รัฐบาลขอช่วยกันแก้ปัญหาบ่อนพนันด้วยความเป็นจริง

ทำเนียบ 16 ม.ค.- รัฐบาลขอช่วยกันแก้ปัญหาบ่อนการพนันด้วยความเป็นจริงของสังคมไทย หลังพบกลุ่มทุนเจ้าของบ่อนเริ่มขยับต่อต้านหวังคว่ำ พ.ร.บ.สถานบันเทิง เป้าหมายหลักส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวระดับโลก ด้วย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในประเทศไทยให้ก้องโลก


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า มีฝ่ายค้านบางคนออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการนำปัญหาความจริงของสังคมที่หมักหมมเป็นเวลานาน เช่น การพนันออนไลน์ การแทงบอล แทงม้า และการเล่นการพนันต่าง ๆ ทั้งในและรอบประเทศ ขึ้นมาแก้ไขปัญหาด้วยความเป็นจริง

หากย้อนกลับไปดูนโยบายของพรรคการเมืองที่เคยหาเสียงไว้หลายพรรคที่เป็นฝ่ายค้านในปัจจุบัน ก็เคยมีนโยบายหาเสียงในการจะเปิดสถานบริการการพนัน หรือ บ่อนเสรี โดยหลายนโยบายยังมีการกำหนดให้สามารถมีทุกจังหวัดได้อีกด้วย จึงอยากเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านกลับไปดูนโยบายของพรรค และนำมาเปรียบเทียบกับนโยบายของรัฐบาลที่ออกมาและช่วยกันนำเรื่องจริงของสังคมไทยมาร่วมกันแก้ไขในชั้นรับหลักการ หรือช่วงแปรญัตติ หรือชั้นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารายมาตรา


ทั้งนี้พรรคฝ่ายค้านในปัจจุบัน ยังเคยกล่าวในเวทีหาเสียงไว้ว่า “ปัจจุบันมีธุรกิจที่ผิดกฎหมาย แต่ยังคงเปิดดำเนินการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยรัฐก็ไม่ได้มีแนวคิดที่จะปราบปรามอย่างจริงจังสุดท้ายกลายเป็นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์และนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ที่ร้ายแรงมากยิ่งขึ้น เช่น การฟอกเงินของผู้ค้ายาเสพติด และการค้ามนุษย์ รวมไปถึงการกดขี่ลูกจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม

ซึ่งการนำธุรกิจที่ผิดกฎหมายและอยู่ใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่บนดิน โดยกำกับควบคุมอย่างเข้มข้น ถือเป็นทางออกที่จะสามารถควบคุมการดำเนินธุรกิจได้จริงจัง ปิดช่องที่จะเกิดการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ รวมถึงการคุ้มครองแรงงานให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และยังสามารถสร้างรายได้เข้ารัฐในรูปแบบของภาษีและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตได้อีกด้วย โดยพรรค….เสนอให้มีกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย โดยจำกัดอายุผู้เล่นไม่ต่ำกว่า 20 ปี จำกัดฐานะของผู้เล่น โดยกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ที่จะมีสิทธิเล่นได้ ให้ยึดตามรายได้ที่แจ้งต่อสรรพากรในปีภาษีก่อนหน้า จำกัดจำนวนกาสิโน โดยถ้าจังหวัดไหนจะมีกาสิโนได้ ต้องออกเป็น พ.ร.ฎ. กำหนดพื้นที่และจำนวนกาสิโนที่จะออกใบอนุญาตได้“ เป็นต้น

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า หลายสิบปีมานี้ปัญหานี้ คือความจริงของสังคมไทยว่าเป็นอย่างไร ในประเทศจับบ่อนขนาดเล็กขนาดใหญ่ เป็นข่าวเป็นประจำ คนไทยออกไปเล่นการพนันต่างประเทศ และรอบประเทศ เหนือ ใต้ ออก ตก มากขนาดไหนมีการเล่นพนัน แทงบอล พรีเมียร์ลีก บอลยูโร บอลโลก สารพัดการแข่งขัน โดยเอาเงินไปให้ต่างชาติกันมากมายขนาดไหน วันนี้ถึงเวลาที่สังคมจะต้องช่วยกันต่อสู้กับ ธุรกิจสีเทา ที่วันนี้ฝ่ายความมั่นคง เริ่มพบว่ามีการขยับที่จะทำทุกวิถีทางโดยมีเป้าหมายต้องล้ม พรบ.นี้ เพื่อให้พวกเขายังคงธุรกิจสีเทาเหล่านี้ได้ต่อไป สุดท้ายสังคมไทยก็จะกลับเข้ามาวังวนเดิม ๆ

ทั้งนี้ ร่าง พรบ.ฉบับนี้ ได้ศึกษามาอย่างรอบด้าน ทั้งผลดี และ ผลกระทบของสังคมในทุกมิติซึ่งพบว่าหากมีกฎหมายควบคุม ก็จะสามารถควบคุมกลไกต่าง ๆได้ อันมีคุณมากกว่าโทษ โดยในเนื้อหาของร่างพรบ.ฉบับนี้ ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกลั่นกรอง ติดตาม ตรวจสอบ เขียนระเบียบ กฎกติกาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้มาลงทุนเรื่อง เงินทุน จะสีดำหรือเทาก็เข้ามาไม่ได้หากมีกฎหมายฉบับนี้

นายจิรายุกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีปัญหาใหญ่ในเรื่องนี้ที่ต้องแก้ไข โดยมีหลายหน่วยงานเห็นพ้องกันให้เร่งแก้ไขปัญหาหลัก ๆ 3 ประเด็น โดย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พิจารณาและรับทราบในเรื่องที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสภาพปัญหาที่แท้จริงของประเทศไทยดังนี้

1. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ให้ ข้อเสนอแนะ ต่อ ครม. ถึงสถานการณ์ทั้งการพนันออนไลน์และบ่อนการพนันทั้งในและรอบประเทศไทย พบว่า ตำรวจได้จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าและซิมม้าและคดีพนันออนไลน์ ระยะเวลาเพียงหกเดือนกว่า สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ จำนวน 15,000 ราย ซึ่ง ปปช.และ กสทช. ได้ดำเนินการระงับซิมม้ากว่า 3 ล้านเลขหมาย ในส่วนของกระทรวงดีอี ได้ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์หลอกลวง กว่า 1.5 แสนราย ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยได้ดำเนินการ กับบัญชีต้องสงสัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกภาคส่วนได้ร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ แต่ยังพบปัญหาการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องจึงขอให้ รัฐบาลรับไปเร่งแก้ไขปัญหา

2. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉบับที่ พ.ศ….. โดยสาระเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดที่เคยออกไว้เมื่อปี 2566 โดยจะขอเพิ่มมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และมิจฉาชีพเช่นการห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม การให้อำนาจ กสทช.หรือผู้บริการโทรศัพท์มือถือมีอำนาจหน้าที่ในการสั่งระงับการให้บริการเลขหมายเมื่อพบเหตุอันควรสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้สถาบันการเงินหรือผู้บริการเครือข่าย โทรศัพท์อื่น ๆ หรือสื่อสังคมออนไลน์มีส่วนรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและเพิ่มเติมบทกำหนดโทษภาระ


ซึ่งเรื่องนี้ ที่ประชุม ครม. เห็นว่ามีการประกาศพระราชกำหนดแล้วเมื่อ ปี 66 ให้กระทรวงดีอีร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติหารือกันเพื่อพิจารณาปรับรูปแบบการตรากฎหมายเป็น ร่างพรบ. เพื่อแก้ไข พรบ.ดังกล่าว หรือการแก้ไขกฎหมายรองลงมา แทนการตรา พ.ร.ก. ขึ้นมาใหม่ โดยให้รับฟังความเห็นของหน่วยงานไปประกอบพิจารณาและส่งให้วิปรัฐบาล พิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรแก้ไขต่อไป

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่าหากแก้ไขกฎหมายรองอาจจะใช้เวลาน้อยกว่าเข้าสู่สภาซึ่งมีถึง 3 วาระและใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งกระทรวงดีอีได้รับไปพิจารณาในการใช้กฎหมายรองที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่มากนัก

สำหรับเรื่องที่ 3. คือ ครม.ผ่านความเห็นชอบ ตามที่ กระทรวงการคลัง คณะกรรมการกลั่นกรองด้านเศรษฐกิจฯ เสนอต่อที่ประชุมให้พิจารณาเห็นชอบในหลักการต่อร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. อาทิ กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการบริหารการจัดตั้งสำนักงานเพื่อกำกับการประกาศประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตเพื่อกำหนดมาตรฐานในการรองรับการท่องเที่ยว และส่งเสริมการลงทุนในประเทศ อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวมในการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ถาวร ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการในร่าง พรบ.ดังกล่าวตามที่กระทรวงการคลังเสนอและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยให้นำความเห็นของข้อสังเกตของคณะกรรมการรวมทั้งความเห็นของทุกหน่วยงานไปประกอบในการพิจารณาต่อไป

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า สถานบันเทิงครบวงจรนั้นไม่ได้หมายถึง “กาสิโน” เพียงอย่างเดียวแต่เป็นการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น สวนสนุก สวนน้ำ สถานที่พักผ่อน โรงแรม ระดับหรู และ โรงละคร และ สถานที่จัดคอนเสิร์ตระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกทั้งใน เอเชีย และหลายทวีป ต่างพบว่า ธุรกิจที่อยู่บนดินสามารถควบคุมได้ ประชาชน และสังคมจะมีความปลอดภัยในทุกมิติมากกว่า .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย