นายกฯ ตำหนิคนกล่าวหารัฐบาลปล่อยเชื้อโควิด-19

ทำเนียบฯ  28 ธ.ค.-  นายกฯ  ตำหนิคนกล่าวหารัฐบาลปล่อยเชื้อโควิด-19 เพื่อหวังผล ย้ำ วัคซีนต้านโควิด-19 ต้องผ่าน อย. ยัน มีงบฯ หนุนวิจัยพัฒนาวัคซีน ไม่เห็นด้วยเปิดรับบริจาคเงิน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ ว่า มีการแถลงชี้แจงเป็นรายวัน  สถิติการติดเชื้อมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง  ขึ้นอยู่กับการติดตามผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่ระบบได้ แม้สถานการณ์ช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาด แต่ก็รู้ถึงที่มา และว่า สิ่งที่ต้องย้ำเตือนอยู่เสมอ คือการใส่หน้ากาอนามัย เว้นระยะห่าง หลีกเหลี่ยงสถานที่แออัด ระมัดระวังตัวเองและดูแลครอบครัวด้วย

“ช่วงนี้อาจจะมีความลำบากในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่  สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เวลาที่จะมากล่าวโทษกัน แต่ต้องร่วมมือกันและให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน  การที่มีคนออกมาพูดว่า รัฐบาลปล่อยเชื้อโควิด-19 ออกมา เพื่อหวังผลประโยชน์อย่างอื่น  ผมเห็นว่า คนที่คิดแบบนี้ใช้ไม่ได้ และไม่ควรไปให้ค่า รัฐบาลมีแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนกรณีที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  เนื่องจากผู้ว่าฯ ทำงานในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ทั้งดูแลประชาชน และโรงพยาบาลสนาม จึงมีโอกาสติดเชื้อ   เมื่อติดเชื้อก็ต้องรักษาต่อไป และยามีเพียงพอ  และว่า “ผมก็มีโอกาสติดเช่นเดียวกัน   เมื่อช่วงเช้าได้ทำการตรวจเลือดแล้ว และการตรวจเลือดให้กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ก็เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทำเนียบฯ”

ส่วนหลังจากนี้การประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นรูปแบบการประชุมผ่านวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอประเมินตามสถานการณ์   ที่ผ่านมาเคยดำเนินการแล้ว ก็สามารถทำได้ทันที  หากมีความจำเป็น แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังสามารถควบคุมและติดตามได้  ต้องรอฟังคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง และได้ให้นโยบายการทำงานที่บ้าน และการเรียนออนไลน์ไปแล้ว  ทุกอย่างมีบทเรียนก็สามารถนำมาปรับใช้ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สอบสวนคดีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย  ยืนยันไม่เคยเอื้อประโยชน์  วันนี้มีการลงโทษในชั้นต้น ที่มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการแพร่ระบาด และจากนี้จะสอบสวนโรคจากผู้ที่ติดเชื้อ ว่าไปเล่นการพนันที่บ่อนไหน และมีใครเป็นเจ้าของ เช่นเดียวกับกรณีที่แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ


“หากประชาชนทราบเบาะแสเรื่องที่ไม่ดีต่างๆ ให้แจ้งมาที่ผมโดยตรง ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม  เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ดีกว่าไปพูดในสื่อฯ โดยที่ไม่มีข้อมูล จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าวัคซีนต้านโควิด-19  ที่มีบางโรงพยาบาลเปิดให้ประชาชนจองวัคซีนล่วงหน้า  ว่า วัคซีนทุกชนิด ไม่ว่าจะนำเข้าจากที่ใด ต้องผ่านการตรวจสอบรับรองจาก อย. ก่อน มิเช่นนั้นจะนำเข้าประเทศไม่ได้  เป็นความห่วงใยที่จะต้องคัดกรอง ตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน เพราะบางกลุ่มมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งคนชราและเด็ก ดังนั้น ต้องฟังคำแนะนำของหมอและสาธารณสุขก่อน

“ขอเตือนว่า วันนี้อย่าเพิ่งไปฉีดวัคซีน เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ และเมื่อเกิดปัญหาขึ้น รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ มิเช่นนั้นจะถูกกล่าวหา ว่ารัฐบาลไม่ควบคุม ส่วนวัคซีนที่รัฐบาลสั่งจองไป 20 ล้านโดส  เป็นการสั่งจองขั้นต้น ซึ่งมีข้อสัญาว่า ไทยสามารถนำมาวิจัย พัฒนาและผลิตเองได้ ซึ่งก็จะทำให้ฉีดได้ครบทั้งประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ต่อกรณีที่มีแพทย์บางกลุ่มออกมาขอรับบริจาคเงินสำหรับการวิจัยและผลิตวัคซีนในประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ทำเช่นนั้น เพราะมีงบฯ สนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งได้ให้กับสถาบันวัคซีนไปในก้อนแรก 400 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีคณะทำงาน และรัฐบาลได้สั่งการให้เพิ่มวงเงินงบฯตรงนี้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาในประเทศไม่ได้มีเพียงเรื่องโควิด-19 เท่านั้น ดังนั้น ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน ให้เวลาในการดำเนินการ ไม่อยากให้เกิดความแตกแยก ไม่ว่าจะในเวทีใดก็ตาม และไม่อยากให้นำรัฐบาลไปเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เตรียมยุติบทบาท นปช. ว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะไม่เกี่ยวข้อ แต่หากเป็นการทำสิ่งที่ดี หรือเพื่อสร้างความปรองดอง ก็เป็นเรื่องที่ดี และการทำความดีก็ทำไป เพราะสุดท้ายประเทศจะได้ประโยชน์และความสงบสุข

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การตั้งฉายารัฐบาลจากสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล  ว่า ขอขอบคุณ และต่อไปประชาชนก็จะตั้งฉายาสื่อฯ ให้กับสื่อฯ ด้วย ขอให้รอฟังว่าจะเป็นอย่างไร  ต้องพร้อมรับฟังทั้ง 2 ทาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ขอบคุณนะจ๊ะ พูดนะจ๊ะก็มีปัญหา”   .- สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย