นายกฯ ประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน

ทำเนียบรัฐบาล 22 พ.ย. – นายกฯ ย้ำที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน มุ่งสานต่อความร่วมมือทุกมิติการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน มุ่งสู่ Next Normal พลิกโฉมประเทศไทย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุซซาลาม เป็นประธานร่วมในการประชุม ร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียน ซึ่งนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ชื่นชมบูรไนในฐานะประธาน ชื่นชมความคืบหน้าของความร่วมมือในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เพราะการเคารพซึ่งกันและกัน ร่วมรับมือกับความขัดแย้ง การพัฒนาที่เห็นชอบร่วมกันได้ช่วยเหลือ เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ร่วมรับมือกับความท้าทายวิกฤตการณ์ทางการเงิน เศรษฐกิจ และความท้าทายโควิด-19 ซึ่งการยึดมั่นการเรียนรู้ ระหว่างกันส่งเสริมกลไกที่จะทำให้อาเซียนมีบทบาทนำ ย้ำให้ความสำคัญกับอาเซียนเป็นอันดับต้น สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน โดยประธานาธิบดีสีจิ้งผิง เสนอให้ ส่งเสริมสันติภาพร่วมกัน ผ่านการหารือและสร้างหุ้นส่วน จีนต่อต้านการใช้อำนาจเพื่อต่อต้านกันและกัน พร้อมสนับสนุนภูมิภาคอาเซียนที่ปลอดอาวุธนิวเคลียร์ สร้างภูมิภาคที่ปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข โดยจะสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติม และถ่ายทอดการผลิตวัคซีน การวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงให้ความช่วยเหลือในมิติอื่น ๆ เช่น การจัดการภัยพิบัติ อาชญากรรมข้ามชาติ และรักษาสันติภาพในทะเลจีนใต้ สร้างภูมิภาคที่ไพบูลย์ เปิดการเจรจาการพัฒนา การส่งเสริม RCEP โดยจีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นในอีก 5 ปี ข้างหน้า และขอให้สมาชิกอาเซียนเข้ามามีส่วนร่วมในระเบียงการค้า สร้างภูมิภาคที่สวยงาม โดยร่วมกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมที่จะจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด และความร่วมมือด้านทะเล สร้างภูมิภาคที่มีมิตรภาพระหว่างกัน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ความร่วมมือของสตรี ความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา การส่งเสริมผู้นำรุ่นเยาว์ และความร่วมมือด้านกีฬา


ประธานาธิบดีจีน ยังเน้นย้ำการธำรงความยุติธรรม ส่งเสริมประโยชน์ของประชาชน และดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งกระชับความร่วมมือระหว่างภูมิภาค ทำให้อาเซียน-จีน มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ด้านสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ กล่าวยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ครบครอบความสัมพันธ์ที่มีความหมายอย่างยิ่ง ในวันนี้เราได้ขยายความร่วมมือที่ครอบคลุมหลังจากที่มีความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องมากว่า 30 ปี ซึ่งจีนนับเป็นประเทศคู่ภาคีแรกที่ได้ร่วมกับอาเซียน และเป็นคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน อีกทั้งยังให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในภูมิภาค ผ่านการให้ความช่วยเหลือทางด้านสาธารณสุข จึงขอขอบคุณความพยายามของจีนในการให้ช่วยเหลืออาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวแสดงความยินดีต่อวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ฯ ในฐานะ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน” ซึ่งจะขยายความร่วมมือ ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ร่วมกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อาเซียน-จีนยังเป็นเสาหลักความร่วมมือเพื่อส่งเสริมสันติภาพที่ยั่งยืนร่วมกันของภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการร่วมลงนามปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea:DOC) เมื่อปี 2545 และล่าสุดในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้านในปีนี้ อีกทั้งการเป็นคู่ค้าสำคัญของกันและกัน และได้ร่วมกันต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ซึ่งล้วนเป็นพัฒนาการสำคัญให้ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันแนบแน่นยิ่งขึ้นในอนาคต


นายกรัฐมนตรียังแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประชาชนจีน ในโอกาสครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมชื่นชมความสำเร็จด้านการพัฒนาประเทศเพื่อสร้างสังคมกินดีอยู่ดีอย่างรอบด้าน และการเป็นมหาอำนาจของโลกที่มีความรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่นานาประเทศ รวมทั้งชื่นชมวิสัยทัศน์ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่มุ่งสร้าง “ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ” แสดงถึงความมุ่งมั่นของจีนที่จะรับมือกับประเด็นท้าทายร่วมกัน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอาเซียนในการเสริมสร้างประชาคมที่เข้มแข็งและความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เผยถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพของประชาชนให้พร้อมก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และประเด็นท้าทายอื่น ๆ มุ่งสู่ Next Normal ด้วยการพลิกโฉมประเทศไทย โดยนำเสนอ 3 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.เน้นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความกินดีอยู่ดี มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาช่องว่างทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนบนหลักการของความสมดุลตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และอาเซียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากตัวอย่างความสำเร็จของจีนในการขจัดความยากจน และความหิวโหย การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารผ่านนโยบาย “คลีนเพลท” ฟื้นฟูชนบทที่เน้นการกระจายความเจริญ โดยอาจพิจารณาส่งเสริมการทำการตลาดร่วมกัน รวมทั้งสนับสนุนบทบาทของจีน ทั้งในอาเซียนและอนุภูมิภาค ผ่านกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งไทยจะเข้ารับตำแหน่งประธานร่วมกับจีนในปี 2565 และ ACMECS ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญ

2.มุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมจากฐานราก ปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนทุกช่วงวัย ผ่านการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมและปลอดภัย ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะ MSME ผู้ประกอบการสตรี และกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับยุค 4IR และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยอาเซียน-จีนควรส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ควบคู่ไปกับการเร่งสร้างสังคมดิจิทัลเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในยุค Next Normal

3.การพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่สร้างความสมดุลของสรรพสิ่งและความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งรวมถึงอาหาร พลังงาน และการทำนุบำรุงสิ่งแวดล้อม ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสานต่อบทบาทผลักดันความร่วมมือทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก มุ่งเน้นการเสริมสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งและความยั่งยืนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ เชื่อมโยงกันอย่างสมดุลของเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว โมเดลเศรษฐกิจ BCG และพร้อมจะยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคเน้นย้ำความสำคัญของดุลยภาพเชิงยุทธศาสตร์ในสถาปัตยกรรมของภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นแกนกลางบนพื้นฐานของหลักการ 3 เอ็ม ซึ่งคือ Mutual Trust Mutual Respect และ Mutual Benefit เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นฟูของทุกประเทศจากความบอบช้ำที่เกิดจากโควิด-19 และยืนยันเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของไทยเพื่อร่วมมือในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนของเราให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป ซึ่งในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวตอบนายกรัฐมนตรีว่าประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้ประสานงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอาเซียน และจีนขอสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปคปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย