สถานการณ์ยังวางใจไม่ได้ การ์ดอย่าตก

ทำเนียบรัฐบาล 22 เม.ย.-ศบค.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,470 ราย เสียชีวิต 7 คน ขณะที่ กทม.วันนี้ยอดยังพุ่ง 446 ราย หลายพื้นที่ยังวางใจไม่ได้ ย้ำไม่ประมาท การ์ดอย่าตก


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ วันนี้(22 เม.ย.) ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1,470 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 1,470 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,370 ราย จากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 100 ราย ไม่มีผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศติดเชื้อ

“ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 48,113 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 44,867 ราย ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 20,914 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 3,246 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 2,617 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 171 ราย รวมเป็น 29,848 ราย กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 18,148 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 477 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 7 คน โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 117 ราย” โฆษก ศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 7 คน ได้แก่ รายที่ 111 เป็นหญิงไทยอายุ 24 ปี อาชีพ ค้าขาย มีโรคประจำตัว อ้วน เมื่อวันที่ 7 เม.ย.มีประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 16 เม.ย. มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ รับการตรวจหาเชื้อ วันที่ 17 เม.ย. พบเชื้อและปอดอักเสบ หายใจเหนื่อย วันที่ 19 เม.ย. ออกซิเจนในเลือดต่ำ ปอดอักเสบรุนแรงและเสียชีวิตในวันที่ 20 เม.ย. เวลา 14.30 น. รายที่ 112 เป็นหญิงไทยอายุ 68 ปี อาชีพดูแลเด็ก ขณะป่วยอยู่ที่จังหวัดสระบุรี มีโรคประจำตัว ภูมิแพ้ โดยวันที่ 5 เม.ย.มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าวันที่ 12 เม.ย. เริ่มมีอาการไข้ไอ วันที่ 19 เม.ย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมีอาการหายใจลำบากมีเสมหะ ใส่ท่อช่วยหายใจและระบบหายใจล้มเหลว จากนั้นเสียชีวิตในวันที่ 20 เม.ย.

รายที่ 113 เป็นชายไทย อายุ 83 ปี ขณะป่วยอยู่ที่กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง วันที่ 17 มี.ค.มีไข้สูง ไอแห้ง มีน้ำมูก อ่อนเพลีย วันที่ 22 มี.ค.ไปรักษาที่คลินิกเอกชน วันที่ 23 มี.ค.รับการตรวจคัดกรองเชิงรุกจากหน่วยรถพระราชทาน วันที่ 24 มี.ค.พบเชื้อ วันที่ 25 มี.ค.เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 31 มี.ค.เหนื่อยมากขึ้นใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาอาการทรุดลงและเสียชีวิตในวันที่ 20 เม.ย.เวลา 12.07 น.” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รายที่ 114 เป็นหญิงไทยอายุ 80 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะป่วยอยู่จังหวัดนครปฐม มีโรคประจำตัวเบาหวาน วันที่ 13 ถึง 15 เม.ย. ญาติเดินทางมาจากกรุงเทพฯมาเยี่ยม วันที่ 16 เม.ย. มีอาการอาเจียนเป็นเลือด ญาตินำส่งโรงพยาบาลตรวจพบเชื้อ โควิด-19 ต่อมาอาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตในวันที่ 17 เม.ย.เวลา 06.30 น. รายที่ 115 เป็นชายไทยอายุ 45 ปี อาชีพพนักงานขับรถ ขณะป่วยอยู่ที่กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง วันที่ 9 เม.ย. มีอาการไอ ไข้ เหนื่อย พบประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า วันที่ 17 เม.ย. ไข้สูง 40.2 องศา ไอ มีเสมหะ หนาวสั่น กินได้น้อยลง มาตรวจที่โรงพยาบาล รับยากลับบ้านวันที่ 19 เม.ย.เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการหายใจเหนื่อย ค่าออกซิเจนในเลือด 60 ถึง 70% ตรวจพบเชื้อ และปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตวันที่ 20 เม.ย.


รายที่ 116 เป็นชายไทยอายุ 59 ปี อาชีพพนักงานรัฐวิสาหกิจ ขณะป่วยอยู่ที่กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวเบาหวาน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 14 เม.ย.มีอาการไอวันที่ 20 เม.ย.เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการไอหายใจลำบากใส่ท่อช่วยหายใจและพบเชื้อจากนั้นเสียชีวิตในวันเดียวกัน รายที่ 117 เป็นชายไทยอายุ 86 ปี อาชีพรับจ้าง ขณะป่วยอยู่ที่กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ โดยวันที่ 5 เม.ย. มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า วันที่ 16 เม.ย. ตรวจพบเชื้อมีอาการไอแห้ง อ่อนเพลีย วันที่ 18 เม.ย. เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 20 เม.ย. มีอาการหอบ เหนื่อย ไข้สูงค่าออกซิเจนในเลือดต่ำต่อมาอาการแย่ลงและเสียชีวิตในวันที่ 21 เม.ย. ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดมีโรคประจำตัว” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตในระลอกนี้ 23 คน คิดเป็น 0.12% ซึ่งแนวโน้มผู้ติดเชื้อยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ตัวเลขยังขึ้นมากกว่าพันคนทุกวัน โดยเฉพาะ กทม.ตัวเลขยังแดงอยู่ จาก 350 ราย เป็น 365 ราย วันนี้ (22เม.ย.) เป็น 446 ราย ตัวเลขสะสม 4,775 ราย รองลงมาคือ เชียงใหม่ จากเดิมร้อยมาตลอดหลายวัน เหลือ 99 ราย แต่ยังชะล่าใจไม่ได้ สะสม 2,597 ราย ชลบุรีรายเพิ่มขึ้น 97 ราย นนทบุรี เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจาก 69 ราย เพิ่มเป็น 118 ราย เป็นต้น

สถานการณ์รายวันแม้จังหวัดดูเป็นสีเขียวมากขึ้น คือ มีติดเชื้อ 1-10 ราย แต่ยังไม่ถือว่าดีขึ้น ถือว่ายังทรงอยู่ ส่วนรายละเอียดผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่ 1-23 เม.ย. 2564 อยู่ที่ 19,250 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 14,249 ราย ค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 4,852 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 149 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 23 ราย

“สำหรับจำนวนผู้ที่เข้ารับวัคซีนในประเทศไทย เข็มที่ 1 เมื่อวานนี้ (21เม.ย.) 141,670 ราย รวม เข็มที่1 746,617 ราย ส่วนเข็มที่ 2 เมื่อวานี้ (21 เม.ย.) 10,560 ราย รวม 118,223 ราย ทั้งนี้มีจำนวนผู้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-21 เม.ย. 2564 (53 วัน) 864,840 โดส ในพื้นที่ 77 จังหวัด” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก วันนี้(22 เม.ย.) ยอดผู้ติดเชื้อรวม 144,431,869 ราย อาการรุนแรง 109,845 ราย รักษาหายแล้ว 122,606,237 ราย เสียชีวิต 3,071,625 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 32,602,051 ราย 2. อินเดีย จำนวน 15,924,806 ราย 3. บราซิล จำนวน 14,122,795 ราย 4. ฝรั่งเศส จำนวน 5,374,288 ราย 5. รัสเซีย จำนวน 4,727,125 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 105.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]