พรรคพลังประชารัฐ 15 มิ.ย. – “ไพบูลย์” มั่น ร่าง รธน.พปชร.ผ่านแน่ เชื่อญัตติฝ่ายค้านยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตั้ง ส.ส.ร. ไปไม่รอด
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นการสืบทอดอำนาจให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามที่พรรคก้าวไกลพาดพิง แต่ชี้แจงว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มสิทธิเสรีภาพของประชาชน สิทธิ์ในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงแก้ไขอำนาจของ ส.ส. ในการประสานกับหน่วยงานราชการเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ส่วนการแก้ไขระบบเลือกตั้งกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ นั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ก็เป็นประเด็นที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องซึ่งพรรคพลังประชารัฐ รับได้ไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว หรือ 2 ใบ แต่มีเพียงพรรคก้าวไกล ที่ไม่กล้าเสนอระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 บัตร จึงสงสัยว่าเป็นเพราะกังวลว่าพรรคตัวเองจะสูญพันธุ์หรือไม่ และมองว่ามีความพยายามบิดเบือน ว่าเรื่องบัตรเลือกตั้งของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เห็นไม่ตรงกัน
นายไพบูลย์ มั่นใจว่าร่างแก้รัฐธรรมนูญของพลังประชารัฐจ ะผ่านความเห็นชอบในวาระรับหลักการในวันที่ 23 และ 24 มิถุนายนนี้ เพราะมีเสียงของพรรคพลังประชารัฐ 122 ส.ส. หรือรวมพรรคประชาธิปัตย์อีก 50 เสียง และเสียง ส.ว.อีก 250 เสียง รวมแล้วมากกว่า 400 เสียง และหากเพื่อไทย เห็นด้วยก็เกิน 500 เสียง ซึ่งจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาที่ต้องผ่านความเห็นชอบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และต้องให้ ส.ว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 โดยอ้างอิงว่า ส.ว.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างฯพลังประชารัฐ ยืนยันพรรคพลังประชารัฐ จะไม่โหวตให้ความเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกเหนือจากที่เป็นประเด็นหลักของพรรค 5 ประเด็น เช่น การเสนอให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.ส่วนประเด็นการแก้ไขมาตรา 272 ของพรรคเพื่อไทย นายไพบูลย์ เชื่อว่าจะหาเสียงสนับสนุนได้ไม่ครบตามจำนวนหลักเกณฑ์วาระรับหลักการที่กฎหมายกำหนดไว้ คือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐและวุฒิสภา(ส.ว.)จะไม่ยกมือให้
นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึง การประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในสัปดาห์หน้าจะต้องแล้วเสร็จก่อน จากนั้นจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่ 23-24 มิถุนายนนี้ ส่วนไทม์ไลน์การแก้รัฐธรรมนูญ นั้น หากรับหลักการวาระแรก วันที่ 23 มิถุนายน ก็จะเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาศึกษา 30 ถึง 45 วันก่อนที่จะเข้าสู่วาระที่ 2 พิจารณารายมาตราในช่วงเดือนต้นสิงหาคม หากให้ความเห็นชอบแล้วเสร็จก็พักไว้ 15 วันจากนั้นนำกลับเข้าที่ประชุมรัฐสภาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 ช่วงปลายสิงหาคมหรือต้นกันยายนนี้ จากนั้นเป็นการแก้ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง คาดจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางปี 2565
นายไพบูลย์ ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นคนละเรื่องเดียวกันกับการยุบสภา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกต ว่า การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ เพื่อรองรับการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ นั้น เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะยังไม่ลาออกหรือยุบสภาตามที่ได้ประกาศไว้ในที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันอังคารที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา และไม่เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใด ต้องการไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่มีเหตุให้ยุบสภา และมีเพียงพรรคฝ่ายค้านไม่กี่คนที่เดือดร้อนกับดำรงตำแหน่งครบวาระของนายกรัฐมนตรี แต่ประชาชนทั้งประเทศอีกหลายล้านคนสบายใจกับรัฐบาลและเชื่อฝีมือนายกรัฐมนตรี
นายไพบูลย์ ยังเชื่อมั่นว่า ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับตามมาตรา 256 เปิดทางให้มี ส.ส.ร.ที่ฝ่ายเสนอจะไปไม่รอด เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยแล้ว แต่ต้องเป็นการดำเนินการของสมาชิกรัฐสภา ตามมาตรา 156 และตั้งกรรมาธิการมาดำเนินการ ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับการแก้ไขแบบรายมาตรา.-สำนักข่าวไทย