นายกฯ ชี้ความขัดแย้งทำลายศักยภาพไทย

วปอ. 10 ก.ย.- นายกฯ รับข้อเสนอนักศึกษา วปอ. เดินหน้า 3 ร. รูปธรรม รวดเร็ว ร่วมมือ ชี้ความขัดแย้งทำลายศักยภาพประเทศ โลกเปลี่ยน คนทุกรุ่นต้องเปลี่ยน ต้องอยู่ร่วมกันได้ ยอมรับวิกฤติโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจ เร่งฟื้นฟูภาคธุรกิจ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานแถลงแนวทางการพัฒนาประเทศเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 62 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพของทั้ง 3 เหล่าทัพ ประจำปีการศึกษา 2563

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมรับข้อเสนอของนักศึกษา โลกปัจจุบันต้องเผชิญภาวะการแข่งขันทางการค้า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งคือสิ่งที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความแตกแยกและแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ดังนั้นความมั่นคงแห่งชาติที่จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงทุก ๆ ด้าน ไม่ใช่ด้านทหารหรือตำรวจเท่านั้น แต่ทั้งหมดต้องรวมเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งแนวทางของนักศึกษา 3 ร. คือ รูปธรรม รวดเร็ว ร่วมมือ ถือเป็นสิ่งที่สังคมต้องการมากที่สุด


“ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน จะทำอย่างไรให้สามารถดึงศักยภาพของไทยออกมาให้มากที่สุด โดยไทยเป็นสังคมที่มีรอยยิ้ม ประนีประนอม มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ แต่ปัญหาในปัจจุบัน ทั้งปัญหาสังคม ปัญหาความขัดแย้งในประเทศ จะเป็นอุปสรรค ลดคุณค่าและศักยภาพของไทยลง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยังถูกนำไปเสนอต่างประเทศ และถูกจับจ้องเข้ามา ซึ่งสิ่งนี้เป็นอันตรายที่สุดในขณะนี้ ทั้งนี้ เมื่อโลกปรับเปลี่ยน คนทุกรุ่นก็ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนตัวเองให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ เช่น คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ต้องรู้จักเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ เพื่อสร้างรายได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งไทยจะต้องสร้างความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข ยืนยันว่าการใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อบูรณาการกฏหมายให้สามารถดูแลป้องกันการแพร่ระบาดได้ เมื่อดูแลด้านสุขภาพแล้ว ต้องมาดูแลเรื่องเศรษฐกิจต่อ เพื่อให้ภาคธุรกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ ไม่ยกเลิกการจ้างงาน และในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา จึงต้องมีมาตรการรองรับ ซึ่งสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ไทยอยู่ลำดับที่ 122 ของโลก ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น

“อยากให้ทุกคนย้อนดูว่ารัฐบาลได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง เพราะยังมีบางคนวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งไม่สามารถทำให้ใครพอใจได้ทั้งหมด แต่ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจในครอบครัวและบุตรหลาน เพราะการสร้างความขัดแย้ง จะเป็นสิ่งทำลายศักยภาพของไทยโดยไม่รู้ตัว จะเอาชนะกันไปเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ใช่หรือไม่ จึงอยากให้ทบทวนว่าการที่ผมมาทำหน้าที่ตรงนี้เพื่อ 2 สิ่งนี้หรือไม่ ยืนยันว่าผมมีจุดประสงค์ทำให้ประเทศมีความสงบสุข มั่นคงและยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากไม่เจอสถานการณ์โควิด-19 เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเดินไปได้ด้วยดี แต่ไทยสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อเริ่มเดินหน้าเศรษฐกิจ ก็มีการคัดค้าน เช่น ภูเก็ตโมเดล ที่คนในพื้นที่ส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย ขณะที่อีกส่วนหนึ่งอยากให้เดินหน้าเศรษฐกิจ ซึ่งคือนิสัยคนไทย อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถต่อว่าคนไทยได้ เพราะรัฐบาลมีเป้าหมายหลักเพื่อประเทศและประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโรงพยาบาลสระบุรีถูกแฮ็กข้อมูลว่า ต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการแบ็คอัพและจัดเก็บข้อมูลสำรองไว้ ส่วนค่าเสียหายที่เรียกค่าไถ่มา คงไม่มีใครจ่ายได้ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรับเรื่องไว้แก้ปัญหาแล้ว และว่า “ขณะนี้คนเลวมีมากขึ้น เตือนผู้บริโภคที่ไปท่องเที่ยว อย่าหลงเชื่อภาพประกอบโฆษณาทางสื่อโซเชียล และต้องตรวจสอบ เพราะบางครั้งภาพอาจไม่ตรงกับความจริง” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย ก่อเหตุ จยย.บอมบ์

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย คาดเป็นคนร้ายก่อเหตุ จยย.บอมบ์ ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ และชาวมาเลเซีย

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย