติภารกิจต่อ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]

ชาวบ้านผวาโดรนปริศนา บินว่อนพื้นที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 1 ส.ค. – ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ผวาพบโดรนปริศนาบินว่อนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ หวั่นเป็นของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบินสอดแนม ชาวบ้านหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ต่างหวาดผวา หลังยังพบโดรนปริศนาจำนวนหลายลำบินว่อนในหลายอำเภอ เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ละหานทราย อ.ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ถึงที่มาที่ไปของโดรนว่ามาจากไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นของคนไทยก็จะนำตัวมาสอบถาม จุดประสงค์ในการบิน และอาจถูกดำเนินคดี เนื่องจาก ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้ออกประกาศห้ามอากาศไร้คนขับหรือโดรนบิน ในช่วงนี้เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นโดรนฝ่ายกัมพูชาที่ลักลอบบินเข้ามาสอดแนมหรือจับพิกัดเป้าหมายสำคัญในไทย เจ้าหน้าที่จะเร่งหามาตรการป้องกันสกัดกั้น เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ สำหรับภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย หลังเจรจาหยุดยิง ขณะนี้ยังไม่พบการปะทะกันขึ้น แต่โรงเรียนในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย รวม 85 แห่ง ยังคงปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่จังหวัดยังไม่มีประกาศให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านพักได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ประกอบกับต้องเคลียร์พื้นที่ก่อนเพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก.-สำนักข่าวไทย