พรรคประชาธิปัตย์ 8 พ.ค. – “ราเมศ” ระบุพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่คุยกรณี “อันวาร์” จี้ถอนตัวพรรคร่วมฯ ยืนยันพรรคมีเอกภาพ อย่านำปัญหาคนเดียวมาตัดสิน ย้ำจุดยืนเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อเดินหน้าแก้ รธน.-ผลักดันประกันรายได้ ชี้ไม่ใช่เวลามาขัดแย้ง ทุกฝ่ายต้องร่วมแก้โควิด
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ทำหนังสือถึงกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ เรียกร้องให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเกิดวิกฤติศรัทธากระบวนการยุติธรรม จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.-รัฐมนตรี จากคดียาเสพติด ว่า พรรคยังไม่มีการพูดคุยหารือกันในประเด็นดังกล่าว มองว่าเป็นเรื่องปกติ และรู้สึกเฉยๆ กับการเคลื่อนไหวของนายอันวาร์ เพราะที่ผ่านมาก็ได้มีการเรียกร้องให้พรรคถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาโดยตลอด ย้ำจุดยืนในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการที่จะเป็นรัฐมนตรี แต่ต้องการเข้ามาเพื่อจุดยืน 3 ข้อ คือ 1. ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2. ขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้ของเกษตรกร 3. ยึดหลักการความซื่อสัตย์สุจริตของพรรคประชาธิปัตย์ และการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรค ไม่ได้ฟังความคิดเห็นของคนกลุ่มเดียว แต่ต้องพิจารณาตามข้อบังคับพรรคที่ 96 ให้กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. ตัดสินใจ ซึ่งการเข้าร่วมครั้งนี้ มีเสียงสนับสนุน 61 ต่อ 16 เสียง พร้อมเห็นว่า เรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส ถือว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว อีกทั้งเคยได้พูดคุยหารือในที่ประชุมสภาฯ หลายครั้งแล้ว
ส่วนการออกมาเรียกร้องของนายอันวาร์ จะมีวาระซ่อนเร้น หรือมีแนวโน้มว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่ลงนามพรรคประชาธิปัตย์ หรือจะถูกตัดสิทธิ นายราเมศ มองว่า เรื่องความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่ต้องดูระเบียบของพรรคด้วย และตอบแทนไม่ได้ว่า นายอันวาร์ มีแนวคิดอย่างไร และจะบอกว่าพรรคไม่เป็นเอกภาพ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาของคนเพียงคนเดียว พร้อมย้ำว่า การส่งผู้สมัครมีหลักเกณฑ์ของพรรค และมีกรรมการสรรหาผู้สมัคร ซึ่งเป็นเรื่องของนายอันวาร์ และคณะกรรมการ ซึ่งคงไม่นำเรื่องความเห็นต่างหรือทัศนคติมาตัดสิน แต่ต้องดูที่คุณสมบัติว่าครบถ้วนก็มีสิทธิลงสมัครได้ ซึ่งก็ทราบว่า นายอันวาร์ จะลงสมัคร ส.ส.ในครั้งหน้าอย่างแน่นอน
นายราเมศ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ และประสบความสำเร็จทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะโครงการประกันรายได้เท่านั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งสำคัญในช่วงนี้ ทุกฝ่าย พรรคการเมือง ต้องมุ่งเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในการช่วยเหลือประชาชน และทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน ไม่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติโควิดให้ผ่านพ้นไปให้ได้ อีกทั้งส่วนตัวไม่อยากไปโต้แย้งหรือขัดแย้งกับใคร หากไม่ถูกพาดพิง. – สำนักข่าวไทย