สำนักงานป.ป.ช. 17 มิ.ย.-“ศรีสุวรรณ” ร้องป.ป.ช. สอบเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต คดีล่อซื้อน้ำส้ม ส่อเจตนาทุจริตต่อหน้าที่
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กรณีสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียรายงานว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ni Pornnipa ถูกล่อซื้อน้ำส้มจำนวน 500 ขวดก่อนจะถูกถามหาใบอนุญาต พร้อมถูกปรับเงินจำนวน 12,000 บาท แม้ต่อมากรมสรรพสามิตจะแถลงว่าไม่ได้เรียกรับเงิน เป็นเพียงการแนะนำแม่ค้า แต่เนื่องจากพยานหลักฐานที่ปรากฏอาจชี้ชัดได้ว่าเป็นพฤติการณ์ของการล่อซื้อสินค้า เพื่อให้ผู้ถูกจับกุมกระทำความผิดตามกฎหมาย และกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตทั้ง 5 คนที่ล่อซื้อน้ำส้มจากแม่ค้ารายดังกล่าว าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
“ในยุคที่ประชาชนดิ้นรนขวนขวายหาเลี้ยงชีพในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำ ในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 หลายคน หลายครอบครัวต้องตกงาน ไร้อาชีพ ไร้รายได้ จนรัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือ ต้องออกพระราชกำหนดหลายต่อหลายครั้ง เพื่อกู้เงินมาช่วยเหลือผ่านนโยบายสวัสดิการต่าง ๆ แต่เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตกลับไม่คำนึงถึงสถานการณ์ของปัญหาทางสังคม กลับมุ่งปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายในทางนิติศาสตร์ โดยไม่พิจารณาถึงหลักรัฐศาสตร์ในยามนี้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การล่อซื้อน้ำส้มจากแม่ค้า น่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการล่อซื้อเป็นการแสวงหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งเคยมีแนวทางการพิจารณาคดีของศาลปรากฏมาแล้วว่าการล่อซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจะถือว่าผู้ถูกจับไม่ได้กระทำความผิดกฎหมาย เป็นกรณีที่ผู้ถูกจับไม่ได้มีเจตนาจะทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น แต่ถูกสายลับ สายสืบหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจออกอุบาย ล่อลวงให้หลงเชื่อ แล้วกระทำตามที่ถูกอุบายนั้น ๆ ซึ่งศาลตีความว่าเป็นการกระทำผิด เพราะกลอุบายของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้เสียหาย ล่อลวงให้ผู้ถูกจับกระทำผิดกฎหมาย ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4301/2543 ที่4077/2549 และที่ 9600/2554
“สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงนำความมาร้องเรียนต่อป.ป.ช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ม.234 (2) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.มาตรา 28(2) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมเพื่อดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย