สุดยื้อ “สภาล่ม” องค์ประชุมแค่ 175 คน ป่วนตั้งแต่เสนอญัตติ

สภาล่ม

รัฐสภา 14 ก.พ.- สภาล่ม” ส้ม-สว.สุดยื้อ หลังพักประชุม 20 นาที มีองค์ประชุมแค่ 175 จากยอดเข้าชื่อ 620 คน ป่วนตั้งแต่เสนอญัตติ “ชลน่าน” เล่นเกมเสนอนับองค์ประชุมทำ “ฝ่ายค้าน-สว.” ประท้วงวุ่น ด้าน “วันนอร์” พ้อ พวกท่านพูดตั้งเยอะ ทำไมประธานจะพูดไม่ได้ สอน “ไอติม” จะดื้อเอาแต่ใจไม่ได้ บอกไม่ต้องส่ายหัว ถ้าไม่จริงใจคงไม่บรรจุระเบียบวาระ


การประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เสนอโดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะ และเสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนและคณะ

โดยเวลา 09.40 น. นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งต่อที่ประชุมว่าจะให้รวมญัตติดังกล่าวพิจารณาร่วมกัน และใช้เวลาพิจารณารวม 19 ชั่วโมง แบ่งเป็นเวลาของ 3 ฝ่าย คือ สว. สส.ฝ่ายค้าน และ สส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายละ 6 ชั่วโมง และของประธานในที่ประชุม 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ให้นายพริษฐ์ ได้แถลงเสนอญัตติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวะนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงประธานรัฐสภา ว่า ไม่ชอบด้วยข้อบังคับ เพราะองค์ประชุมไม่พอเข้าสู่ระเบียบวาระได้

ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่า ตามข้อบังคับหากสมาชิกมาลงชื่อครบองค์ประชุม ซึ่งองค์ประชุมเกินแล้ว ไม่ทราบผิดข้อบังคับข้อใด

นพ.ชลน่าน ประท้วงต่อว่า ตามข้อบังคับสมาชิกลงชื่อเข้าประชุมครบองค์ประชุมและสามารถเปิดประชุมได้ แต่การพิจารณาเรื่องใดๆ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ องค์ประชุมที่มาประชุมต้องครบด้วย ขอประท้วงและขอให้ตรวจสอบองค์ประชุมก่อนจะแถลงหลักการและเหตุผล


ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประท้วง นพ.ชลน่าน ว่า เป็นการทำผิดข้อบังคับ เนื่องจากนายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งให้นายพริษฐ์ แถลงหลักการและเหตุผลแล้ว ดังนั้นการเสนอให้ตรวจสอบนับองค์ประชุมจึงถือว่าผิดข้อบังคับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความวุ่นวาย เพราะนายพริษฐ์ ได้พยายามอธิบายที่จะเดินหน้าแถลงเสนอญัตติ ทว่าใน สส.พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงและขอให้นับองค์ประชุมก่อนเสนอญัตติ อย่างไรก็ดีนายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่า แม้ว่าจะให้แถลงญัตติแล้ว แต่เมื่อมีการเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมสามารถทำได้ และประธานต้องดำเนินการนับองค์ประชุม โดยไม่มีเหตุผลอะไร เพราะการเสนอนับองค์ประชุมเป็นเอกสิทธิ์ พร้อมกับเรียน สมาชิกรัฐสภากดบัตรแสดงตน

“เจตนาผมเมื่อองค์ประชุมครบต้องเปิดการประชุม เป็นไปตามข้อบังคับ หากมีสมาชิกขอนับองค์ประชุมตรวจสอบองค์ประชุม ผมต้องดำเนินการ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ ระหว่างนับองค์ประชุมต้องทำให้จบก่อนดำเนินการต่อไปได้” นายวันมูหะมัดนอร์

ทั้งนี้ มีสมาชิกรัฐสภายกมือประท้วงจำนวนมาก แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ไม่อนุญาตพร้อมบอกว่า จะให้สิทธิประท้วงทุกคน แต่หลังจากที่นับองค์ประชุมแล้วเสร็จ และได้ปิดไมโครโฟนของสมาชิกรัฐสภา

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้มีเจตนาที่ให้องค์ประชุมไม่ได้ประชุมแต่เป็นไปตามข้อบังคับท่านมีอิสระเต็มที่ แต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าการลงมตินั้นสมควรหรือไม่ ผมไม่มีอำนาจอะไรนะครับ ต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับดังนั้นภาพของการประท้วงที่สภานี้มันก็จะออกไปข้างนอกสภาก็เสียผมในฐานะประธานก็เสียก็ดำเนินการตามระเบียบวาระ”

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังได้กล่าวถึงคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ แต่มีผู้ประท้วงจนเสียงดัง ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ถึงกับปราม “ถ้าท่านไม่อยู่ในระเบียบผมก็ต้องให้เจ้าหน้าที่มาเชิญนะครับ ท่านเข้าใจอย่างไร ท่านเข้าใจว่าผมข้ามขั้น อันนี้เป็นไปตามข้อบังคับครับ ทำไมประธานจะพูดไม่ได้ในเมื่อท่านก็พูดได้ตลอดเวลา ตอนนี้ขออภัย เดี๋ยวพาดพิงไปมาก็นับองค์ประชุมไม่สำเร็จ”

ทำให้นายพริษฐ์ ประท้วงว่าตนไม่ได้ไม่เคารพคำวินิจฉัยของท่านประธาน การใช้สิทธิ์เสนอนับองค์ประชุม ตนไม่ติดใจ แต่ที่ติดใจคือครั้งก่อนๆ ประธานอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนกันเล็กน้อยถึงเหตุผล แต่ทำไมเหตุใดครั้งนี้มีการเสนอนับองค์ประชุม ประธานกลับไม่อนุญาตให้แลกเปลี่ยนความเห็นแม้แต่นิดเดียว แค่ต้องการให้ใช้บรรทัดฐานเดียวกัน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวชี้แจง ย้ำว่าเดี๋ยวท่านก็ไปแถลงต่อสื่อมวลชน แต่นายพริษฐ์ก็ตอบโต้จนทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนเข้าใจนายพริษฐ์เป็นอย่างดี ถึงบรรจุในวาระ

“ไม่ต้องส่ายหัวพูด ด้วยความจริงใจครับ ถ้าผมไม่จริงใจและผมไม่เห็นความสำคัญกับญัตติ ผมก็ไม่บรรจุ ถูกไหมครับ ผมบรรจุผมให้ความสำคัญกับคุณ แล้วคุณไม่เห็นความสำคัญของประธานเลย ผมว่าไม่ถูกนะครับ ประชาชนเขาฟังอยู่ ถ้าหากที่ประชุมครบ คุณพริษฐ์ก็เสนอได้ แต่ถ้าไม่ครบดำเนินการต่อไปไม่ได้ เราจะไปดื้อโดยเอาตามใจของแต่ละคนมันคงกระทำไม่ได้ ถ้าไม่เป็นกลาง คงไม่บรรจุตั้งแต่ต้น” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวก่อนกดออดขอนับองค์ประชุม

จังหวะนี้ นายพริษฐ์ ได้โต้ขึ้นมาว่า ตนไม่เคยระบุว่าประธานไม่เป็นกลาง

จากนั้น นางนันทนา นันทวโรภาส สว. ได้เสนอขึ้นมาว่าขอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าจะมีสมาชิกรัฐสภากี่คนและยินดีพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า การนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ เป็นไปตามข้อบังคับ แต่ข้อบังคับข้อที่ 56 กำหนดว่าการนับองค์ด้วยการขานชื่อ ต้องให้รัฐสภาอนุมัติ หากรับญัตติดังกล่าวต้องถามให้สมาชิกรัฐสภาอนุญาตและต้องตรวจสอบองค์ประชุม

ทั้งนี้บรรยากาศในห้องประชุมยังประท้วงวุ่นวาย ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ขอให้พักการประชุมเพื่อให้ทุกฝ่ายหารือร่วมกัน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ให้พักการประชุม 20 นาที ในเวลา 10.10 น. หลังจากที่ประชุมได้เปิดประชุมไปเพียง 30 นาที

จากนั้น 10.35 น. กาประชุมร่วมรัฐสภา กลับมาประชุมอีกครั้งหลังจากที่พัก 20 นาที โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ทราบถึงข้อกังวลของสมาชิกรัฐสภาในซีกรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับในวันนี้ และยืนยันว่าในฐานะตัวแทนของพรรคประชาชนเราไม่ได้ข้อกังวลดังกล่าวและมองว่าสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยได้แต่เมื่อมีข้อมูลเช่นนี้จากซีกรัฐบาลก็ได้มีการหารือกันว่าพอจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า เราจะเดินหน้าหาเรื่องนี้เกินไปและไม่เร่งนับองค์ประชุม ขอให้พักอีก 10 นาที

โดยนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวเสนอขอให้นับองค์ประชุมโดยการเสียบบัตร แทนการขานชื่อ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กดออดเรียกสมาชิกเพื่อจะขอมติว่าจะตรวจสอบองค์ประชุมด้วยวิธีการขานหรือเสียบบัตร

ผลปรากฏว่า มีองค์ประชุมจำนวน 175 คน ถือว่า ไม่ครบองค์ประชุม ขณะที่มียอดผู้เข้าประชุม 620 คน ทั้งนี้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน พยายามที่จะขอให้นับใหม่ แต่ไม่เป็นผล ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่าเมื่อองค์ประชุมไม่ครบขอปิดการประชุม และปิดในเวลา 10.47 น.

อย่างไรก็ตาม แม้ในห้องประชุมจะมีการถกเถียงกัน แต่ยังมีมุมน่ารักๆ ของสมาชิกที่ยืนทำมือสัญลักษณ์รูปหัวใจ เนื่องในวันวาเลนไทน์กัน. 312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]