กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.- “พรรคไทยสร้างไทย” เสนอรัฐบาลใช้เงินต้องเพิ่มอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ จี้กระทรวงศึกษาวางมาตรการป้องกันคลัสเตอร์สถานศึกษา
น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการติดเชื้อสูงและเด็กนักเรียนบางส่วนยังคงต้องเรียนออนไลน์พรรคไทยสร้างไทยอยากเสนอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มงบอุดหนุนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ โดยหลังจากเปิดเรียนมาได้ 1 สัปดาห์ จากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “หัวอกครู ผู้ปกครอง นักเรียน” กับการเรียนออนไลน์ ของสวนดุสิตโพล พบว่า 51.35% ของประชาชนยังไม่พร้อมสำหรับการเรียนออนไลน์ 77.18% ของครูกังวลว่าอุปกรณ์ไม่พร้อมอินเทอร์เน็ตช้า และ 62.22% ต้องการให้ภาครัฐหรือสถานศึกษาสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับเรียนออนไลน์ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างที่บ่งบอกว่ารัฐบาลออกนโยบายโดยขาดความเข้าใจในการปฏิบัติและไม่ถามความคิดเห็นประชาชน
น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวอีกว่าบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นกลุ่มมีความเสี่ยงสูงมาก แต่มีจำนวนมากถึง 507,938 คน หรือคิดเป็น 76.79% ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนทั้งหมด 661,473 คน หมายความว่าการเลื่อนเปิดเทอมเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและกระจายวัคซีนล้มเหลว จะส่งผลให้โรงเรียนจำนวนมากที่ได้รับคำสั่งให้เรียนแบบ On-site หรือการเรียนที่โรงเรียน จะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดไปสู่นักเรียนและผู้ปกครอง ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการควรเข้มงวดเรื่องมาตราการป้องกันโควิด-19 มากกว่านี้
“การเรียนออนไลน์ยังเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามากขึ้น เนื่องจากสภาพทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีได้ไม่เท่ากัน โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาระบุว่านักเรียนกว่า 65,000 คน จะหลุดจากระบบการศึกษาไทยในปี 2564 เพราะผู้ปกครองยากจนเฉียบพลัน โดยหลังจากที่เปิดเทอมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษาแล้ว 5,654 คน และเดือนหน้าจะเพิ่มเป็นกว่า 10,000 คน แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือผ่อนปรนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาแล้ว แต่ยังไม่ครอบคลุมและทั่วถึงเพียงพอ ควรมีงบประมาณที่ดูแลผู้ปกครองและเด็กในกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ด้วย” นางสาวธิดารัตน์กล่าว.- สำนักข่าวไทย