เปิดตัวกลุ่ม Re-solution เดินหน้าสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่

กทม. 11 ต.ค.- พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า รวมตัวภาคประชาชน เปิดตัวกลุ่ม Re-solution เดินหน้าสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่ และมีสภาเดี่ยว พร้อมชงรื้อสัดส่วนศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ใช้เสียง 2 ใน 3 ถอดถอนได้ แต่ใช้เวลานานกว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะสำเร็จ เชื่อรัฐบาล “ประยุทธ์” อยู่เกินเทอม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 4 เครือข่ายต้านรัฐธรรมนูญ ได้แก่ คณะก้าวหน้า, กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า (Con Lab), พรรคก้าวไกล, และกลุ่มโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เปิดตัวกลุ่ม Re-solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อเดินหน้าแสวงหาฉันทามติใหม่ร่วมกัน โดยมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า (Con Lab) นายรังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล นายยิ่งชีพ อัชชานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า ถึงเวลาอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่ หมดเวลาของรัฐธรรมนูญที่สืบทอดมาจากฉันทามติที่รัฐบาลใช้อำนาจโดยมิชอบ แซกแทรงองค์กรอิสระ มี ส.ว. และเสียงข้างน้อยทำลายความน่าเชื่อถือ


“ปัจจุบันการแก้รัฐธรรมนูญอาจจะไม่สำเร็จ เพราะ ถูกออกแบบให้แก้ได้ยาก จนไม่มีทางแก้ได้  รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 จึงรอเวลาที่จะปะทุ เพราะสถาบันการเมืองไม่ฟังเสียงของประชาชน และขังสิทธิเสรีภาพประชาชน” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า ดังนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประชาชนต้องมีอำนาจเขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน ที่ทุกฝ่ายต้องหาข้อตกลงในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันร่วมกัน เพราะอำนาจสูงสุดของประเทศ คือ ประชาชนที่จะเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศเอง

ด้านนายพริษฐ์ กล่าวถึงการสนับสนุนให้การเมืองไทยมีเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือสภาเดี่ยว ว่ารัฐธรรมนูญ 60 ต้องแก้ในมาตรา หรือข้อที่สนับสนุนอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ให้น้อยลง หรือยกเลิก ส.ว. เพราะ ส.ว. เข้ามาควบคุมโครงสร้างของระบบการปฏิรูปการเมืองได้


“ความผิดปกติในปัจจุบัน 5 ประการ คือ ส.ว.มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้มีที่มาจากประชาชน, ขัดขวางทุกการปฎิรูปควบคุมได้ทุกโครงสร้าง, ที่มาด่างพร้อยและเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน, ขาดความหลากหลายทางวิชาชีพ และความเชี่ยวชาญ ไม่ได้มาแบบอาชีพที่หลากหลาย, รวมถึงยังบกพร่องในหน้าที่การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจตรวจสอบของสภาฯ การเมืองไทยสามารถยกเลิกสภา ส.ว. และใช้เพียงสภาเดี่ยว เพราะจะมีความรวดเร็วในการออกกฎหมาย ประหยัดงบประมาณในการดำเนินงานต่างๆ ของ ส.ว. การปรับเข้าสู่ระบบสภาเดี่ยวใช้เวลาสั้นในการออกแบบ และมีความเป็นประชาธิปไตย ระบบการเมืองในประเทศ และปัจจุบัน ระบบสภาเดี่ยวใช้ในหลายประเทศ หาก ส.ว. จะมารับตำแหน่ง ต้องลาออกจากอาชีพของตน และมีความรู้ด้านกฎหมาย รักษาผลประโยชน์ในแต่ละท้องถิ่น ให้สามารถบริหารการเมืองท้องถิ่นตนเองได้ และมีอำนาจในการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ไม่ให้พรรคการเมืองรวบอำนาจ แต่ทั้งนี้ ต้องให้อำนาจประชาชนในการตรวจสอบอำนาจบริหารได้”นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่าหน้าที่ของ ส.ว.นั้น คนอื่นก็ทำได้ หรืออาจจะดีกว่า ทั้งการอัดฉีดความรู้เฉพาะทางตอนกลั่นกรองกฎหมาย รักษาผลประโยชน์ของทุกจังหวัด แต่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระ ถอดถอนนักการเมืองที่ขาดคุณสมบัติ และตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร พร้อมทิ้งท้ายว่า สิ่งที่อันตรายกว่าการไม่มี ส.ว. มาตรวจสอบอำนาจรัฐคือ การ มี ส.ว.ที่คอยให้ท้ายรัฐบาลในทุกเรื่อง

ขณะที่นายรังสิมันต์ สนับสนุนให้รื้อศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เพราะศาลรัฐธรรมนูญและองค์การอิสระถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ซึ่งกระบวนการสรรหาและคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรไม่มีจุดยึดโยงกับประชาชน จึงเสนอศาลรัฐธรรมนูญให้มีองค์ประกอบ 9 คนเหมือนเดิม ซึ่ง 3 คนมาจากการเลือกจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อีก 3 คน มาจากการเลือกของ ส.ส.ฝ่ายค้าน และอีก 3 คน ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอชื่อมา และให้ศาลปกครองเสนอชื่อมาอีก 3 คน จากนั้นใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 จากสมาชิกสภผู้แทนราษฎรเป็นผู้เลือกให้เหลือ 3 คน ขณะที่เสนอให้องค์กรอิสระทุกองค์กร ประกอบไปด้วยผู้ดำรงตำแหน่ง 5 คน ซึ่ง 2 คนมาจากการเลือกของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 2 คนถัดมา มาจากการคัดเลือกของ ส.ส.ฝ่ายค้าน และ 1 คนให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอชื่อมา รวมถึงให้ที่ประขุมใหญ่ศาลปกครองเสนอชื่อมาอีก 1 คน และใช้เสียง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้เลือกให้เหลือ 1 คนเช่นกัน พร้อมยังมองว่าศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต้องมีกระบวนการถอดถอนได้ โดยใช้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ถอดถอน

“ผมเห็นว่าการมีศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระยังจำเป็น เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล แต่ถ้าปล่อยให้องค์กรเหล่านี้เลือกกันเองชงกันเอง บ้านเมืองเราในอนาคตก็จะไม่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา ดังนั้น เราจะปล่อยให้บ้านเมืองของเราเป็นแบบเดิมหรือไม่ วันนี้จึงเป็นเวลาและโอกาสในการเปลี่ยนแปลง” นายรังสิมันต์ กล่าว

ขณะที่นายยิ่งชีพ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญนั้น แม้ว่าใน พ.ย.นี้ สภาฯจะโหวตรับข้อเสนอการตั้ง ส.ส.ร. แต่จากนั้นยังต้องผ่านกระบวนการต่างๆ ใช้เวลาอีกนานกว่าจะผ่านวาระ 2 และวาระ 3 จากนั้นยังต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชน นอกจากนั้นการประกาศใช้อาจมีขั้นตอนศาลรัฐธรรมนูญอีกขั้น รวมทั้งกระบวนการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เมื่อส.ส.ร.ร่างเสร็จ ก็ยังต้องผ่านประชามติ ถือเป็นขั้นตอนอีกยาวนาน ซึ่งใน 3 ปีข้างหน้า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังอยู่ในสถานะต่อไปตามกลไกรัฐธรรมนูญปี 60 อาจครบเทอมหรือเลยเทอม พร้อมย้ำว่า ส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% ไม่มีโควตาพิเศษผู้ทรงคุณวุฒิใดๆ ทั้งสิ้น และหากมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ต้องไม่มีการแบ่งเขตจังหวัด เพราะอาจมีคนที่เป็นพื้นที่อิทธิพลของตัวเองอยู่ ดังนั้น ควรใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]