“ประชาชนปลดแอก” ชุมนุมแน่นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

กทม. 16 ส.ค. – “กลุ่มประชาชนปลดแอก” จัดชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยมีกลุ่ม ศอปส.เฝ้าจับตาบริเวณใกล้เคียง ตำรวจต้องใช้กำลังมากถึง 4 กองร้อยดูแลความสงบ ป้องกันการเผชิญหน้า ปิดการจราจรถนนราชดำเนินทั้งสองฝั่ง


กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า “คณะประชาชนปลดแอก” บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่าย ส่วนมากเป็นคนหนุ่มสาวอายุ 16-25 ปี สวมเครื่องแต่งกายด้วยชุดสีเข้ม รองเท้าผ้าใบ รวมหน้ากากอนามัย ตามคู่มือที่ส่งต่อกันในสื่อออนไลน์ ขณะที่มีการตั้งเวทีและเครื่องเสียงบนถนนราชดำเนินหันหน้าไปทางสนามหลวง พร้อมปิดการจราจรฝั่งขาเข้าทุกช่องทาง ส่วนหลังเวทีมีตัวแทนตั้งแต่ระดับนักเรียนมัธยมถึงมหาวิทยาลัย หารือเตรียมเนื้อหาการปราศรัย

การปราศรัยในช่วงแรกได้เรียกร้องให้เปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน และขอให้ฝ่ายที่เห็นต่างเลิกใส่ร้ายว่าผู้ชุมนุมมีเจตนาล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นได้ปราศรัยเนื้อหาสำคัญ ทั้งข้อเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และหยุดคุกคามสิทธิประชาชน สลับกับการทำกิจกรรมเสียดสีการเมือง ส่วนประเด็นข้อเสนอที่ถูกวิจารณ์ในสังคม แกนนำยืนยันว่าเป็นข้อเสนอที่มีเจตนาต้องการรักษาและเทิดทูนสถาบันไว้ให้คงอยู่กับประเทศไทยตลอดไป


ขณะที่ด้านข้างเวทีฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา มีการตั้งโต๊ะรวบรวม 50,000 รายชื่อ เพื่อยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกด้วย

ล่าสุดได้มีการปิดการจราจรบนถนนราชดำเนินทั้งสองฝั่ง และยังคงมีผู้ชุมนุมเดินทางเข้าจากสถานี MRT หรือการใช้บริการจักรยานยนต์รับจ้างเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง แต่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในพื้นที่การชุมนุมและโดยรอบถึงปัญหาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่ขาดหายเป็นระยะ ทำให้การส่งภาพและข่าวของสื่อมวลชนเกิดปัญหา จนพิธีกรเวทีเรียกร้องผู้ให้บริการส่งรถขยายสัญญาณมาบริเวณการชุมนุม

ศอปส.ประกาศยุติชุมนุม จ่อส่งหลักฐานเอาผิดให้ ผบ.ตร.
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า “ศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” หรือ ศอปส. เข้าพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ย้ำจุดยืนเพื่อมาจับตาการชุมนุมของ “คณะประชาชนปลดแอก” ว่ามีการจาบจ้วงหรือหมิ่นสถาบันหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นได้ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และเตรียมยื่นหลักฐานต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ก้าวล่วงสถาบันในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.)

จัดกำลัง 600 นายดูแลเข้ม ฝ่าฝืนข้อตกลงจับกุมทันที
ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าการชุมนุมของทั้ง 2 กลุ่มได้ขออนุญาตเรียบร้อยแล้ว ตำรวจได้กำหนดเงื่อนไขให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด ท่ามกลางกำลัง 4 กองร้อย หรือประมาณ 600 นาย อำนวยความสะดวก ดูแลความสงบ และป้องกันการกระทบกระทั่ง พร้อมกับเน้นย้ำว่าให้อยู่ในพื้นที่ที่ทำข้อตกลงกันไว้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุม

นายกรัฐมนตรีขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงความรุนแรง
ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดูความสงบเรียบร้อยร้อยระหว่างการชุมนุม โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ และห้ามใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เนื่องจากความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติทางการเมือง จึงเปิดโอกาสให้เยาวชนคนหนุ่มสาวได้แสดงออกอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่เกินเลยกรอบของกฎหมาย และไม่กระทบต่อสิทธิผู้อื่น พร้อมกันนี้ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความรุนแรง

“แรมโบ้อีสาน” ตั้งข้อสังเกต “ธนาธร” หนุนม็อบหรือไม่
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ขอให้พิจารณาให้ดีว่าเกิดผลดีต่อประเทศหรือไม่ เพราะการชุมนุมทำให้ประเทศก้าวถอยหลัง และอาจนำไปสู่ความแตกแยก ยืนยันว่ารัฐบาลรับฟังข้อเรียกร้องต่างๆ โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติต่อสภาฯ วันพรุ่งนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ให้กำลังใจกลุ่มนักศึกษาต่อเนื่องว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่อาจทำให้บ้านเมืองวุ่นวายจนเป็นเหตุให้เลือกตั้งใหม่. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]