หลาย รร.ปรับเรียนออนไลน์ หลังผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม

กรุงเทพฯ 8 ก.ค.- 3 โรงเรียนดัง “กรุงเทพคริสเตียนฯ-สาธิตเกษตรฯ-สาธิต มศว ปทุมวัน” ออกประกาศเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กลับมามีแนวโน้มสูงขึ้น โดย ก.สาธารณสุข สั่งกำชับโรงเรียนเข้มมาตรการ หลังพบการระบาดหนักในเด็ก


เริ่มที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ออกประกาศการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนในช่วงวันที่ 11-19 ก.ค.นี้ สืบเนื่องมาจากตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์ที่เปิดเรียน มีนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้วกว่า 688 คน ส่วนบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อไปแล้ว 70 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ค.) โรงเรียนมีมาตรการปิดห้องเรียนเป็นเวลา 5 วัน สำหรับห้องเรียนที่ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนนักเรียน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งผลออกมาน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังพบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่ากังวลว่าจะกระทบต่อการเรียนการสอน เพราะนักเรียนและบุคลากรจำนวนหนึ่งต้องพักรักษาตัวที่บ้าน ทางโรงเรียนจึงขอประกาศ และทางโรงเรียนจะจัดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในห้องเรียนทุกวัน รวมไปถึงลดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือกิจกรรมนอกเวลาเรียนที่มีการรวมกลุ่ม

สาธิตเกษตรฯ ปรับเรียนออนไลน์ 11-12 ก.ค.


โรงเรียนต่อมาคือ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกประกาศเรื่อง การเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน โดยระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมีแนวโน้มสูงขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรคและตัดวงจรการแพร่ระบาด โรงเรียนจึงพิจารณาจัดรูปแบบการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11-12 กรกฎาคม และกลับมาเรียนปกติในวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม

สาธิต มศว ปทุมวัน ประกาศเรียนออนไลน์ 8-12 ก.ค.65

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ออกประกาศการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอน ตั้งแต่วันนี้ (8 ก.ค.) ไปจนถึงวัน 12 กรกฎาคม เป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เนื่องมาจากมีการแพร่ระบาดของโควิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จึงกำหนดให้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนและปฏิบัติหน้าที่ในรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 8-12 กรกฎาคม โดยโรงเรียนกำหนดการเรียนและการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่โรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมเป็นต้นไป


สธ.เผยกำชับโรงเรียนเข้มมาตรการหลังพบระบาดหนักในเด็ก

และวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยก่อนการประชุม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสั้น ๆ ว่า วันนี้กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มีการเสนออะไรเป็นพิเศษในที่ประชุม ศบค. ส่วนเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในโรงเรียนขณะนี้ กำชับโรงเรียนให้เข้มเรื่องมาตรการ และไม่ได้น่าห่วงอะไร เพราะเด็กที่ติดเชื้อส่วนใหญ่อาการน้อย ขณะที่กรณี รร.กรุงเทพคริสเตียนฯ พบเด็กและบุคลากรติดเชื้อตั้งแต่เปิดเทอมสะสมกว่า 700 คน เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว และเมื่อถามว่าจะต้องมีมาตรการปิดโรงเรียนหรือไม่ ขอให้รอผลการประชุม ศบค.ในวันนี้ก่อน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า การประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะเสนอขอลดจำนวนวันในกระบวนการรักษาเป็น 5 + 5 วัน 5 วันแรกกักตัว และ 5 วันหลัง เป็นการสังเกตอาการ และสามารถออกไปข้างนอกได้

“ชัชชาติ” เผยโรงเรียนในสังกัด กทม.ยังไม่น่าห่วง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ว่า ในส่วนของ กทม.ยังไม่มีอะไร ขอให้รอฟังผลการประชุม ศบค. และเมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในโรงเรียนพื้นที่ กทม.หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ในส่วนโรงเรียนสังกัด กทม.ยังไม่มีอะไร แล้วแต่ที่ประชุม

นายกฯ สั่งติดตามการกลายพันธุ์โดยเฉพาะ BA.4-BA.5

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุม ศบค.ว่า มีเรื่องที่จะเรียนให้ที่ประชุมรับทราบ คือ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานผลการติดตามการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา และระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 จากสายพันธุ์โอไมครอน BA.4, BA.5 ซึ่ง WHO แสดงความกังวลในเรื่องนี้ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพันธุกรรมโควิด เพราะหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ซึ่งอาจทำให้การติดตามสถานการณ์สายพันธุ์ใหม่ยากยิ่งขึ้น และขอร้องให้ประเทศต่าง ๆ สร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชน เพื่อลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตหากติดเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

ส่วนข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิดทั่วโลกขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.4, BA.5 มากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา อาจทดแทนสายพันธุ์เดิม แม้ยังไม่มีข้อมูลว่าสายพันธุ์ดังกล่าวมีการแพร่เชื้อที่รุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิมอย่างไร แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้

ขณะที่การแพร่ระบาดในไทยก็มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการ โดยพบผู้ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อยและรักษาตัวที่บ้านมากขึ้น แต่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง รวมทั้งสุ่มตรวจ และติดตามการกลายพันธุ์โดยเฉพาะ BA.4, BA.5 เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และกำหนดมาตรการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน