กรุงเทพฯ 11 ส.ค.-กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมเฝ้าระวังปัญหาการชุมนุมทางการเมืองตลอดมาตั้งแต่ต้น ขอให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิและชื่อเสียงของผู้อื่น
นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงการชุมนุมเพื่อแสดงออกทางการเมืองของเยาวชนในหลายพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา ว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุม และได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีข้อเสนอแนะต่อผู้ชุมนุมให้ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ พึงระมัดระวังการกระทบกระทั่งกัน ปฏิบัติตามกฎหมาย เคารพสิทธิและชื่อเสียงของผู้อื่น ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐพึงใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
นายวัส กล่าวด้วยว่า ขอให้สังคมมีความอดทนและเคารพต่อความคิดเห็นต่างภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม หากมีการกระทำใดเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน บุคคลสามารถดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งเป็นกลไกปกติในการยุติปัญหาได้ แต่หากกลไกดังกล่าวละเลยต่อหน้าที่ของตนและเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิฯ จึงจะสามารถเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้ข้อเสนอแนะต่อการแก้ไขปัญหาได้ อันเป็นกลไกในการเฝ้าระวัง ดังที่ปรากฏจากข่าวของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯ เรื่องย้ำเยาวชนสามารถใช้สิทธิชุมนุมได้โดยสงบ-เดินหน้าเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปัจจุบันการชุมนุมของนักศึกษาและประชาชน ยังอยู่ภายในขอบเขตของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
“แม้นักศึกษาและประชาชนจะมีสิทธิชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการว่างงานและขาดรายได้อันเนื่องมาจากการซ้ำเติมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 การบริหารราชการแผ่นดิน และกติกาในการปกครองประเทศ รวมทั้งความเหลื่อมล้ำที่ได้รับจากกระบวนการยุติธรรม แต่ก็พึงปฏิบัติตามกรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ชุมนุมโดยสงบและไม่ละเมิดสิทธิและชื่อเสียงของผู้อื่น” นายวัส กล่าว
นายวัส กล่าวอีกว่า การเขียนข้อความสั้น ๆ และเลื่อนลอยในสื่อสังคมเฟซบุ๊ก กล่าวหาองค์กรอื่นโดยขาดข้อมูลที่ชัดเจน และไม่รู้ภาระหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายขององค์กร รวมทั้งไม่รู้ว่าองค์กรได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรนั้นได้.-สำนักข่าวไทย