“ปกรณ์วุฒิ” หวังสภารับทุกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

รัฐสภา 8 ก.ค.-“ปกรณ์วุฒิ” หวังสภารับทุกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เปิดช่องคุย ม.112 ในชั้นกรรมาธิการ ขออย่ามองตัวบุคคล ต้องมองถึงภาพรวมผลของสังคม เพราะทุกคดีเป็นคดีอาญาเหมือนกัน บอกมติวิปรัฐบาลไม่มีคว่ำร่างของพรรคประชาชน ซัดวิป รทสช. ให้ข่าวสร้างความสับสน-สร้างอำนาจต่อรองพรรคใหญ่

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่จะเข้าสภาในวันที่ 9 ก.ค.นี้ แทนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ยังมีประเด็นถกเถียงในมาตรา 112 อยู่ ว่า จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมทั้งหมด 5 ฉบับ ซึ่งมีการเพิ่มของพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาอีก 1 ร่าง แต่ละร่างเนื้อหาค่อนข้างใกล้เคียงกันเพื่อต้องการคลี่คลายความขัดแย้งภายในประเทศ และไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆ และมีความแตกต่างกันในรายละเอียดของในเนื้อหา บางร่างยกเว้นมาตรา 112 ไว้เลย บางร่างอาจจะแค่เปิดไว้เฉยๆ ขณะที่ร่างของพรรคประชาชนระบุไว้เลยว่า ให้นิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย ซึ่งความเห็นของตนสามารถรับไปทุกร่างและไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการได้ สภาไม่ควรที่จะปิดกั้นว่าคดีแบบไหนควรจะได้รับการนิรโทษ คดีมาตราไหนไม่ควรที่จะได้รับการ นิรโทษเพราะคำว่าคดีที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง สามารถเกิดได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการชุมนุม การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.อื่นๆ แม้กระทั่งมาตรา 112 ทุกคดีที่ต้องการนิรโทษกรรมก็คือคดีอาญาเหมือนกัน ดังนั้นจึงอยากให้เข้าไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการ เพื่อให้เกิดการตกผลึก ว่าหน้าตาของร่างควรจะออกมาเป็นอย่างไร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด


“ทุกพรรคพูดเหมือนกันว่าต้องการคลี่คลายความขัดแย้งและอยากให้เกิดความปรองดอง ถ้าอย่างนั้นถ้ามีความเปิดกว้าง ความปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าบางพรรคการเมืองขอตัดประเด็น 112 เลย ต้องทำความเข้าใจอย่างไรบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าเรื่องทำความเข้าใจ พรรคประชาชนทำมาโดยตลอด แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคว่าฟัง หรือไม่ ทางไอลอว์ก็ทำอินโฟกราฟฟิกออกมาอย่างชัดเจน ถึความแตกต่างของแต่ละร่างว่าเป็นอย่างไร และผลของแต่ละร่างจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าไม่ได้มีธงมาตั้งแต่ที่บ้าน ทุกเรื่องทุกร่างสามารถพูดคุยกันได้หมด


เมื่อถามว่า วิปรัฐบาลมีมติไม่รับร่างพรรคประชาชนและภาคประชาชน นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า ตนได้อ่านมติของวิปรัฐบาลแล้ว ไม่มีมติคว่ำร่าง ของพรรคประชาชน แต่ไม่แน่ใจว่าตัวแทนของวิปที่ออกมาให้ข่าว คือรวมไทยสร้างชาติ ตนไม่ทราบเจตนาว่าเป็นอย่างไร และได้รับคำยืนยันจากพรรคอื่นๆว่า ยังไม่มีมติในเรื่องนี้ เพียงแต่มีมติรับหลักการของพรรครวมไทยสร้างชาติ และร่าง พ.ร.บ. สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายปรีดา บุญเพลิง ส่วนร่างอื่นๆ ไม่มีมติอะไร ดังนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องไปคุยกันว่าการที่วิปรัฐบาลของบางพรรคออกมาพูดเกินสิ่งที่รัฐบาลคุยกัน น่าจะต้องให้เกียรติกันมากกว่านี้ เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิด ว่าผลที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เป็นการสร้างอำนาจต่อรองและกดดันทางพรรคใหญ่หรือไม่ ตนคิดว่าเมื่อยังไม่มีมติอาจจะต้องรอดูบ่ายนี้ในการประชุมพรรคเพื่อไทย นี่อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หน้าตาของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าจะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่ ตนไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับใครแต่ทางฝั่งนั้นไม่แน่ใจ แต่คิดว่าแต่ละพรรคมีเอกสิทธิ์ของตัวเอง เพราะคงจะไม่ใช่ครั้งแรก บางร่าง พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมอื่นๆ ก็เคยมีมติไม่เหมือนกัน ก็ร่วมงานกันต่อได้ไม่เป็นไร ด้านฝ่ายค้านไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ลงมติเหมือนหรือแตกต่างกัน เราก็ทำงานตรวจสอบ ทำหน้าที่ตามจุดยืนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยไม่ชัดเจนเพราะมีกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนคดี 112 ด้วยนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่อยากให้ตัดสินใจโดยที่ไม่ได้คิดว่าเกิดกับใคร แต่ต้องคิดว่าผลทางสังคมที่จะเกิดขึ้นเวลากฎหมายบังคับใช้ต้องใช้กับทุกคน ดังนั้นไม่ว่าพรรคการเมืองเองหรือสังคม ต้องมองในภาพรวมว่าผลของกฎหมายจะส่งผลทางสังคมอย่างไร ไม่ใช่ส่งผลต่อตัวบุคคลอย่างไร เข้าใจว่ายากและอาจจะถูกข้อครหาได้ ซึ่งเราพยายามจะปลดล็อคให้ทุกคนที่แสดงออกทางการเมืองตามสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญได้รับโอกาสที่จะได้รับนิรโทษกรรม เนื่องจากการกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองทั้งหมด


เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านในขณะนี้ ยืนยันมาโดยตลอด ว่าจะไม่นิรโทษกรรมมาตรา 112 นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่ก็มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ร่างของพรรคประชาชน ไม่มีคำว่า 112 เราไม่ได้ระบุอะไรเอาไว้เลย เพียงแต่ว่าเปิดทางไว้ให้พูดคุยกันเท่านั้น ซึ่งตนคิดว่าการเปิดทางไว้ก่อน ให้พูดคุยได้ในทุกเรื่อง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า ที่อยากให้ไปตกผลึกในชั้นกรรมาธิการในประเด็น 112 นั้นจะทำได้จริงใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สุดท้ายก็ต้องมีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ได้บอกว่าต้องนิรโทษคดี 112 ให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม แต่เมื่อมีการเปิดโอกาสและทำความเข้าใจในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งเป็นวงเล็กและเป็นคนที่แต่ละพรรคเลือกมาแล้ว ตนก็คิดว่ามีโอกาส และทำให้ การทำความเข้าใจและเวลาที่ใช้สั้นลง สุดท้ายก็อยู่ที่มติของกรรมาธิการ.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]