fbpx

ครม.อนุมัติงบฯกลาง 3,484.27 ล้านบาท โครงการเศรษฐกิจฐานราก

ทำเนียบ 14 ก.ย.- ครม.อนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มเข็มของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่5 จำนวน 1,013 โครงการ วงเงิน 3,484.27 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มเข็มของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่5 จำนวน 1,013 โครงการ ในพื้นที่ 11 จังหวัด วงเงินรวม 3,484.27 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายเงินจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เสนอทั้งนี้ เมื่อรวมกับผลการอนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากในครั้งที่ 1-5 แล้ว ครม. ได้อนุมัติโครงการไปแล้วจำนวน 8,516 โครงการ ใน 70 จังหวัด เป็นวงเงินที่เข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 19,904.93 ล้านบาท คงเหลือ 6 จังหวัดที่อยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนได้แก่ ชัยนาท ราชบุรี เชียงใหม่ สุพรรณบุรี แม่ฮ่องสอน และสกลนคร


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้ง 11 จังหวัดที่ได้รับอนุมัติโครงการฯ ครั้งที่ 5 ประกอบด้วย ลำพูน จำนวน 115 โครงการ วงเงิน 185.04 ล้านบาท, ลำปาง จำนวน 64 โครงการ วงเงิน 298.86 ล้านบาท, เชียงราย จำนวน 89 โครงการ วงเงิน 355.47 ล้านบาท, เพชรบูรณ์ จำนวน 89 โครงการ วงเงิน 232.42 ล้านบาท, มุกดาหาร จำนวน 246 โครงการ วงเงิน 219.04 ล้านบาท นนทบุรี จำนวน 45 โครงการ วงเงิน 168.61 ล้านบาท, สมุทรปราการ จำนวน 53 โครงการ วงเงิน 312.66 ล้านบาท, กาญจนบุรี จำนวน 47 โครงการ วงเงิน 313.04 ล้านบาท, ชลบุรี จำนวน 82 โครงการ วงเงิน 546.41 ล้านบาท,ระยอง จำนวน 125 โครงการ วงเงิน 401.80 ล้านบาท และภูเก็ต จำนวน 58 โครงการ วงเงิน 450.85 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในจำนวนทั้งหมด 1,013 โครงการ ใน 11 จังหวัด จำแนกลักษณะโครงการดำเนินการเป็น 4 กลุ่มลักษณะ ได้แก่ 1.กลุ่มโครงการพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยว บริการและการค้า จำนวน 46 โครงการ หรือ ร้อยละ5 ของจำนวนโครงการรวม 2.กลุ่มโครงการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร จำนวน 33 โครงการ หรือร้อยละ3 ของจำนวนโครงการรวม 3.โครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานจำนวน 43 โครงการ หรือร้อยละ4 ของจำนวนโครงการรวม และ 4.กลุ่มโครงการที่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 891 โครงการ หรือร้อยละ 88 ของจำนวนโครงการ


สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินโครงการ คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ประมาณ 36,070 คน และมีผู้ได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 3,602,819 คน และไม่น้อยกว่า 38,721 ครัวเรือน รวมทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า ทักษะและความรู้ในการประกอบอาชีพ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหมู่บ้านและชุมชน.-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด