“พิชัย” เตรียมลงรายละเอียดสินค้าสหรัฐนำเข้าไทย 0% รอสภาไฟเขียว

ทำเนียบ 1 ส.ค.-“พิชัย” เผย ครม.รับทราบเนื้อหาข้อตกลงอัตราภาษีสหรัฐฯ 19% ก่อนส่งสภาฯ เชื่อผู้ประกอบการเร่งส่งออกก่อน 7 ส.ค.นี้ บอกวางมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแล้ว เตรียมลงรายละเอียดสินค้าสหรัฐฯ นำเข้าไทย 0% ต้องรอสภาฯ ไฟเขียว

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษ ว่า หลังจากที่เช้าวันนี้ (1 ส.ค.) ได้รับแจ้งอัตราภาษีสหรัฐ ที่ไทยได้รับ 19% ได้นำผลการเจรจาเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ให้รับทราบซึ่งเป็นข้อเสนอข้อตกลงแบบไม่มีข้อผูกพันเป็นหลักการใหญ่ว่าเราตกลงอะไรไว้บ้าง เพื่อไปดำเนินการลงรายละเอียดในสัญญาแต่ละเรื่อง โดย ข้อตกลงทั้งหมดที่ยื่นไปเมื่อวาน (31 ก.ค.) ชุดสุดท้าย จนนำมาซึ่งอัตราภาษี 19% และวันนี้ ครม. รับทราบและให้ความเห็นชอบแล้ว โดยหลังจากนี้สหรัฐอเมริกาจะเผยแพร่ข้อตกลงทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อตกลงแบบกรอบใหญ่ๆ ในการเข้ามานั่งเจรจา เป็นข้อตกลงที่เรียกว่า
ART Text (Agreement on Reciprocal Tariff Text) หรือเนื้อหาข้อตกลงอัตราภาษีต่างตอบแทน ซึ่งเราจะทำรายละเอียดในเรื่องนี้ต่อไป และคงจะมีการหารือในเร็ววันนี้ เพราะ ครั้งนี้เป็นเพียงครั้งที่1 ที่ตกลงกัน และจะมีรายละเอียดในเร็ววันนี้ เพราะสหรัฐได้แจ้งมาว่าทันทีที่เสร็จเรื่องนี้ก็อยากจะหารือต่อเลย


เมื่อถามว่าขั้นตอนหลัง ครม. อนุมัติ จะเป็นอย่างไรต่อ นายพิชัย กล่าวว่า เมื่อเราได้กรอกใหญ่มาแล้วก็จะเอากรอบนี้ไปเจรจา เพื่อนำมาซึ่งสัญญาในรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น และในสัญญาก็จะลงรายละเอียดในแต่ละเรื่อง คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกสักพัก แต่ตนคิดว่าในหลายอย่างที่ยังเปิดไว้ เช่น เรื่องที่เราจะซื้อสหรัฐ หรือ สหรัฐจะส่งเข้ามามีกติกาอย่างไร รวมถึงเรื่องสำคัญ คือ กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ (Rule of Origin)

ส่วนขั้นตอนการนำเนื้อหาข้อตกลงอัตราภาษีต่างตอบแทน เข้าสู่สภาเป็นอย่างไร นายพิชัย กล่าวว่า มีรายละเอียดเยอะ แต่จะทำให้เร็วที่สุด และเชื่อว่าการเจรจานี้ สังเกตได้ว่ามีการประกาศออกมาหลายประเทศ แสดงว่าเวลาที่ออกมามีกรอบกัน มีเฉพาะบางประเด็นที่เป็นไปตามประเทศนั้นๆ เชื่อว่าการเจรจาเขาคงดูประเทศอื่นร่วมด้วย ว่าแตกต่างกันอย่างไร


เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เรามีมาตรการอยู่แล้วแต่วันนี้ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้ ซึ่งเราเตรียมเรื่องที่จะช่วยไว้แล้วตามความจำเป็นที่เกิดขึ้นของแต่ลักษณะธุรกิจ

เมื่อถามว่าวงเงินช่วยเหลือที่จะใช้ 2 หมื่นล้าน นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องวงเงินถ้าจะดูวันนี้มี 2 ประเภท คือการขอเป็นซอฟต์โลน เพราะช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามีหลายคนไม่กล้าผลิตและส่ง เพราะไม่รู้ว่าจะเจออัตราภาษีสหรัฐเท่าไหร่ ทำให้การส่งออกชะลอตัวช่วย 2-3 เดือนที่ผ่านมา แสดงว่าอาจจะมีสินค้าที่เก็บไว้ในสต๊อก แต่ในวันนี้รู้อัตราภาษีแล้ว ก็คิดว่าจะมีการเจรจาซื้อขายกันได้ และเท่าที่ตนทราบ ใครที่ส่งสินค้าก่อนวันที่ 7 ส.ค. หากส่งไปสหรัฐฯ ก็จะได้ในอัตราเดิมอยู่คือ 10% แต่ถ้าไปหลังวันที่ 6 ส.ค. ข้อตกลงก็จะถูกเรียกเก็บอัตราภาษี 19% ตามข้อตกลงใหม่ เชื่อว่าผู้ส่งออกจะเร่งส่งออกกัน

นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งต้องการวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว เพราะมีสต๊อกสินค้าค้างไว้ อาจใช้ในระยะสั้น 6 เดือนถึง 1 ปี ส่วนอีกกลุ่มต้องแก้ปัญหาระยะยาว ในการส่งออก วันนี้เราต้องแก้ปัญหา 1 เรื่อง ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จึงอาจจะต้องไปดูในรายละเอียดว่า จุดไหนสู้ไม่ได้ในเรื่องอะไร ทำอย่างไรถึงจะปรับตัวได้ โดยได้ทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมและหอการค้าเพื่อดูในแต่ละประเภทธุรกิจ


เมื่อถามถึงขั้นตอนการลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 0% หลายรายการ จะเริ่มมีผลเมื่อใด นั้น นายพิชัย กล่าวว่า จะเกิดผลก็ต่อเมื่อเราได้ผ่านสภาแล้วตอนนี้ยังไม่เกิด เพราะต้องมีขั้นตอนในการดำเนินการ และคำว่า 0% มีทั้ง 0% ทันทีบางชนิดก็ไม่ได้ 0% ทันที ซึ่งสินค้าที่ 0% ทันที ส่วนใหญ่เป็นชนิดที่เราให้ประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่อเมริกาส่งมาที่เรา ส่วนสินค้าไหนที่ยังไม่มีความพร้อม เราก็ขอเวลา อีกประเภทคือเราให้นำสินค้าเข้ามาได้จะเป็น 0% หรือไม่0 % ก็ได้แต่ขอจำกัดปริมาณให้เท่าที่เราจำเป็น

เมื่อถามว่าการลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 0% ทางสหรัฐได้กำหนดเวลาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดเพราะเราต้องเจรจากันก่อน เพราะเราต้องตกลงกับสหรัฐให้เรียบร้อยก่อน ตกลงกันเสร็จเมื่อไหร่ เราเข้าขั้นตอนของกฎหมายเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากัน.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย