เปิดตัวกลุ่ม Re-solution เดินหน้าสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่

กทม. 11 ต.ค.- พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า รวมตัวภาคประชาชน เปิดตัวกลุ่ม Re-solution เดินหน้าสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่ และมีสภาเดี่ยว พร้อมชงรื้อสัดส่วนศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ใช้เสียง 2 ใน 3 ถอดถอนได้ แต่ใช้เวลานานกว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะสำเร็จ เชื่อรัฐบาล “ประยุทธ์” อยู่เกินเทอม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 4 เครือข่ายต้านรัฐธรรมนูญ ได้แก่ คณะก้าวหน้า, กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า (Con Lab), พรรคก้าวไกล, และกลุ่มโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เปิดตัวกลุ่ม Re-solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อเดินหน้าแสวงหาฉันทามติใหม่ร่วมกัน โดยมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า (Con Lab) นายรังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล นายยิ่งชีพ อัชชานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า ถึงเวลาอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่ หมดเวลาของรัฐธรรมนูญที่สืบทอดมาจากฉันทามติที่รัฐบาลใช้อำนาจโดยมิชอบ แซกแทรงองค์กรอิสระ มี ส.ว. และเสียงข้างน้อยทำลายความน่าเชื่อถือ


“ปัจจุบันการแก้รัฐธรรมนูญอาจจะไม่สำเร็จ เพราะ ถูกออกแบบให้แก้ได้ยาก จนไม่มีทางแก้ได้  รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 จึงรอเวลาที่จะปะทุ เพราะสถาบันการเมืองไม่ฟังเสียงของประชาชน และขังสิทธิเสรีภาพประชาชน” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า ดังนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประชาชนต้องมีอำนาจเขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน ที่ทุกฝ่ายต้องหาข้อตกลงในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันร่วมกัน เพราะอำนาจสูงสุดของประเทศ คือ ประชาชนที่จะเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศเอง

ด้านนายพริษฐ์ กล่าวถึงการสนับสนุนให้การเมืองไทยมีเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือสภาเดี่ยว ว่ารัฐธรรมนูญ 60 ต้องแก้ในมาตรา หรือข้อที่สนับสนุนอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ให้น้อยลง หรือยกเลิก ส.ว. เพราะ ส.ว. เข้ามาควบคุมโครงสร้างของระบบการปฏิรูปการเมืองได้


“ความผิดปกติในปัจจุบัน 5 ประการ คือ ส.ว.มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้มีที่มาจากประชาชน, ขัดขวางทุกการปฎิรูปควบคุมได้ทุกโครงสร้าง, ที่มาด่างพร้อยและเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน, ขาดความหลากหลายทางวิชาชีพ และความเชี่ยวชาญ ไม่ได้มาแบบอาชีพที่หลากหลาย, รวมถึงยังบกพร่องในหน้าที่การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจตรวจสอบของสภาฯ การเมืองไทยสามารถยกเลิกสภา ส.ว. และใช้เพียงสภาเดี่ยว เพราะจะมีความรวดเร็วในการออกกฎหมาย ประหยัดงบประมาณในการดำเนินงานต่างๆ ของ ส.ว. การปรับเข้าสู่ระบบสภาเดี่ยวใช้เวลาสั้นในการออกแบบ และมีความเป็นประชาธิปไตย ระบบการเมืองในประเทศ และปัจจุบัน ระบบสภาเดี่ยวใช้ในหลายประเทศ หาก ส.ว. จะมารับตำแหน่ง ต้องลาออกจากอาชีพของตน และมีความรู้ด้านกฎหมาย รักษาผลประโยชน์ในแต่ละท้องถิ่น ให้สามารถบริหารการเมืองท้องถิ่นตนเองได้ และมีอำนาจในการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ไม่ให้พรรคการเมืองรวบอำนาจ แต่ทั้งนี้ ต้องให้อำนาจประชาชนในการตรวจสอบอำนาจบริหารได้”นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่าหน้าที่ของ ส.ว.นั้น คนอื่นก็ทำได้ หรืออาจจะดีกว่า ทั้งการอัดฉีดความรู้เฉพาะทางตอนกลั่นกรองกฎหมาย รักษาผลประโยชน์ของทุกจังหวัด แต่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระ ถอดถอนนักการเมืองที่ขาดคุณสมบัติ และตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร พร้อมทิ้งท้ายว่า สิ่งที่อันตรายกว่าการไม่มี ส.ว. มาตรวจสอบอำนาจรัฐคือ การ มี ส.ว.ที่คอยให้ท้ายรัฐบาลในทุกเรื่อง

ขณะที่นายรังสิมันต์ สนับสนุนให้รื้อศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เพราะศาลรัฐธรรมนูญและองค์การอิสระถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ซึ่งกระบวนการสรรหาและคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรไม่มีจุดยึดโยงกับประชาชน จึงเสนอศาลรัฐธรรมนูญให้มีองค์ประกอบ 9 คนเหมือนเดิม ซึ่ง 3 คนมาจากการเลือกจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อีก 3 คน มาจากการเลือกของ ส.ส.ฝ่ายค้าน และอีก 3 คน ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอชื่อมา และให้ศาลปกครองเสนอชื่อมาอีก 3 คน จากนั้นใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 จากสมาชิกสภผู้แทนราษฎรเป็นผู้เลือกให้เหลือ 3 คน ขณะที่เสนอให้องค์กรอิสระทุกองค์กร ประกอบไปด้วยผู้ดำรงตำแหน่ง 5 คน ซึ่ง 2 คนมาจากการเลือกของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 2 คนถัดมา มาจากการคัดเลือกของ ส.ส.ฝ่ายค้าน และ 1 คนให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอชื่อมา รวมถึงให้ที่ประขุมใหญ่ศาลปกครองเสนอชื่อมาอีก 1 คน และใช้เสียง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้เลือกให้เหลือ 1 คนเช่นกัน พร้อมยังมองว่าศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต้องมีกระบวนการถอดถอนได้ โดยใช้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ถอดถอน

“ผมเห็นว่าการมีศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระยังจำเป็น เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล แต่ถ้าปล่อยให้องค์กรเหล่านี้เลือกกันเองชงกันเอง บ้านเมืองเราในอนาคตก็จะไม่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา ดังนั้น เราจะปล่อยให้บ้านเมืองของเราเป็นแบบเดิมหรือไม่ วันนี้จึงเป็นเวลาและโอกาสในการเปลี่ยนแปลง” นายรังสิมันต์ กล่าว

ขณะที่นายยิ่งชีพ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญนั้น แม้ว่าใน พ.ย.นี้ สภาฯจะโหวตรับข้อเสนอการตั้ง ส.ส.ร. แต่จากนั้นยังต้องผ่านกระบวนการต่างๆ ใช้เวลาอีกนานกว่าจะผ่านวาระ 2 และวาระ 3 จากนั้นยังต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชน นอกจากนั้นการประกาศใช้อาจมีขั้นตอนศาลรัฐธรรมนูญอีกขั้น รวมทั้งกระบวนการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เมื่อส.ส.ร.ร่างเสร็จ ก็ยังต้องผ่านประชามติ ถือเป็นขั้นตอนอีกยาวนาน ซึ่งใน 3 ปีข้างหน้า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังอยู่ในสถานะต่อไปตามกลไกรัฐธรรมนูญปี 60 อาจครบเทอมหรือเลยเทอม พร้อมย้ำว่า ส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% ไม่มีโควตาพิเศษผู้ทรงคุณวุฒิใดๆ ทั้งสิ้น และหากมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ต้องไม่มีการแบ่งเขตจังหวัด เพราะอาจมีคนที่เป็นพื้นที่อิทธิพลของตัวเองอยู่ ดังนั้น ควรใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]