ทำเนียบ 29 มิ.ย.-นายกฯ กำชับให้เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ที่ลงทะเบียนหมอพร้อม เร็วที่สุด ยันรัฐบาลจัดหาวัคซีนได้ตามเป้า เล็งจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณีที่หลายจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีและ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง โดยระบุว่ามีวัคซีนไม่เพียงพอว่า ขณะนี้การนำเข้าวัคซีนยังเป็นไปตามเป้าหมายที่เจรจาไว้กับบริษัทผู้ผลิต เช่น แอสตราเซเนกาจำนวน 61 ล้านโดส และบริษัทผู้ผลิตวัคซีนก็ยืนยันจะจัดส่งวัคซีนตามข้อตกลง ซึ่งเดือนมิถุนายนจัดส่งวัคซีน 6 ล้านโดส ตามข้อตกลงเดิม และจะมีวัคซีนจากบริษัทอื่นๆเข้ามาเพิ่มเติม เช่น ซิโนแวค รวมถึงวัคซีนที่ญี่ปุ่นจะบริจาคให้กับไทยด้วย จำนวน 1.05 ล้านโดส ภายในต้นเดือนกรกฏาคมนี้
นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและ7 กลุ่มโรคเสี่ยง ที่ลงทะเบียนหมอพร้อมไว้ให้เร็วที่สุด โดยยอดฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 28 มิ.ย.64 รวม 9,436,690 โดส
ส่วนที่มีการระบุว่าวัคซีนซิโนแวค อาจป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย)และเบตา(แอฟริกาใต้)ได้ไม่ดีพอ รัฐบาลจะทบทวนการนำเข้าวัคซีนตัวนี้และจัดหาวัคซีนตัวอื่นมาทดแทนหรือไม่นั้น นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดหาวัคซีนอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 สายพันธ์ต่างๆ อย่างครอบคลุม และให้ทันต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามแพทย์แนะนำว่าทุกคนควรฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อลดความรุนแรงของโรคและให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ส่วนข้อเสนอให้จัดหาวัคซีนนาโนแวค เพราะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าและมีประสิทธิภาพดีกว่านั้น กระทรวงสาธารณสุข กำลังพิจารณาศึกษารายละเอียดทั้งหมด สำหรับกระแสโจมตีรัฐบาลในโซเชียลมีเดีย ที่เรียกกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น
นายอนุชา ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังทุกข้อเสนอจากทุกกลุ่ม และเร่งแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และดำเนินมาตรการตามความเหมาะสม เพื่อให้สามารถหยุดการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้โดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย