รัฐสภา 16 มิ.ย.-กมธ.ปปช. เรียก 4 แกนนำราษฎร ไมค์-รุ้ง-เพนกวิน-โตโต้ ให้ข้อมูลปัญหาความไม่เป็นธรรมระหว่างคุมขังในเรือนจำ พบมีการดักฟังข้อมูลต่อสู้คดี เตรียมสรุปปม จนท.เรือนจำประพฤติมิชอบหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปช. ซึ่งที่ประชุมได้ เชิญ4 แกนนำกลุ่มราษฎร ประกอบด้วย นายภาณุพงศ์ จาดนอกหรือไมค์ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ปัญหาการควบคุมตัวในเรือนจำ หลังมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีการย้ายผู้ต้องหาคดีการเมืองจากเรือนจำธนบุรี ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และมีความพยายามจะเคลื่อนย้ายตัวผู้ต้องหาในยามวิกาลโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยอ้างว่าจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด19 ทำให้ผู้ต้องหามีความวิตกว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
ทั้งนี้ในที่ประชุมกรรมาธิการได้ซักถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งนายภาณุพงศ์ เล่าเหตุการณ์ว่า ในวันดังกล่าวตนเอง พร้อมด้วยโตโต้ ปิยรัฐ และไผ่ ดาวดิน ได้ถูกย้ายมาจากเรือนจำธนบุรี มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ต่อมาประมาณ 21.00น.มีเจ้าหน้าที่ประมาณ3 คน มาแจ้งว่าจะนำตนเอง โตโต้ ปิยะรัฐ และไผ่ ดาวดิน ออกจากเรือนนอน โดยอ้างว่าเป็นผู้ที่มาจากสถานที่เสี่ยง ทั้งที่เป็นยามวิกาล ทุกคนจึงไม่ยินยอมที่จะออกจากเรือนนอน เพราะห่วงเรื่องความปลอด
ด้านเพนกวิน พริษฐ์ กล่าวว่าในส่วนตนเองถูกคุมขังอยู่ก่อน เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามมาตรา 112 แต่ถูกแยกมาคุมขังที่แดนของผู้คุมขังที่เป็นนักโทษเด็ดขาด ทั้งที่ตนเองยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งในเหตุการณ์การเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจโควิดในยามวิกาล ในช่วงที่กลุ่มของไมค์ ภาณุพงศ์ เข้ามาใหม่ ตนได้ถามไปยังเจ้าหน้าที่ตรงๆว่ามีเจตนาต้องการขังแยกใช่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยอมรับว่าใช่ เพราะตนทราบอยู่แล้วว่าผิดวิสัยที่จะมาตรวจโควิด19 กันในยามวิกาล เหตุใดไม่ตรวจหรือไม่แยกตัวตั้งแต่แรกในช่วงกลางวันที่ผู้ต้องขังเข้ามาตอนแรก อีกทั้งยังมีการไล่นักโทษคนอื่นๆออกไปจากห้องเพื่อพยายามเอาตัวผู้ต้องหาคดีการเมืองออกไป
ด้าน น.ส.ปนัสยา กล่าวว่ากรณีของตนเองเป็นเรื่องที่ถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์นำตัวไปฝากขังที่เรือนจำทั้งที่ศาลยังไม่มีคำสั่งว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ และไม่มีความชัดเจนว่าจะนำใครไปฝากขังที่เรือนจำ ขณะเดียวกันยังพบปัญหาการดักฟังระหว่างพูดคุยกับทนายความด้วย ถือเป็นการละเมิดสิทธิการต่อสู้ของผู้ต้องหาอย่างมาก
เพนกวิน พริษฐ์ ยังเรียกร้องให้กรรมาธิการตรวจสอบด้วยว่ามีการดักฟังการพูดคุยจริงหรือไม่เหตุใดรู้ข้อมูลการต่อสู้ก่อนล่วงหน้าที่การสกัดเอกสารในการต่อสู้คดี ทั้งๆที่เป็นสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา ถือเป็นความไม่ยุติธรรมอย่างมากเพราะตนเองต้องต่อสู่คดีอยู่กับรัฐแต่ถูกรัฐมาละเมิดสิทธิมาล่วงรู้ข้อมูลในการต่อสู้
ทั้งนี้ ภายหลังการ สอบถามข้อเท็จจริง นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ เปิดเผยว่า การตรวจสอบเรื่องนี้ใกล้เสร็จสิ้นแล้วเพราะมีการเรียกทั้งฝ่ายราชทัณฑ์ และผู้ต้องขังอื่นๆมาให้ข้อมูลแล้ว ซึ่งก็มีข้อมูลที่สอดคล้องกัน มีความพยายามเข้าตรวจโควิดผู้ต้องขังยามวิกาลหลายช่วง ทั้งช่วง 3 ทุ่ม 5ทุ่ม จนกระทั่งตี2 ทั้งที่แดนอื่นๆปกติมีการตรวจโรคกลางวัน อีกทั้งเมื่อผู้ต้องหาปฏิเสธ ก็มีการใช้เจ้าหน้าที่ชุดดำที่แต่งกายทำให้ห่วงว่าจะถูกทำให้เสียชีวิตแบบผู้ต้องขังรายอื่นๆ จึงรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งข้อเท็จจริงค่อนข้างยุติพอสมควร ที่จะชี้ได้ว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่.- สำนักข่าวไทย