ชี้ความปลอดภัยไม่ใช่ห้าม ส.ส.มาทำงาน

รัฐสภา วันนี้  ( 28 มิ.ย.) “ศิริภา” รองโฆษก ปชป. ฟาดข้าราชการสภาฯ หลังโพสต์เดือด  ขยันประชุมสภาไม่สนโควิด-19 ชี้อย่าสำคัญผิด ความปลอดภัย ไม่ใช่การห้ามมาทำงาน  แต่เป็นการปฏิบัติตามมาตราการอย่างเคร่งครัด


นางสาวศิริภา อินทวิเชียร  รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข้าราชการของสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่ง  โพสต์วิพากษ์วิจารณ์ ในทำนองไม่เห็นด้วยกับการประชุมร่วมสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา  ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และกรณีที่มี ส.ว.ติดเชื้อเข้าร่วมประชุมนั้น  ต้องโทษ  ผู้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ  รวมถึงคนนัดประชุม  ถึงขั้นประกาศจะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์   ว่าการแสดงออกทางความคิดย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพของเขา  แต่ความเห็นที่แสดงออกมานั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญญาของบุคคลนั้นด้วยเช่นกัน  อย่าสำคัญผิด  ความปลอดภัย ไม่ใช่การห้ามมาทำงาน  แต่เป็นการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด  ส่วนตัวเห็นใจข้าราชการสภาฯทำงานหนักโดยเฉพาะในวันประชุม  แม้ว่าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง  แต่ต้องไม่ลืมหน้าที่หลักของตนเอง และหน้าที่หลักของสภาคือการดำเนินการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติต่างๆ ที่สมาชิกเข้าชื่อมา โดยเฉพาะ ส.ส.เองก็ต้องการใช้สภาเป็นเวทีแก้ปัญหาให้กับประชาชนและติดตามการดำเนินงานของฝ่ายบริหาร  ต้องไม่ลืมว่าตำแหน่งหน้าที่ของคุณมาจากภาษีของประชาชน หากไม่พร้อมก็สามารถขอย้ายออกไปจากสำนักประชุม

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  ย้ำว่ามาตรการของสภาฯ ที่ออกมา  ถือว่าเข้มข้นมาก  ตามมาตรการของกรมควบคุมโรค  ทำให้โอกาสการแพร่ระบาดจนเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่เลยนั้นมีโอกาสน้อยมาก  ในรัฐสภามีบุคคลากรอยู่ร่วมกันหลายพันคน  แต่ยังไม่เกิดการระบาด หรือคลัสเตอร์  มีเพียงแต่ผู้ที่ติดเชื้อจากภายนอกเท่านั้น  มีการจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรของรัฐสภา ก็เพื่อให้รัฐสภาทำหน้าที่แทนประชาชนต่อไปได้  ไม่เช่นนั้นกฎหมายต่างๆโดยเฉพาะงบประมาณแผ่นดินก็จะหยุดชะงักบ้านเมืองก็ไปต่อไม่ได้


ส่วนจะเลือกหรือไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น  รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ  ตนเชื่อมั่นในประธานรัฐสภาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนที่ก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ การเสนอญัญติแก้ไขรัฐธรรมนูญ  จนเป็นที่มาของการประชุมร่วมรัฐสภา ที่ทำให้ข้าราชการบุคคลดังกล่าวไม่เห็นด้วยก็เป็นหนึ่งในพันธสัญญาที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ไว้กับประชาชน .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม