ชี้เมียนมายังสามารถโต้กลับฝ่ายต่อต้านได้

เบอร์ลิน 20 เม.ย.- สื่อใหญ่ในเยอรมนีรายงานความเห็นของนักวิเคราะห์ว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังต่อสู้อย่างหนักเพื่อความอยู่รอด แต่ก็ยังคงสามารถระดมสรรพกำลังในการตอบโต้ฝ่ายต่อต้านอย่างหนักหน่วงได้ เว็บไซต์ดีดับเบิลยู (DW) ซึ่งเป็นสื่อระดับโลกของเยอรมนีอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนว่า กองทัพเมียนมากำลังอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างยิ่งและพ่ายแพ้ในศึกหลายด้านทั่วประเทศ หลังจากเสียเมืองเมียวดีที่เป็นเมืองพรมแดนสำคัญให้แก่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) ซึ่งจับมือกับกลุ่มต่อต้าน เป็นการสูญเสียทางสัญลักษณ์จากการที่ทหารกว่า 600 นายและครอบครัวยอมจำนนโดยดี และสูญเสียทางเศรษฐกิจเพราะเป็นเมืองการค้ากับไทยที่มีการค้าขายสินค้ามูลค่าปีละหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซาชารี อาบูซา นักวิชาการของวิทยาลัยสงครามแห่งชาติในสหรัฐที่ศึกษาเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านที่กำลังสู้รบกับกองทัพเมียนมาใน 8 พื้นที่ไม่มีกลุ่มใดแข็งแกร่งหรือซับซ้อนเป็นพิเศษ เพียงแต่กองทัพเมียนมาตึงตัวจนไม่สามารถแบ่งกำลังพลไปเอาชนะได้ ด้านเดวิด สกอตต์ มาเธียสัน นักวิเคราะห์อิสระมองว่า เมียนมามีพื้นที่กว้างใหญ่มากพอที่จะให้กองทัพล่าถอย ประกอบกับกองทัพมีเครือข่ายฐานที่มั่นและการผลิตอาวุธ การเสียดินแดนจึงยังไม่ได้หมายความว่ากองทัพพ่ายแพ้ ขณะที่โฆษกของเคเอ็นยูเองยอมรับว่า กังวลว่ากองทัพจะตอบโต้อย่างหนัก เพราะที่ผ่านมากองทัพมักใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงเมื่อเสียดินแดน ขณะนี้กองกำลังภายใต้การควบคุมของสภาบริหารแห่งรัฐหรือเอสเอซี (SAC) ที่กองทัพเมียนมาตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2564 กำลังถูกกลุ่มต่อต้านกดดันจนต้องล่าถอยในหลายรัฐทั้งกะฉิ่น ยะไข่ กะยา และฉาน นับจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มจับมือกันตั้งพันธมิตร 3 ภราดรภาพ เปิดฉากปฏิบัติการ1027 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ยึดได้ที่ตั้งทางทหารและเมืองต่าง ๆ ในรัฐฉาน.-814.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

ฝ่ายต่อต้าน ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีทหารเมียนมา

ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีทหารเมียนมา กองพัน.ร.275 ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

คนในฝั่งเมียวดีเข้าแถวยาวเหยียดเข้าไทย

เมียวดี 11 เม.ย.- ประชาชนจำนวนมากในฝั่งเมืองเมียวดีของเมียนมาเข้าแถวยาวเหยียด เดินทางเข้าไทยผ่านด่านแม่สอดของจังหวัดตากในวันนี้ ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์รายงานจากด่านแม่สอดว่า เห็นชาวเมียนมาเข้าแถวรอในฝั่งเมียวดี ขณะที่ฝั่งไทยมีทหารคอยตรวจสัมภาระผู้เดินทางเข้ามา ชายชาวเมียนมาคนหนึ่งที่ขนสัมภาระมาเป็นจำนวนมากยอมรับว่า มีความกังวล ขณะนี้สถานการณ์ในเมียวดียังไม่เป็นไร แต่ถ้าไกลออกไปข้างนอกยังมีการยิงกันอยู่ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันโฆษกกลุ่มติดอาวุธและสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทหารเมียนมาประมาณ 200 นายได้ล่าถอยไปยังสะพานที่เชื่อมเมืองเมียวดีกับอำเภอแม่สอดในวันนี้ หลังจากถูกกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาโจมตีอย่างหนักมาหลายวัน รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากว่า ปกติแล้วมีคนข้ามจากเมียวดีเข้ามาทางแม่สอดวันละ 2,000 คน แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาตัวเลขเพิ่มเป็นวันละเกือบ 4,000 คน รอยเตอร์รายงานด้วยว่า กองทัพไทยได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามแนวพรมแดน ด้วยการประจำการยานหุ้มเกราะติดปืนกล.-814.-สำนักข่าวไทย

เมียวดีปะทะเดือด ชาวเมียนมาเริ่มหนีภัยสู้รบข้ามแดน-จนท.ไทยตรึงกำลัง

กองกำลังฝ่ายต่อต้านบุกโจมตีค่ายทหารเมียนมา ฐานที่มั่นสุดท้ายในเมืองเมียวดี จนเกิดการยิงปะทะอย่างหนักหลายชั่วโมง เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดน ชาวเมียนมาเริ่มแห่หนีภัยสู้รบผ่านด่านพรมแดนแม่สอด จ.ตาก

รัสเซียเริ่มเลือกตั้งประธานาธิบดีวันสุดท้าย

มอสโก 17 มี.ค.- รัสเซียเริ่มการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันสุดท้ายในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ฝ่ายต่อต้านชักชวนคนออกมาแสดงพลัง ข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางรัสเซียระบุว่า มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดมากกว่า 114 ล้านคน ในจำนวนนี้มากกว่า 63 ล้านคนใช้สิทธิแล้วในช่วง 2 วันแรก การเลือกตั้งวันสุดท้ายในวันนี้จะทดสอบความแข็งแกร่งของฝ่ายต่อต้านที่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนทั้งหมดออกมาใช้สิทธิในช่วงเที่ยงตามที่นายอเล็กเซ นาวาลนี แกนนำฝ่ายต่อต้านที่เสียชีวิตในเรือนจำแถบขั้วโลกเหนือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เรียกร้องในช่วงที่ยังมีชีวิตให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศออกมาใช้สิทธิในเวลาเที่ยงวันนี้ตามแต่ละเขตเวลาในรัสเซียที่มีมากถึง 11 เขตเวลา ฝ่ายต่อต้านระบุว่า การเคลื่อนไหวนี้เรียกว่า “เที่ยงต่อต้านปูติน” (Noon Against Putin) เป็นช่องทางการแสดงความคัดค้านโดยไม่เสี่ยงถูกจับกุม คาดกันว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน วัย 71 ปี จะชนะเลือกตั้งได้ครองตำแหน่งสมัยที่ 5 วาระ 6 ปี เขากล่าวหายูเครนเมื่อวันศุกร์ว่า พยายามขัดขวางการเลือกตั้งของรัสเซียด้วยการระดมใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีเข้ามายังพื้นที่ในรัสเซียและดินแดนของยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ทางการท้องถิ่นรัสเซียแจ้งว่า กองกำลังยูเครนยังคงเดินหน้าโจมตีพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับยูเครนในเช้าวันนี้ นักวิเคราะห์ทางทหารชี้ว่า ยูเครนถือว่าการเลือกตั้งในดินแดนยูเครนที่ถูกยึดครองเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และได้มุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งพลังงานของรัสเซียหวังสั่นคลอนความรู้สึกปลอดภัยของชาวรัสเซีย และสั่นคลอนการทำสงครามในยูเครน.-814.-สำนักข่าวไทย

เมียวดีเดือด! ฝ่ายต่อต้านใช้โดรนทิ้งระเบิด ผู้ว่าฯ-ผกก.ดับ

ชายแดนเมียนมากลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมาก่อเหตุอุกอาจ ใช้โดรนบินทิ้งระเบิดถล่มโรงพักเมียวดี-หน่วยราชการสำคัญ และขณะผู้ว่าฯ เมียวดี นำคณะลงพื้นที่ มีระเบิดถูกจุดขึ้นอีกครั้ง เป็นเหตุให้ผู้ว่าฯ เมียวดี ผู้กำกับการเมียวดี นายตำรวจ และผู้เกี่ยวข้อง เสียชีวิตรวม 6 คน บาดเจ็บอีก 10 คน

เมียนมา มีคนเจ็บ-ตาย เพราะทุ่นระเบิดมากขึ้น หลังรัฐประหาร

กรุงเทพ 22 ก.พ.- สหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เผยว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา เมียนมามีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพราะทุ่นระเบิดวันละไม่ต่ำกว่า 1 คน เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 40 จากปี 2564 องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ แจ้งเมื่อวันอังคารว่า ปี 2565 มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพราะทุ่นระเบิดหรือสรรพาวุธที่ไม่ระเบิดทั้งหมด 390 คน 2 ใน 3 ของการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนที่กลุ่มกบฏชาติพันธุ์มีการสู้รบกับกองทัพและสู้รบกันเองมาหลายทศวรรษเพื่อแย่งชิงอำนาจการปกครองตนเองและทรัพยากรธรรมชาติอบ่างไม้สักและหยก รวมถึงการค้ายาเสพติด และ 1 ใน 5 ของการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดขึ้นในภูมิภาคสะกายที่อยู่ทางเหนือของเมียนมา เดิมพื้นที่นี้อยู่ในความสงบ แต่หลังจากกองทัพรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ก็กลายเป็นศูนย์กลางการต่อต้านรัฐบาลทหาร ยอดผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพราะทุ่นระเบิดในปี 2565 เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 40 จากปี 2564 และเพิ่มขึ้นจาก 254 คนในปี 2563 องค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุในปี 2565 ว่า […]

ยอดเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียเกิน 46,000 คนแล้ว

อังการา 19 ก.พ.- ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวใหญ่ในทูร์เคียหรือตุรกีและซีเรียเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์เพิ่มเป็นมากกว่า 46,000 คนแล้วจนถึงขณะนี้ และยังมีผู้สูญหายอยู่เป็นจำนวนมาก ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีอยู่ที่ 40,642 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในซีเรียมีมากกว่า 5,800 คน สำนักงานจัดการภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินของตุรกีหรือเอเอฟเอดี (AFAD) เผยว่า ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยส่วนใหญ่จะยุติลงในคืนวันนี้ตามเวลาตุรกี ก่อนหน้านี้ทีมกู้ภัยจากคาซัคสถานพยายามช่วยชาวซีเรียครอบครัวหนึ่งจำนวน 5 คนที่ติดอยู่นานกว่า 12 วันใต้ซากอาคารที่พังถล่มในเมืองอันตักเกีย ทางใต้ของตุรกี พวกเขาช่วยได้บิดา มารดา และลูก 1 คน ส่วนลูกอีก 2 คนเสียชีวิตไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ดี เด็กที่รอดเสียชีวิตในภายหลังเพราะภาวะขาดน้ำ มีข้อมูลว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.8 และอาฟเตอร์ช็อกที่ตามมาหลายระลอกทำให้อาคารชุดพักอาศัยในตุรกีพังเสียหายประมาณ 345,000 หลัง ด้านโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติหรือดับเบิลยูเอฟพี (WFP) เผยว่า รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลซีเรียให้ความร่วมมือด้วยดีในการจัดสรรความช่วยเหลือไปให้แก่ผู้ประสบภัย แต่ปฏิบัติการในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผชิญอุปสรรค เพราะทางการในพื้นที่ไม่อนุญาตให้เข้าถึงตามที่ต้องการ ทำให้เกิดการขาดแคลนสิ่งบรรเทาทุกข์ จึงขอเรียกร้องให้เพิ่มการเปิดด่านข้ามพรมแดนจากทางฝั่งตุรกี.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นขอความช่วยเหลือให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวซีเรีย

นิวยอร์ก 15 ก.พ.- สหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ร้องขอความช่วยเหลือมูลค่า 397 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,544 ล้านบาท) ให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในซีเรียที่เผชิญสงครามกลางเมืองมาร่วม 12 ปีแล้ว นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นประกาศขอความช่วยเหลือที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ความช่วยเหลือนี้จะนำไปใช้บรรเทาทุกข์เพื่อช่วยชีวิตชาวซีเรียเกือบ 5 ล้านคนเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนตุรกีที่ประสบภัยแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์เช่นเดียวกัน ยูเอ็นใกล้จะสรุปตัวเลขความช่วยเหลือได้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะนี้คนหลายล้านในภูมิภาคดังกล่าวกำลังดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดในสภาพที่ไร้บ้านท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ ขอให้สมาชิกยูเอ็นให้เงินสนับสนุนอย่างเต็มที่และทันที เพื่อช่วยคนหลายล้านคนที่ชีวิตต้องพลิกผันเพราะภัยพิบัตินี้ที่ร้ายแรงที่สุดในหนึ่งชั่วอายุคน เลขาธิการยูเอ็นยังร้องขอให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สามารถปฏิบัติภารกิจในซีเรียได้อย่างเสรี หลังจากนักเคลื่อนไหวและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียตำหนิยูเอ็นว่า มีความล่าช้าในการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้าน ขณะที่ท่าอากาศยานภายใต้การควบคุมของรัฐบาลซีเรียกลับมีเครื่องบินบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือไปลงจอดได้อย่างสะดวก เลขาธิการยูเอ็นเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียอนุมัติให้เปิดด่านข้ามแดนจากตุรกีเข้าตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียอีก 2 ด่าน เพื่อลำเลียงความช่วยเหลือได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่ลำเลียงได้เพียงด่านเดียว.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นยอมรับล้มเหลวเรื่องส่งความช่วยเหลือให้ซีเรีย

นิวยอร์ก 13 ก.พ.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นยอมรับว่า ล้มเหลวในการจัดส่งความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในพื้นที่ยังมีสงครามในซีเรีย และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตในซีเรียและทูร์เคียหรือตุรกีจะสูงกว่าที่พบแล้ว 33,186 คนในขณะนี้ นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการยูเอ็นฝ่ายกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์เหตุฉุกเฉินทวีตผ่านทวิตเตอร์ในวันอาทิตย์ว่า ขบวนรถบรรเทาทุกข์ของยูเอ็นสำหรับผู้ประสบภัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียได้เดินทางเข้าไปแล้วโดยผ่านทางตุรกี แต่ยังไปไม่ถึงผู้ประสบภัย ทำให้พวกเขารู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง การลำเลียงความช่วยเหลือไปให้ซีเรียล่าช้าเนื่องจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2554 ทำให้ระบบสาธารณสุขเสียหายหนัก และหลายพื้นที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถบรรทุก 10 คันของยูเอ็นบรรทุกที่พักชั่วคราว แผ่นพลาสติก เชือก ผ้าห่ม เสื่อ และที่นอน ข้ามเข้าไปในซีเรียผ่านด่านบับ อัล-ฮาวาที่เป็นด่านระหว่างประเทศบริเวณพรมแดนตุรกี-ซีเรีย เป็นด่านเดียวที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนี้ ด้าน ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยหลังจากพบกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียที่กรุงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ว่า ผู้นำซีเรียพร้อมพิจารณาเรื่องเปิดด่านเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการจัดส่งความช่วยเหลือไปให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้าน ผู้อำนวยการ WHO เผยว่า กำลังรอให้ฝ่ายต่อต้านอนุญาตให้เดินทางเข้าไปในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียตามที่ได้รับรายงานว่า สถานการณ์เลวร้ายมาก แผ่นดินไหวได้ซ้ำเติมวิกฤตในพื้นที่นี้ที่เผชิญทั้งสงคราม โรคโควิด-19 โรคอหิวาตกโรค และเศรษฐกิจย่ำแย่.-สำนักข่าวไทย

ทหารเมียนมาแปรพักตร์เปิดใจ รัฐบาลทหารถูกฝ่ายต่อต้านโจมตีหนัก

ทหารของกองทัพเมียนมาที่แปรพักตร์ หนีทัพและหลบหนีไปยังอินเดีย ได้ให้ข้อมูลสำคัญถึงสถานการณ์การสู้รบกับฝ่ายต่อต้านที่กำลังแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ระบุรัฐบาลทหารเมียนมากำลังเพลี่ยงพล้ำในการสู้รบ

1 2
...