fbpx

จ่อหารือเคาะร่างแก้ไข พ.ร.ป.เลือกตั้ง-พรรคการเมือง

กทม. 24 ต.ค.-ฝ่ายกฎหมาย พปชร. จ่อหารือฝ่ายเลือกตั้ง เคาะร่างแก้ไข พ.ร.ป.เลือกตั้ง-พรรคการเมือง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะประธานฝ่ายกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และ การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2561 ว่า หลังจากเปิดสมัยประชุมสภาฯวันที่ 1 พฤศจิกายน ฝ่ายกฎหมายของพรรค จะหารือกับฝ่ายเลือกตั้งและผู้ดูแลการเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อรับฟังความเห็นรวมถึงข้อเสนอต่อการแก้ไข พ.ร.ป. ทั้งฉบับ ในการนำไปใช้ในการเลือกตั้ง ส่วนการยื่นร่างแก้ไขนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง มีผลบังคับใช้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุคือ จะมีเวลา90 วันนับจากวันที่ทูลเกล้าฯ คือ 4 ตุลาคม 2564 และจะครบเวลาดังกล่าว วันที่ 2 มกราคม 2565


นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการยื่นร่างแก้ไข 2พ.ร.ป.ในขั้นตอนของพรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องรอร่างแก้ไขของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องรับฟังความเห็นของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนขั้นตอนของกกต.ที่จะเสนอเนื้อหาตนไม่ทราบว่าจะใช้เวลานานหรือไม่ แต่พรรคการเมืองสามารถเข้าชื่อ จำนวน 1 ใน 10 ของสมาชิกสภาฯ เพื่อเสนอเนื้อหาได้

“ผมเชื่อว่าการพิจารณาร่างกฎหมายลูกของรัฐสภายังมีเวลา หากทำไม่ทันในสมัยการประชุมหน้า ที่จะครบกำหนดเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สามารถขอเปิดวิสามัญพิจารณาได้ หรือสามารถรอการเปิดสมัยประชุมครั้งถัดไปในปลายเดือนพฤษภาคม ส่วนการรับฟังความเห็นขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ หลังรัฐสภาทำเนื้อหาเสร็จ มีรายละเอียดเพียงเนื้อหาที่ไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานของ กกต. เท่านั้น และศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่พิจารณาถ้อยคำที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่จะทำให้กระบวนการทำกฎหมายช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับการพิจารณาวาระสอง คือ ชั้นกรรมาธิการ” นายไพบูลย์ กล่าว


นายไพบูลย์ กล่าวถึงรายละเอียดของข้อเสนอแต่ละพรรคการเมืองที่จะเสนอแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่รวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่กำหนดการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ให้ใช้เศษคะแนนคำนวณนั้น เบื้องต้นในหลักการการคำนวณสอดคล้องกัน คือ นำคะแนนรวมทั้งประเทศ หารด้วย จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เพื่อหาคะแนนส.ส.พึงมี ส่วนจะให้มีพรรคปัดเศษ หรือคิดเศษคะแนนไม่ถือเป็นสาระสำคัญ ดังนั้นสามารถรับหลักการและพิจารณาวาระสองได้ แต่ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลที่จะให้ระบบ MMP นั้น ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าส.ส.ของพรรคพลังประะชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุน และส่วนตัวจะไม่รับหลักการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ปลัด ก.พาณิชย์ เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 56 ปี

ครอบครัวรัชโน แจ้งข่าว นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จากไปแล้วอย่างสงบ ด้วยวัย 56 ปี หลังจากมีอาการวูบและล้มในห้องน้ำ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา