สนง.กสม. วันนี้ ( 23 มี.ค.) กสม.ออกแถลงการณ์ เรียกร้องทุกฝ่ายเคารพหลักสิทธิมนุษยชนในการชุมนุมทางการเมือง ผู้ชุมนุมต้องไม่ยั่วยุ เลี่ยงทำผิดกฎหมาย ขณะที่รัฐต้องทบทวนการใช้กระสุนยางในการควบคุมสถานการณ์ พร้อมยึดกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ในการดำเนินการกับเยาวชนและประชาชน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ เรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายเคารพหลักสิทธิมนุษยชนในการชุมนุม เพื่อแสดงออกทางการเมือง ระบุว่าตามที่ประชาชนกลุ่ม REDEM และเครือข่ายได้ชุมนุมเพื่อแสดงออกทางการเมืองในหลายบริเวณรอบเขตกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 20 -21 มี.ค. โดยมีรายงานสถานการณ์การกระทำผิดกฎหมาย ความรุนแรง และการปะทะกันระหว่างผู้เข้าร่วมชุมนุมและเจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดจนมีการใช้อาวุธสิ่งเทียมอาวุธและยุทธวิธีต่าง ๆ มีผู้ชุมนุมบางกลุ่มที่ก่อเหตุความไม่สงบ รวมถึงกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย และฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการและอุปกรณ์ต่างๆ
กสม.ได้ติดตามสถานการณ์ และห่วงกังวลต่อการชุมนุมที่มีแนวโน้มการใช้ความรุนแรงมากขึ้น จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพิจารณา ว่าเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยรัฐมีหน้าที่ต้องเคารพและคุ้มครองให้ประชาชนสามารถใช้เสรีภาพได้อย่างเสรีภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ขณะที่ผู้ชุมนุมไม่ว่ากลุ่มใดจะต้องหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย หรือยั่วยุ หรือชักชวนผู้อื่นให้กระทำผิดกฎหมาย อันอาจเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมายจำกัดการใช้เสรีภาพของผู้ชุมนุมโดยรวม
ในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมและมีการใช้อุปกรณ์ที่เป็นอันตราย มีผลกระทบต่อความปลอดภัยและชีวิต เช่น กระสุนยาง เจ้าหน้าที่รัฐต้องยึดแนวปฏิบัติขององค์การสหประชาชาติ รัฐจึงควรทบทวนการใช้กระสุนยางเท่าที่จำเป็นทั้งนี้รัฐควรเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสมและพอเพียง
กรณีการจับกุมเด็กและเยาวชนที่เป็นผู้กระทำความผิด รัฐควรคำนึงถึงสิทธิเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม และ ในการดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลอันมีเหตุจากสถานการณ์การชุมนุมหรือการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหวและมีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและความปรองดองภายในชาติ รัฐอาจพิจารณานำกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ มาเป็นอีกทางออกหนึ่งในการแก้ไขปัญหา กสม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกฝ่ายจะใช้ความอดทนอดกลั้น และดำเนินการใด ๆ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนสากล และขอบเขตของกฎหมายเป็นสำคัญ เพื่อให้สังคมก้าวผ่านวิกฤตการณ์ทางการเมืองไปได้พร้อมกันอย่างสันติ .-สำนักข่าวไทย