นายกฯ ตำหนิคนกล่าวหารัฐบาลปล่อยเชื้อโควิด-19

ทำเนียบฯ  28 ธ.ค.-  นายกฯ  ตำหนิคนกล่าวหารัฐบาลปล่อยเชื้อโควิด-19 เพื่อหวังผล ย้ำ วัคซีนต้านโควิด-19 ต้องผ่าน อย. ยัน มีงบฯ หนุนวิจัยพัฒนาวัคซีน ไม่เห็นด้วยเปิดรับบริจาคเงิน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ ว่า มีการแถลงชี้แจงเป็นรายวัน  สถิติการติดเชื้อมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง  ขึ้นอยู่กับการติดตามผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่ระบบได้ แม้สถานการณ์ช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาด แต่ก็รู้ถึงที่มา และว่า สิ่งที่ต้องย้ำเตือนอยู่เสมอ คือการใส่หน้ากาอนามัย เว้นระยะห่าง หลีกเหลี่ยงสถานที่แออัด ระมัดระวังตัวเองและดูแลครอบครัวด้วย

“ช่วงนี้อาจจะมีความลำบากในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่  สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เวลาที่จะมากล่าวโทษกัน แต่ต้องร่วมมือกันและให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน  การที่มีคนออกมาพูดว่า รัฐบาลปล่อยเชื้อโควิด-19 ออกมา เพื่อหวังผลประโยชน์อย่างอื่น  ผมเห็นว่า คนที่คิดแบบนี้ใช้ไม่ได้ และไม่ควรไปให้ค่า รัฐบาลมีแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนกรณีที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  เนื่องจากผู้ว่าฯ ทำงานในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ทั้งดูแลประชาชน และโรงพยาบาลสนาม จึงมีโอกาสติดเชื้อ   เมื่อติดเชื้อก็ต้องรักษาต่อไป และยามีเพียงพอ  และว่า “ผมก็มีโอกาสติดเช่นเดียวกัน   เมื่อช่วงเช้าได้ทำการตรวจเลือดแล้ว และการตรวจเลือดให้กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ก็เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทำเนียบฯ”

ส่วนหลังจากนี้การประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นรูปแบบการประชุมผ่านวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอประเมินตามสถานการณ์   ที่ผ่านมาเคยดำเนินการแล้ว ก็สามารถทำได้ทันที  หากมีความจำเป็น แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังสามารถควบคุมและติดตามได้  ต้องรอฟังคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง และได้ให้นโยบายการทำงานที่บ้าน และการเรียนออนไลน์ไปแล้ว  ทุกอย่างมีบทเรียนก็สามารถนำมาปรับใช้ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สอบสวนคดีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย  ยืนยันไม่เคยเอื้อประโยชน์  วันนี้มีการลงโทษในชั้นต้น ที่มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการแพร่ระบาด และจากนี้จะสอบสวนโรคจากผู้ที่ติดเชื้อ ว่าไปเล่นการพนันที่บ่อนไหน และมีใครเป็นเจ้าของ เช่นเดียวกับกรณีที่แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ


“หากประชาชนทราบเบาะแสเรื่องที่ไม่ดีต่างๆ ให้แจ้งมาที่ผมโดยตรง ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม  เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ดีกว่าไปพูดในสื่อฯ โดยที่ไม่มีข้อมูล จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าวัคซีนต้านโควิด-19  ที่มีบางโรงพยาบาลเปิดให้ประชาชนจองวัคซีนล่วงหน้า  ว่า วัคซีนทุกชนิด ไม่ว่าจะนำเข้าจากที่ใด ต้องผ่านการตรวจสอบรับรองจาก อย. ก่อน มิเช่นนั้นจะนำเข้าประเทศไม่ได้  เป็นความห่วงใยที่จะต้องคัดกรอง ตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน เพราะบางกลุ่มมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งคนชราและเด็ก ดังนั้น ต้องฟังคำแนะนำของหมอและสาธารณสุขก่อน

“ขอเตือนว่า วันนี้อย่าเพิ่งไปฉีดวัคซีน เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ และเมื่อเกิดปัญหาขึ้น รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ มิเช่นนั้นจะถูกกล่าวหา ว่ารัฐบาลไม่ควบคุม ส่วนวัคซีนที่รัฐบาลสั่งจองไป 20 ล้านโดส  เป็นการสั่งจองขั้นต้น ซึ่งมีข้อสัญาว่า ไทยสามารถนำมาวิจัย พัฒนาและผลิตเองได้ ซึ่งก็จะทำให้ฉีดได้ครบทั้งประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ต่อกรณีที่มีแพทย์บางกลุ่มออกมาขอรับบริจาคเงินสำหรับการวิจัยและผลิตวัคซีนในประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ทำเช่นนั้น เพราะมีงบฯ สนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งได้ให้กับสถาบันวัคซีนไปในก้อนแรก 400 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีคณะทำงาน และรัฐบาลได้สั่งการให้เพิ่มวงเงินงบฯตรงนี้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาในประเทศไม่ได้มีเพียงเรื่องโควิด-19 เท่านั้น ดังนั้น ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน ให้เวลาในการดำเนินการ ไม่อยากให้เกิดความแตกแยก ไม่ว่าจะในเวทีใดก็ตาม และไม่อยากให้นำรัฐบาลไปเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เตรียมยุติบทบาท นปช. ว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะไม่เกี่ยวข้อ แต่หากเป็นการทำสิ่งที่ดี หรือเพื่อสร้างความปรองดอง ก็เป็นเรื่องที่ดี และการทำความดีก็ทำไป เพราะสุดท้ายประเทศจะได้ประโยชน์และความสงบสุข

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การตั้งฉายารัฐบาลจากสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล  ว่า ขอขอบคุณ และต่อไปประชาชนก็จะตั้งฉายาสื่อฯ ให้กับสื่อฯ ด้วย ขอให้รอฟังว่าจะเป็นอย่างไร  ต้องพร้อมรับฟังทั้ง 2 ทาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ขอบคุณนะจ๊ะ พูดนะจ๊ะก็มีปัญหา”   .- สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี