“รมว.คลัง-พาณิชย์” ถกแก้ปัญหา “นอมินี-สินค้าสวมสิทธิ์”

ทำเนียบ 25 เม.ย.-“รมว.คลัง-พาณิชย์” ถกหามาตรการแก้ปัญหาระยะสั้น-กลาง-ยาว บริษัท “นอมินี-สินค้าสวมสิทธิ์” เน้นเชิงรุก บุกสอบถึงโรงงาน-มาตรฐานคุณภาพสินค้า สร้างความเชื่อมั่นให้สหรัฐ บอกภาพรวมเป็นที่พอใจ หลังจับกุมแล้วกว่า 852 บริษัท

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมด้วย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงผลการประชุมหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาสินค้า และธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย


โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การหารือวันนี้มีการกำหนดแผนระยะสั้น, กลาง และยาว โดยจะมีความเข้มงวดการตรวจสอบสินค้าที่เข้ามาสู่ประเทศไทยมากขึ้น โดยจะเน้นตรวจสอบเรื่องสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะสังเกตได้ว่า สินค้าที่ไม่มีคุณภาพจะมีต้นทุนต่ำ และขายในราคาที่ถูก โดยจะมีมาตรการสำหรับสินค้าที่มาจากประเทศต้นทาง และได้รับการอุดหนุนการช่วยเหลือมาจากประเทศต้นทาง ทำให้ราคาสินค้าถูก และไม่ได้คุณภาพ ซึ่งในอดีตการเข้าไปตรวจใช้เวลาระยะเวลานาน โดยการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในช่วงระยะสั้น จะใช้วิธีการเมื่อรับสินค้าดังกล่าวเข้ามาจะเข้าไปตรวจสอบทันที หากสินค้าชนิดใดไม่สามารถอธิบายแหล่งที่มาต้นทุนได้ และไม่ได้มาตรฐานตามองค์การอาหารและยา หรือ อย.กำหนด หรือคุณภาพไม่ได้ ก็จะสามารถทำการยกเลิกได้ทันท่วงที

นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งก็จะเข้าไปตรวจสอบว่า มีการดำเนินการตามข้อบังคับหรือไม่ เพราะสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่มีฉลาก และไม่มีใบรับรองมาตรฐาน ซึ่งจะใช้วิธีการแจ้งไปยังเจ้าของแพลตฟอร์ม เพื่อให้ดึงสินค้าดังกล่าวออกจากการขาย ซึ่งหมายความว่า เจ้าของทุกแพลตฟอร์มไม่ว่า จะขายที่ไหนในโลกต้องมาจดทะเบียนอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้เป็นคนกลางเชื่อมระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายในไทย ถือจะเป็นมาตรการในระยะสั้นที่จะเร่งทำ


ขณะที่การตรวจสอบเรื่อง “นอมินี” โดยจะมีการเข้าไปตรวจสอบสัดส่วนการถือหุ้น ในสัดส่วนของ 49% และก็จะไปตรวจสอบว่า สัดส่วน 51% คือผู้ใดที่ถือว่า เข้าข่ายเป็น “นอมินี” หรือไม่ มีการใส่เม็ดเงินลงทุนจริงหรือไม่ โดยเรื่องนี้จะเป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงต้องมีการตรวจสอบ “นอมินี” เรื่องการถือครองที่ดินด้วย

ส่วนแผนการแก้ไขปัญหาในระยะกลาง และระยะยาว จะต้องมีการไปทบทวนกฎหมายในหลายอย่าง เพื่อทำให้เป็นสากลมากขึ้น ให้มีการควบคุมและกำกับให้ดีขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้ยังมีสินค้า หรือการบริการบางประเภท ที่ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดำเนินการ ซึ่งมองว่า วันนี้ควรจะอนุญาตให้ดำเนินการได้แล้ว เพราะจะส่งผลดีกับประเทศไทย ซึ่งจะต้องมีการทบทวนเรื่องเหล่านี้ เพื่อให้ทั่วโลกเห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้ปิด แต่ต้องทำให้เป็นสากลมากขึ้น

ขณะที่เรื่องของสินค้า “สวมสิทธิ์” โดยวิธีการเฝ้าระวัง คือ สินค้าที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจับตาดูอยู่ หรือ Watch list ซึ่งมีอยู่ประมาณ 49 ชนิด และยังมีการเพิ่มสินค้าที่ต้องจับตาอีก 16 ชนิด ที่ต้องการให้ใครช่วยเฝ้าระวัง โดยจะมีการเข้าไปตรวจสอบถึงโรงงาน, กระบวนการผลิต และแหล่งที่มาของสินค้า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องตรวจสอบ Certificate of Origin หรือ CO หรือใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ที่จะให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปร่วมตรวจสอบเพราะใบรับรองดังกล่าวต้องออกโดยประเทศไทย หรือจะให้สภาหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งเดิมทีสามารถออกใบดังกล่าวได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่จะมีการปรับเปลี่ยนให้อยู่กับส่วนกลางที่เดียว เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สินค้าเหล่านั้นเป็นไปตามกติกา และสามารถส่งต่อได้ เพื่อป้องกันปัญหาสินค้า “สวมสิทธิ์”


ส่วนการพิจารณาสินค้าที่สวมสิทธิ์ จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบก่อนที่จะมีการไปเจรจากับสหรัฐฯ ใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ไทยเริ่มดำเนินการแล้ว และทางสหรัฐฯ ก็ได้เห็นขั้นตอนวิธีการทำ และมานั่งดูขั้นตอนการทำ ซึ่งหากพึงพอใจก็จะมีการตรวจสอบไปเรื่อย ๆ และในวันหลังก็อาจจะมีการเพิ่มรายการในการตรวจสอบ ดังนั้นจะต้องมีการค่อย ๆ ปรับ แต่ทั้งนี้ทางสหรัฐฯ พอใจในวิธีการสิ่งที่ได้ตรวจสอบเป็นไปตามมาตรฐาน หรือสิ่งที่เขาอยากเห็น และเรื่องนี้เป็นผลดี เพราะการทำเช่นนี้หลักสากล และยุติธรรมกับผู้ค้าทุกฝ่าย เพราะการที่สินค้าออกไป ได้มาตรฐานหรือไม่ และเป็นสินค้าไทยหรือไม่ เพราะในโลกใบนี้คู่ค้า แต่ละประเทศก็มีการพูดคุยกัน ดังนั้นเรื่องทั้งหมดเป็นหลักสากล ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ซึ่งหากไม่มีเรื่องนี้ก็ต้องทำอยู่แล้ว

นายพิชัย ยังระบุอีกว่า จากการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ก็พบว่า ทางสหรัฐฯ ก็พอใจในระดับหนึ่ง และทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา หรือ USTR ได้ทำงานร่วมกับศุลกากรของสหรัฐอเมริกา เพื่อจะดูแลเรื่องนี้ และจะมีการตรวจสอบไปถึงเรื่องวีซา ของนักท่องเที่ยวที่มาพำนักอยู่ในประเทศไทยนานเกินควรด้วย หรือถือวีซา ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่

ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง การตรวจสอบสินค้าด้อยคุณภาพว่า ได้มีการดำเนินคดีไปแล้วกว่า 29,000 คดี ซึ่งก็จะมีการเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบมากขึ้น

ส่วนการจับกุมบริษัท “นอมินี” มีการจับกุมไปแล้ว 852 บริษัท ทุนจดทะเบียนกว่า 15,000 กว่าล้านบาท และปัจจุบันพบว่า มี 49,000 กว่าบริษัท ที่ต่างชาติถือหุ้นอยู่ ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบ ว่ามีการถือหุ้นผ่าน “นอมินี” หรือไม่ โดยจะได้ดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้

ขณะที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักการในการควบคุมสินค้า จะคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคก่อน โดยได้ดำเนินการตามกฏหมายที่มีอยู่ และจะมีการดำเนินการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าจากทุกประเทศอย่างเท่าเทียม และเหมือนกัน โดยจะต้องคำนึงถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. และองค์กรอาหารและยา หรือ อย. รวมไปถึงเรื่องของฉลากที่เป็นสินค้าบางรายการ เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ต้องระบุวิธีการใช้งาน ซึ่งต้องมีการระบุเป็นภาษาไทย

ส่วนการตรวจสอบสินค้า “สวมสิทธิ์” ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า หรือ CO ได้มีการหารือร่วมกับทางสหรัฐฯ ซึ่งกระบวนการจะเริ่มตรวจ ตั้งแต่โรงงาน และใบรับรองอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจสอบต้นทุน และมีการหารือกับศุลกากรสหรัฐประจำประเทศไทย ซึ่งทางสหรัฐฯ ได้มาดูกระบวนการ และก็พึงพอใจ โดยจะมีการส่งบัญชีสินค้าที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ซึ่งได้ทำงานร่วมกัน และมีการสอบถามยังมีประเด็นข้อสงสัยตรงจุดใด ซึ่งได้มีการทำงานมาร่วมกันตลอด และทางสหรัฐฯ ก็พึงพอใจ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ชนกัน 10 คันรวด ทางลอดอุโมงค์แยกดาราสมุทร จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 23 ก.ย.-รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเสาเข็ม เบรกแตก พุ่งชนระเนระนาดในอุโมงค์ดาราสมุทร จ.ภูเก็ต รถเสียหาย 10 คัน บาดเจ็บ 4 คน เป็นคนไทย 3 คน และชาวมาเลเซีย 1 คน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุพิทักษ์วิชิตได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันภายในอุโมงค์ทางลอดแยกดาราสมุทร ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มีรถได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้บาดเจ็บ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถไม่สามารถผ่านอุโมงค์ได้ทั้ง 2 เลน เบื้องต้นตรวจสอบพบรถชนกันเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย อาการแน่นหน้าอก […]

ผลตรวจยืนยัน “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง โครงสร้างผิดปกติตั้งแต่เกิด

สุพรรณบุรี 23 ก.ย. – ทีมสัตวแพทย์สรุปผลตรวจ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียแรกเกิดที่พลัดหลงจากแม่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พบความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกายตั้งแต่เกิด เร่งวางแผนการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตรวจสุขภาพ “น้องข้าวต้ม” อย่างละเอียด โดยผลมีดังนี้ สัตวแพทย์สรุปว่า “น้องข้าวต้ม” มีภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติตั้งแต่กำเนิดในลูกสัตว์ นอกจากนี้จากภาวะร่างกายที่อ่อนแอ จำเป็นต้องเอาตัวรอด รวมถึงความพยายามช่วยประคับประคองโดยฝูงทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้ฉีดยาลดปวดและลดอักเสบให้แล้ว พร้อมวางแผนรักษาตามอาการระยะยาว โดยเน้นการให้อาหารและเสริมโภชนาการควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกช้างป่าสามารถยืนและเคลื่อนไหวได้ในอนาคต หากอาการไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่คาด จะตรวจ X-ray และ Ultrasound ซ้ำอีกครั้ง ลำดับเหตุการณ์การช่วยเหลือลูกช้างป่าตัวนี้ • 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้างเพศเมียนอนอยู่เพียงลำพังในสภาพอ่อนแรงและบาดเจ็บที่ขาหลัง จึงรีบประสานทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายมาดูแลที่ทำการอุทยานฯ โดยเบื้องต้นได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อให้พลังงาน […]

ทหารเขมรเข้าใกล้รั้วภูผี ฝ่ายไทยเตือน แต่เขมรยิงปืนขึ้นฟ้า

ศรีสะเกษ 23 ก.ย.-แม่ทัพภาค 2 เผยได้รับรายงานเหตุทหารเขมรเข้าใกล้เขตรั้วลวดหนามพื้นที่ภูผีแล้ว ฝ่ายไทยเตือน แต่เขมรยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนถูกตอบโต้จนต้องล่าถอยออกไป ยันติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด จากกรณีมีการเผยแพร่ข่าวเหตุยิงปะทะในพื้นที่ภูผี ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ตนได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารกัมพูชามีลักษณะท่าทางจะเข้ามาในอธิปไตยไทยใกล้กับเขตรั้วลวดหนาม เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงได้แจ้งเตือน ทำให้ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กประจำกายยิงขึ้นฟ้า เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงยิงตอบโต้ไป กระทั่งทหารกัมพูชา ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจำนวน 2-3 นาย ได้ล่าถอยกลับไป ขณะนี้ยืนยันว่า เหตุการณ์ปกติ และกองทัพภาคที่ 2 มีการตรวจเฝ้าระวังทหารกัมพูชาที่รุกล้ำและลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด ซึ่งเรามีมาตรการในการดูแลตรงนี้อยู่แล้วอย่างใกล้ชิด.-313.-สำนักข่าวไทย

ตร.จราจร นำส่งอวัยวะ ถูกรถพุ่งชน

23 ก.ย. – รถแท็กซี่พุ่งชนตำรวจจราจรขณะขี่จยย.นำส่งอวัยวะ บริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ ตำรวจบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา เปิดเผยว่าช่วงเที่ยงวานนี้เกิดเหตุผู้ขับรถแท็กซี่ ไม่ชะลอความเร็วเพื่อหยุดรถเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดง ประกอบกับมีขบวนรถของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริที่เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินขณะปฏิบัติภารกิจนำส่ง “ปอด” จากจังหวัดชลบุรี ไปยังโรงพยาบาลศิริราช ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ โชคดีรถแท็กซี่ไม่เฉี่ยวชนกับรถพยาบาลที่บรรทุกอวัยวะ จึงสามารถนำส่ง “ปอด” ให้ถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา จึงขอเน้นย้ำไปยังผู้ขับขี่ว่า “เมื่อเห็นสัญญาณไฟและเสียงไซเรน โปรดให้ทาง” ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เพื่อรักษากฎหมายและช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์.-สำนักข่าวไทย