สว.พันธุ์ใหม่ ซัดพรรคร่วมรัฐบาลความรู้สึกช้า ทำสภาล่ม อัปยศที่สุด

รัฐสภา 14 ก.พ.-“นันทนา” พร้อม “สว.พันธุ์ใหม่” ซัดพรรคร่วมรัฐบาลความรู้สึกช้า ทำสภาล่ม อัปยศที่สุด โวย 2 วัน เสียงบฯ 19 ล้านบาท

น.ส.นันทนา​ นันทวโรภาส​ สว.​ พร้อมด้วย​ สว. พันธุ์ใหม่ แถลงเกี่ยวกับการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า​ ภาพการประชุมร่วมรัฐสภาล่ม 2​ วันที่​ผ่านมา เป็นภาพที่อัปยศ​ที่สุด เป็นกระบวนการเล่นเกมหักเหลี่ยมกันทางการเมือง​ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ได้ริเริ่มเรื่องนี้ตั้งแต่เดือน ธ.ค.​ แปลว่าทางพรรคการเมืองทุกพรรคทราบอยู่แล้วว่าจะมีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่จะตอบรับหรือปฏิเสธ จนกระทั่งมีการกำหนดวาระในวันที่ 13​-14 ก.พ. จากนั้น​พรรคการเมืองพรรคแรก​ ที่ออกมาแสดงท่าทีคือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งออกมา 5 โมงเย็นของวันพุธที่​ 12 ก.พ.​ 15 ชั่วโมง​ ก่อนการประชุมว่า​ จะไม่เข้าร่วมการพิจารณา แล้วก่อนหน้านี้ 2 เดือน​ ไม่ได้คิด​ ไม่ได้พิจารณา​ ไม่ได้ตัดสินใจกันเลยหรือ ทำอะไรอยู่​ ทำไมความรู้สึกช้า


น.ส.นันทนา​ กล่าวต่อว่า เมื่อเข้าสู่การประชุมแล้ว​ เราได้เห็นพรรคร่วมรัฐบาล​ มีท่าทีเหมือนกับไม่ตอบรับ ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผลคือเราได้เห็น ว่า​ สว.เสียงข้างมากวอล์กเอาต์หลังจากที่ผลออกมาว่าจะต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญกัน และเมื่อเข้าสู่การประชุมจริงๆ​ พรรคเพื่อไทยก็ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ทำให้สภาล่ม​ พรรคร่วมรัฐบาลก็หายตัวไป​ ไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมเช่นเดียวกัน จนมาถึงวันนี้​ มีเวลาแก้ตัว แต่สุดท้ายก็ล่มเป็นวันที่​ 2 ซึ่งการประชุมสภาฯครั้งหนึ่งใช้งบประมาณ 8.9 ล้านบาทต่อวัน​ เราเสียเงินไป 19 ล้านบาท โดยที่​ สส.​ สว.ไม่ได้ทำหน้าที่กันเลย​ มาถึงตอนเช้ากินโจ๊ก​ แต่ไม่ทำหน้าที่พิจารณากฎหมาย

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรครัฐบาล ถ้าจะปฏิเสธ ถ้าจะไม่เข้าร่วม ทำไมไม่แจ้งก่อน แล้วทำไมไม่คุยกันนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่ดำเนินการในการประสานพรรคร่วม เพื่อที่จะให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคการเมืองแทบทุกพรรคหาเสียงเอาไว้ เพราะถึงเวลาแก้จริงล่มสภากันหมด นี่คือคนเกมทางการเมือง ที่สะท้อนชัดเจนว่าไม่มีเจตจำนงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญพวกเราในฐานะสว.พันธ์ุใหม่ เราอยากเห็นรัฐธรรมนูญ​ ที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง​ แต่เราเสียใจที่เราต้องมาเจอกับกลเกมทางการเมืองของ นักการเมืองทั้ง สส.และสว.ที่ไม่มีเจตจำนงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ​” น.ส.นันทนา กล่าว


ด้านนายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่มีใครได้อภิปรายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะสภาโดนตัดตอน ล่มไปก่อน ซึ่งตนได้เตรียมคำถามเพื่อถามไปยังพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน รวมถึงพรรคอื่นๆที่ควรจะร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อตนไม่ได้อภิปรายก็ขอฝากคำถาม ไปยังพรรคทั้งหลาย 5 ข้อคือ 1.สมเหตุสมผลหรือไม่ ที่ขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ กลับไปให้อำนาจกับองค์กรอิสระคือศาลรัฐธรรมนูญตัดสินทำได้หรือไม่ ซึ่งบางพรรคบอกว่าอยากจะเดินทางอ้อม แต่จริงๆ แล้วเรากำลังเดินทางที่ผิดหรือไม่ และมั่นใจได้อย่างไรว่าหากยื่นศาลฯไปแล้ว ศาลฯจะให้คำตอบไม่เหมือนเดิมเหมือนปี 2564 และจะเป็นคุณต่อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ 2.การที่พรรคท่านสนับสนุนให้มีการยื่นเรื่องไปที่ศาลฯ​ให้มีคำวินิจฉัย เท่ากับว่าท่านไม่แน่ใจว่าต้องทำประชามติก่อนที่จะยื่นร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากท่านยังไม่แน่ใจตั้งแต่ต้นแล้วยื่นร่างมาประกบกับพรรคประชาชนมาตั้งแต่ต้นทำไม ทำไมไม่ทักท้วงตั้งแต่ตอนประชุมวิป 3 ฝ่าย แล้วขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลฯ ก่อนที่จะยื่นร่างทำไมเพิ่งมาคิดได้ในตอนที่เขากำลังจะพิจารณากัน

นายพรชัย กล่าวว่า 3.ท่านอ้างว่าให้มีการอภิปรายและโหวตในวาระที่ 1 อย่างไรก็โหวตไม่ผ่าน เพราะสว.ที่จะให้เสียงสนับสนุนไม่ครบ 67 คน จึงจงใจทำให้สภาล่ม เพื่อที่จะให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้ค้างอยู่ก่อน

“ตนจึงอยากถามว่าถ้าคิดเช่นนั้นตั้งแต่แรกจริงๆ ทำไมที่ผ่านมาพรรคท่านไม่เคยดำเนินการอะไรเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเสียง สว. ที่จะสนับสนุนครบ 67 คน ทำไมตอนที่ท่านส่งคนของท่านขึ้นตำแหน่งนายกฯ ท่านล็อบบี้ ดีล ย้ายค่ายต่างๆ เพื่อที่จะมั่นใจว่าเสียงสว.เพียงพอต่อการสนับสนุนคนของท่านและการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายหลักของพรรคท่านอยู่แล้ว เพราะบอกว่าเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องทำให้ดีที่สุด ทำไมไม่เห็นว่าท่านพยายามล็อบบี้เสียงสว.ให้ครบ 67 คน ทั้งที่มีเวลามากมาย และตนไม่เคยเห็นรายละเอียดในร่างของพรรคเพื่อไทยเลย ต้องไปหารายละเอียดเอาเอง และไม่เคยมีคนของพรรคเพื่อไทยมาอธิบายให้สว.ได้รู้ว่าร่างของพรรคเพื่อไทยดีอย่างไร แล้ววันนี้จะมาอ้างว่าเสียงของสว. ไม่พอกลัวจะโดนคว่ำ จึงขอถอยออกมาตั้งหลักก่อนได้อย่างไร ที่ผ่านมาท่านเคยสู้เพื่อร่างของท่านไม่ให้โดนคว่ำหรือไม่ อย่างนี้จะให้เราเชื่อในการจริงในต่อเรื่องนี้อย่างไร” นายพรชัย กล่าว


นายพรชัย กล่าวต่อว่า 4.ท่านมีโรดแมพต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร ในการที่จะไปทำให้เสียงสว.ครบ 67 คน นอกจากการหวังลมๆแล้งๆว่าศาลจะตัดสินชัดเจนหรือคิดไปทำไป เปลี่ยนไปเหมื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่จนถึงวันนี้ยังไม่มีความเป็นดิจิทัลอะไรเลย 5. เมื่อญัตติดังกล่าวที่ท่านบอกว่าอยากจะแช่ไว้นั้น ท่านจะไปเอาออกจากตู้เย็นเมื่อไหร่ แล้วมีแผนอย่างไรต่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ภายในกี่เดือน กี่วัน กี่ชั่วโมง ซึ่งคงไม่ทันเลือกตั้ง ปี 70 และถ้าสมัยหน้าท่านกลับไปเป็นฝ่ายค้าน จะผลักดันเรื่องนี้ต่ออย่างไร หรือต้องรอไปถึงการเลือกตั้งปี 74 หรือ 78 ถึงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้

ด้านนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. กล่าวเรียกร้องนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลดำเนินการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล พูดคุยทำความเข้าใจหาจุดร่วมในการเดินหน้าเพื่อมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งอยากให้นายกฯพยายามมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาไม่เห็นความพยายามเกี่ยวกับเรื่องนี้ของนายกฯเลย เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย

pile of durians

กัมพูชาห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้จากไทยแล้ว

พนมเปญ 17 มิ.ย.- มาตรการห้ามนำเข้าผักและผลไม้จากไทยเข้าไปในกัมพูชา เริ่มมีผลแล้วในวันนี้ หลังจากครบกำหนดเส้นตายที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศไว้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา รายงานอ้าง พล.ท.สก เวสนะ อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาว่า ขณะนี้จุดผ่านแดนทุกด่านในกัมพูชาได้ห้ามการนำเข้าผักและผลไม้ทุกชนิดจากประเทศไทยเข้ากัมพูชาแล้ว ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานเนื้อหาเดียวกันตามที่ พล.ท.สก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับซินหัว แขมร์ไทมส์ ระบุว่า การยื่นคำขาดของรัฐบาลกัมพูชาให้ไทยเปิดด่านภายในเวลา 24 ชั่วโมง ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ผักและผลไม้ของไทยทั้งหมดไม่สามารถข้ามแดนเข้ามาในกัมพูชาได้ เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้การคุกคามและดูหมิ่นของกองทัพไทย หลังจากสถานการณ์บริเวณชายแดน 2 ประเทศตึงเครียด โดยเกิดจากฝ่ายไทย.-814.-สำนักข่าวไทย