จุดยืนประชาธิปัตย์ ไม่แก้ ม.112

กทม. 20 มี.ค.-“จุรินทร์” ประกาศชัด จุดยืนประชาธิปัตย์ ไม่แก้ ม.112 สั่งทีมกฎหมาย ยกร่างแก้ รธน.รายมาตรา มอง ม.256 เป็นกุญแจดอกใหญ่ ต้องสะเดาะเปิดประตูสู่ประชาธิปไตย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม ใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า พระโขนง – บางนา ถือเป็นพื้นที่สำคัญทั้งในอดีตปัจจุบัน และในอนาคต แม้ว่าเขตนี้จะไม่มีผู้แทนราษฎรในพื้นที่นี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะศูนย์ตลอดไป ซึ่งอีกไม่นานพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯจะเติบโตก้าวหน้าพัฒนาและเพิ่มเติมจำนวนไปสู่ความสำเร็จอย่างยิ่งในอนาคตอย่างแน่นอน มีสาขาพรรค ทั้งสิ้น 18 สาขา และการเดินหน้าทางการเมืองจะเข้มข้นขึ้น ซึ่งที่ผ่านมางานในพรรคร่วมรัฐบาลจะพิสูจน์ว่าในช่วงเวลา ปีครึ่งโดยประมาณ พิสูจน์ว่าสิ่งไหนที่รับปากไว้สามารถทำงานได้สำเร็จ และเป็นที่ประจักษ์กับประชาชน


ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ แต่ทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องการเดินหน้างานของพรรคถัดจากนี้ไป จะเดินหน้าผลักดัน 2 เรื่องคู่ขนานกัน เรื่องแรกคือการผลักดันการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน และผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองเรื่องคือหัวใจสำคัญที่จะเป็นทิศทางการเดินหน้าในการทำหน้าที่ตัดจากนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเห็นว่าการแก้ไขปัญหาปากท้องคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้สถานการณ์ covid และต้องพาประเทศเดินหน้าต่อไปทำรายได้ให้กับประเทศ เพื่อจุนเจือรากหญ้าในมิติต่างๆ ให้อิ่มท้องขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ระบุว่าการจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญการแก้ไขปัญหาปากท้องคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการแก้ไขปัญหาในทางการเมือง ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า การเมืองประเทศไทยยังไม่นิ่ง และส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ตราบใดที่ติดหล่มอยู่ในเรื่องการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเมือง ก็จะเป็นอุปสรรคที่คอยล์จุดระเบิดการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างครบถ้วนเต็ม 100% ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นจะพาประเทศไปสู่การเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น การเมืองกับเศรษฐกิจจึงต้องคู่ขนานกันไป นี่คือเหตุผล หลายคนอาจไม่เข้าใจ คำตอบคือหากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญการเมืองก็จะขยับ และสุดท้ายกรรมจะตกที่ประชาชน ประชาธิปไตยมีความชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาทั้งปากท้องของประชาชนและแก้รัฐธรรมนูญพาประเทศไปสู่การเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น พร้อมมองเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกของประเทศ


ซึ่งนายจุรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการหลังจากที่รัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ผ่านวาระ 3 ให้ฝ่ายกฎหมายได้ยกร่างการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เพราะเมื่อการตั้งส.ส.ร. ยกร่างทั้งฉบับมีปัญหา ถกเถียงในข้อกฎหมายและแม้แต่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่าสามารถเดินหน้าได้หรือไม่ ตนคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดของปัญหานี้คือต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา และจะยกร่างอย่างน้อยที่สุดบริเวณที่แก้ไขคือจุดยืนเดิมที่ตนได้ประกาศไว้ตั้งแต่มาเป็นหัวหน้าพรรคว่าจะต้องแก้ไขมาตรา 256 ซึ่งเป็นมาตราที่ว่าด้วยวิธีการแก้ไขและเงื่อนไขการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้แก้ยากมาก โดยระบุเงื่อนไขต่างๆไว้ในมาตรา 256 ที่ระบุว่าเสียงส.ส. ต้องเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.และ ส.ว.รวมกัน และในเสียงเกินกว่าครึ่งหนึ่งมันต้องมีเสียงของส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 อยู่กับ ส.ว.เป็นเงื่อนไขสำคัญ และเสียงของฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ซึ่งหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าวร่างนั้นก็จะตกไป และแม้ว่ารัฐธรรมนูญนั้นจะพังจะต้องมีการทำประชามติหลังจากนั้นจึงนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อลงพระปรมาภิไธย ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขข้อจำกัด เสมือนกุญแจดอกใหญ่ที่ล็อคประตูประชาธิปไตย ตราบใดที่ไม่แก้มาตรา 256 ประตูประชาธิปไตยไม่สามารถที่จะเปิดออกได้ เพื่อทำให้การเมืองนั้นนิ่งได้ในอนาคต รายการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขในการก่อเหตุทางการเมือง

ส่วนอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดไว้ว่า ให้ผู้ที่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภาในช่วง 5 ปีแรกคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เป็นการตั้งคำถามว่าเราจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญย้อนกลับหรือเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตยปกติได้หรือไม่ โดยให้ประชาชนที่เลือกผู้แทนเข้ามา เป็นผู้มีสิทธิ์ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีแทนประชาชน โดยไม่รวมส.ว.ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง

นอกจากนี้ ตนยังสั่งการให้ ฝ่ายกฎหมาย แต่ละประเด็นมีการแยกร่างเป็นเรื่องเรื่องไปอย่าเอาหลายประเด็นมามัดรวมกันในแต่ละร่าง ไม่เช่นนั้นในประเด็นนี้เห็นด้วยประเด็นนั้นไม่เห็นด้วยก็จะทำให้ทั้งร่างนั้นตกไปทั้งหมด


ซึ่งนายจุรินทร์ ย้ำว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาธิปัตย์ ต้องเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตย ขีดเส้นใต้ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีเงื่อนไขอยู่ 2-3 เรื่อง ไม่ว่าจะแก้รูปแบบใดต้องไม่แตะหมวด1 และหมวด 2 ในเรื่องรูปแบบของรัฐและ สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีความสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว พร้อมกับระบุว่าเห็นด้วยให้คงมาตรา 112 เนื่องจากมาตรา 112 เป็นมาตราที่ว่าด้วยการให้ความคุ้มครองประมุขของประเทศ ไม่มีประเทศใดไม่มีบทบัญญัติในการคุ้มครองประมุข เช่นเดียวกับประเทศไทยที่จะต้องมีบทบัญญัติในการให้ความคุ้มครองประมุขของประเทศ ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ นี่คือจุดยืนที่ชัดเจน

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ยัง ระบุอีกว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ และให้ความสำคัญเสมอไม่มีความเปลี่ยนแปลง พร้อมกับต้องเดินหน้าพิสูจน์ให้คนกรุงเทพฯเห็นว่าพร้อมที่จะกลับมารับใช้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยหากมีการเลือกตั้งมีการเตรียมพร้อมด้านบุคลากร เตรียมครบแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ยังขาดอีกเพียงไม่กี่เขต ไม่ใช่ไม่มีคน แต่ละเขตมีมากกว่า 1 คน ต้องหาว่าสุดท้ายใครเป็นผู้เหมาะที่สุด การผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นเรื่องละเอียดอ่อนตนไม่ขอกล่าวตอนนี้โดยมอบให้ทีมกรุงเทพฯได้เป็นผู้รับไปพิจารณาดำเนินการ โดยหากมีความคืบหน้าจะเรียกประชุมเพื่อขอตัวบุคคลในการลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป โดยหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่กรุงเทพฯเข้มข้นขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย