กรุงเทพฯ 19 ม.ค. – โฆษก ศบค. รับห่วงสมุทรสาคร-กทม. และชายแดนใต้ ขอความร่วมมือภาคเอกชนและภาคประชาชนร่วมดำเนินมาตรการป้องกันโควิด -19 เข้มข้น ย้ำวัคซีนต้องมีความปลอดภัย จึงจะฉีดให้ประชาชน ขณะที่ป่วยเพิ่ม 171 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด -19 วันนี้(19 ม.ค.64) เพิ่มขึ้น 171 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 12,594 ราย หายป่วยแล้ว 9,356 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 3,168 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 70 คน
ตัวเลขติดเชื้อที่ เพิ่มขึ้น 171 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 158 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 33 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 125 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศและเข้า state quarantine 13 ราย เดินทางมาจาก ไตหวัน 1 ราย , ตุรกี 1 ราย , เบลเยียม 1 ราย , สหราชอาณาจักร 1 ราย , ฝรั่งเศส 2 ราย , สาธารณรัฐเช็ก 1 ราย ,สหรัฐอเมริกา 1 ราย , ญี่ปุ่น 2 ราย , มาเลเซีย 2 ราย และเอมิเรตส์ 1 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีผู้ป่วยยืนยันสะสมรอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ถึง 19 มกราคม 2564จำนวน 8,357 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดกว่า 96 ล้านราย เสียชีวิตสะสมทั่วโลก 2 ล้านคน สหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดกว่า 24 ล้านราย โดยประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 128 ส่วนประเทศ มาเลเซีย พบติดเชื้อเพิ่ม 3,306 คน เสียชีวิต 605 คน
โฆษก ศบค. ยังกล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ว่า ขณะนี้ ยอมรับห่วงใน 3 จุด คือ จ.สมุทรสาคร ที่จะต้องตรวจคัดกรองเชิกรุกในโรงงานอุตสาหกรรมให้ได้มากที่สุด ซึ่งแม้ขณะนี้ใน จ.สมุทรสาคร พบตัวเลขผู้ป่วยทรงตัว แต่ยังไม่เบาใจ เนื่องการตรวจเชิงรุกในโรงงานอุตสาหกรรมยังพบผู้ป่วยโควิดจำนวนเพิ่มขึ้น โดยต้องตรวจเชิงรุกในโรงงานอุตสาหกรรมให้ได้มากที่สุด เบื้องต้นกำหนดตรวจ 600 โรงงานต่อวัน ต้องมีการระดมทีมแพทย์เข้าช่วยตรวจเชิงรุก ซึ่งโรงงานอุตสหากรรมมีกว่า 12,000 โรงงาน ยอมรับว่าการตรวจเชิงรุกภายในเดือนมกราคมนี้อาจยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นภาคเอกชน โดยโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องช่วยในการตรวจเชิงรุกด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงมหาดไทย พร้อมเข้าให้การสอบสวนโรคและตรวจเชิงรุกให้ได้โดยเร็ว
จุดที่ 2 คือ กรุงเทพมหานคร ยอมรับว่าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง มีพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดกับสมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากและได้กระจายไปสู่ครอบครัวแล้ว
ส่วนจุดสุดท้าย คือ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ขณะนี้พบประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซียมีการติดเชื้อโควิด -19 เพิ่มจำนวนมากขึ้น ดังนั้นการร่วมมือกันของภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องร่วมมือกันดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้นเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการจัดหาวัคซีนโควิด -19 ว่า ไม่มีการปกปิดข้อมูลวัคซีน โดยการพิจารณาจัดหาวัคซีนได้มีการคณะกรรมการโรคติด คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ทีมแพทย์ และคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ได้ให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน ยืนยันว่าวัคซีนที่จัดซื้อพิจารณาอย่างรอบด้านบนพื้นฐานของความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย ซึ่งต้องมีความมั่นใจจึงจะมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยย้ำด้วยว่า กลุ่มแรกๆ ที่จะต้องฉีด คือบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งต้องใช้เวลา ในการสร้างบุคลากรกลุ่มนี้ ดังนั้นจะต้องมีความปลอดภัย และความเสี่ยงน้อยที่สุด จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า วัคซีนจะตัองมีความปลอดภัย และล่าสุดนายกรัฐมนตรี ก็ย้ำในเรื่องความปลอดภัยเช่นกัน
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” พบมีประชาชนดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น โดยมีกิจกรรมลงทะเบียนจำนวนมาก 5 อันดับกิจกรรมที่มาตรการในระดับที่สุด ได้แก่ จ.นครปฐม ระยอง ชลบุรี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ขณะที่แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ณ วันที่ 19 มกราคม มีจำนวนผู้ดาวน์โหลดเพิ่มมากขึ้น.- สำนักข่าวไทย