ฝ่ายค้านยื่นซักฟอก 10 รมต. 3 ป.มาครบ

รัฐสภา 25 ม.ค. – รัฐสภา 25 ม.ค. – ฝ่ายค้านยื่น 208 ชื่อ ส.ส.เสนอญัตติซักฟอก 10 รัฐมนตรี 3 ป. มาครบ “ร.อ.ธรรมนัส” ไม่หลุดโผ แต่ตัดชื่อ “จุติ” ออกนาทีสุดท้าย หวั่นเวลาไม่พอ ด้านเศรษฐกิจใหม่-ไทยศรีวิไลย์ โผล่ร่วมแจมด้วย มั่นใจไม่มี “มวยล้มต้มคนดู” น็อกรัฐบาลได้แน่


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยหัวหน้าพรรค และ ส.ส. 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน และยังมี ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นรายชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้าน 208 คน เพื่อญัตติด่วนถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล

สำหรับรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้มีทั้งสิ้น 10 คน ประกอบด้วย 1.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ปัญญา มีพฤติกรรมฉ้อฉล ทุจริต ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต เพื่อสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับตนเองและพวกพ้อง ท่ามกลางภาวะที่ประชาชนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และยังเกิดโรคระบาดโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจดิ่งเหว ปล่อยปละละเลยให้มีการกระจายตัวของบ่อนการพนันโดยทั่วไป ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน และยังใช้สถาบันเป็นข้ออ้างในการแบ่งแยกประชาชนใช้งบประมาณแผ่นดินในการสร้างความนิยมให้ตนเอง


2. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสร้างความร่ำรวยมั่นคงให้กับตัวเอง มีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

3.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้การระบาดรอบ 2 อย่างรวดเร็วและวงกว้าง ปกปิดอำพรางการจัดซื้อวัคซีน

4.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าไร้ความสามารถ ลอยตัวเหนือปัญหา เลือกปฏิบัติ แต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติเข้ามาทำงานโดยเห็นแก่พวกพ้อง และยังปกปิดข้อมูลการทุจริตทำให้หน่วยงานของรัฐในกำกับเกิดความเสียหาย


5. พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ และใช้กลไกทางกฎหมายวางแผนทุจริตอย่างเป็นระบบและแยบยล ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ

6.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าใช้อำนาจแทรกแซงการทำหน้าที่ของข้าราชการประจำ ในลักษณะกดขี่ข่มเหง เพื่อให้คนของตนเองเข้าสู่ตำแหน่ง ขาดวุฒิภาวการณ์เป็นผู้นำที่ดี ปิดบังการทุจริต ผิดรัฐธรรมนูญ

7.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า ปล่อยปละให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ของผู้ใช้แรงงาน ไม่กำชับควบคุมผู้ใช้แรงงานต่างด้าวให้เป็นระบบ จนเป็นผลกระทบทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีพฤติกรรมสร้างความแตกแยกในสังคม

8. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนผูกขาด เพื่อให้มีสิทธิดำเนินในกิจการของรัฐ โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ สมคบกันนเพื่อปิดบังการทุจริต

9. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า ไม่ซื่อสัตย์สุจริตไม่คำนึงถึงประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน

10. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ฝ่ายค้านกล่าวว่า ใช้งบประมาณของรัฐเอื้อประโยชน์ตัวเองปละพวกพ้อง ปกปิดข้อมูลความจริงในการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่ง ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล กร่างเถื่อน เสนอให้มีการแต่งตั้งคู่สมรสเป็นข้าราชการการเมือง โดยไม่คำนึงถึงวุฒิภาวะและความเหมาะสม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ว่า มีหลายประเด็นในการอภิปรายตรวจสอบรัฐบาล ทั้งการทุจริต การปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการล้มเหลว ขาดนิติรัฐนิติธรรม พร้อมยืนยันว่ามีหมัดเด็ดน็อกรัฐบาลได้แน่นอน เพราะหลักฐานค่อนข้างชัดเจน มีรายการเด็ดทุกวันของการอภิปราย และยืนยันว่าข้อมูลจะไม่ซ้ำซ้อนกัน เพราะมีการตั้งวอร์รูมหารือเตรียมความพร้อมโดยมีไม่น้อยกว่า 2 เรื่องที่จะยื่นฟ้องร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งมีหลายเรื่องที่สามารถยื่นเอาผิดทางอาญาได้ด้วย แม้เสียงในสภาจะไม่ถึงขั้นถอนถอนรัฐมนตรีได้ แต่หากประชาชนได้ฟังจะสามารถเรียกศรัทธาจากประชาชนกลับมาได้ ส่วนจะลบข้อครหาที่ฝ่ายค้านไม่สามารถทำให้รัฐบาลสั่นคลอนได้หรือไม่นั้น อยากให้ติดตามการอภิปราย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่าการอภิปรายรอบนี้ต่างจากครั้งที่แล้ว ที่ถูกบีบคั้นด้วยเวลา แต่ครั้งนี้ฝ่ายค้านมีเอกภาพ ทำงานร่วมกันอย่างรอบคอบมีเวลาเหลือเฟือก่อนปิดสมัยประชุม และยืนยันว่าการอภิปรายจะเข้มข้น ชัดเจน และไปในทิศทางเดียวกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดมวยล้มต้มคนดูตามคำครหา ที่ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นปฏิบัติการไอโอ ที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลควรเอาเวลาเตรียมข้อมูลมาชี้แจงดีกว่า พร้อมขอให้ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาที่ประเทศอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พร้อมประกาศว่าตราบใดที่ตนยังเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะไม่มีทางถูกเบียดบังเวลาจนต้องมาอภิปรายนอกสภาเหมือนรอบก่อน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันอีกเสียงว่าจะไม่มีมวยล้มต้มคนดู แต่ขอให้สภาฯ ทำตัวเป็นกลาง อย่าปิดปากคนอภิปรายเหมือนครั้งที่ผ่านมา

ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศร่วมเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ โดยให้เหตุผลว่าด้วยสถานการณ์เช่นนี้การเป็นฝ่ายค้านน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า ยืนยันว่าหากฝ่ายค้านมีมติอย่างใดออกมาพร้อมปฏิบัติตาม ไม่กลับไปกลับมาอีกแล้ว ซึ่งในครั้งนี้นายมงคลกิตติ์ได้รับการจัดสรรเวลาอภิปรายด้วย

ขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้อง และจะดำเนินการเข้าสู้ระเบียบวาระการประชุม โดยคาดว่าจะสามารถเปิดอภิปรายได้ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ แต่หลังจากนี้จะมีการการหารือถึงระยะเวลาการอภิปรายที่แน่ชัดอีกครั้ง ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนการยื่นญัตติหัวหน้า และ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้หารือร่วมกันก่อนยื่นญัตติถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีมติให้ตัดชื่อนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ออก เนื่องจากเกรงว่า เวลาการอภิปรายจะไม่เพียงพอ และข้อมูลยังไม่ครบถ้วน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]