ทำเนียบฯ 2 ก.ย.- รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อ “ปรีดี” ลาออก ไม่กระทบการทำงานของรัฐบาล ระบุสาเหตุลาออก เพราะปัญหาสุขภาพ ไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง มั่นใจนายกฯ สรรหาคนที่เหมาะสมเป็นรมว.คลังคนใหม่ได้ เพราะยังมีคนดีคนเก่งอีกมาก ยันพลังประชารัฐไม่หารือเรื่องนี้
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายปรีดี ดาวฉาย ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า การลาออกครั้งนี้จะไม่กระทบกับการทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีรัฐมนตรีลาออก เพราะปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งก็ต้องเห็นใจนายปรีดีด้วย ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการลาออกครั้งนี้ มาจากปัญหาความขัดแย้งกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนั้น ตนมองว่า ไม่ใช่ประเด็นที่จะนำไปสู่การลาออก การทำงานอาจมีปัญหาบ้าง แต่เชื่อว่าไม่ใช่ความขัดแย้งรุนแรง และไม่ใช่ปัญหาทางการเมือง แต่น่าจะเป็นเรื่องสุขภาพที่เป็นเหตุสุดวิสัยมากกว่า
ต่อข้อถามว่าการลาออกกระทบกับตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ จะส่งผลให้การบริหารงานของรัฐบาลสะดุดลงหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า อาจมีผลกระทบบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นที่จะมาหยุดยั้งการทำงานของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า และไม่ใช่สิ่งที่ทำให้การบริหารงานของรัฐบาลต้องหยุดชะงัก เพราะทุกคนยังต้องทำงานต่อไป และเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นปลีกย่อย ไม่ใช่ประเด็นหนักหนา และไม่ใช่เป็นการนับถอยหลังของรัฐบาลตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเชื่อว่าในวิกฤต ย่อมมีโอกาส และจะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น ดังนั้นขอให้ช่วยกันทำงาน คิดโครงการดี ๆ นำพาประเทศพ้นวิกฤต ไม่มีใครอยากเห็นบ้านเมืองเกิดปัญหาเชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะพยายามทุกวิถีทางที่จะฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อให้ประเทศผ่านพ้นปัญหา และให้ประชาชนมีความสุข
นายอนุชา กล่าวว่า การสรรหาบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่นั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งเชื่อว่า มีบุคคลที่เหมาะสม เนื่องจากในประเทศไทย ยังมีคนเก่งคนดีอีกจำนวนมาก ที่จะมาช่วยบริหารประเทศ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเย็นวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แต่คาดว่าทางพรรคจะไม่หารือเรื่องบุคคลที่จะมาแทนนายปรีดี เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค เนื่องจากการแต่งตั้งรัฐมนตรี เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่จะสรรหา ส่วนนายกรัฐมนตรีจะปรึกษาเรื่องนี้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของรายละเอียดและสุดท้ายเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย