สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด 11 ส.ค.-นายกฯ ร่วมกิจกรรมจิตอาสา ปันสุข ปลูกรัก ย้ำเด็ก ๆ ทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฝากนิสิตเกษตรฯ บอกเพื่อนไม่ได้ปิดกั้นความคิด แต่การเปลี่ยนแปลงจะเปลี่ยนในครั้งเดียวคงไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา ปันสุข ปลูกรัก เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2563 เพื่อปลูกฝังการทำความดี มีจิตอาสาให้เด็กในสถานสงเคราะห์ ซึ่งก่อนเริ่มงาน นายกรัฐมนตรีได้รับฟังเพลง คิดดี ทำดี จากเด็ก ๆ พร้อมขอให้เล่นเพลงจังหวะสนุกเพิ่มเติม ซึ่งเด็กได้เล่นเพลง ปูไข่ไก่หลง แต่จำเนื้อร้องไม่ได้ นายกรัฐมนตรีจึงบอกว่า เพลงนี้มีเนื้อร้องว่า “ช่างเถอะคนงาม ขอปล่อยตามตามวาสนา”
นายกรัฐมนตรี นำผู้ร่วมพิธีกล่าวถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลและเอกชนได้น้อมนำแนวทางจิตอาสาพระราชทาน เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อจัดกิจกรรมจิตอาสา ปันสุข ปลูกรัก เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันทำประโยชน์สาธารณะ ร่วมกันทำความดี ช่วยเหลือแบ่งปันแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นการสนองพระราชปณิธานและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงมีพระเมตตา ห่วงใยราษฎรมาตลอดระยะเวลายาวนาน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนทุกหมู่เหล่า
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวกับเด็ก ๆและผู้ร่วมงานว่า มีความสุขที่ได้มาพบกับเด็ก ๆ ทุกคนถือเป็นอนาคตของประเทศ โดยได้รับฟังคำสัญญาจากเด็ก ๆ ที่จะเป็นคนดี เป็นกำลังของประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลห่วงเรื่องการศึกษาที่วันนี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมสิ่งที่เราได้ผ่านมา หลายคนอาจเป็นเด็กที่เติบโตมาในยุคใหม่ ซึ่งอาจยังไม่เข้าใจความเป็นมาขั้นพื้นฐานของประเทศ จึงขอฝากครู ผู้ปกครองและทุกคนช่วยกันสร้างการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ซึ่งรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างครอบคลุมเด็กทุกกลุ่ม ผ่านความร่วมมือของทุกกระทรวงอย่างจริงจัง สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ สังคมเปลี่ยนแปลงไปตามโลก แต่ขอทุกคนอย่าลืมความเป็นไทยที่เป็นสิ่งดีงาม
“ที่มาวันนี้เพื่อยืนยันว่าผมจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีอนาคตที่ดีงาม มีอาชีพที่ดี และวันนี้เด็ก ๆ ทุกคนถือว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนจะดูแลซึ่งกันและกัน จึงขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ดูแลเด็กเป็นอย่างดี ซึ่งเด็กทุกคนมีหน้าที่เรียนและต้องรักษาวินัย เพื่อวันหน้าจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนทำได้โดยไม่ต้องมีใครบังคับ คือการทำความดีเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจทุกคน และการทำความดีต้องไม่มีใครบังคับ ต้องทำด้วยหัวใจ เพราะเราคือคนไทยอยู่ในแผ่นดินที่เรารัก ห่วงแหน มีบรรพบุรุษ มีสถาบันได้สร้างไว้ให้เรา ดังนั้น ต้องสืบสานต่อไปในอนาคต สิ่งใดที่ไม่เกิดประโยชน์ และรู้ว่าอะไรควรไม่ควรก็ต้องนำไปสู่การปฏิบัติ วันนี้ประเทศไทยต้องไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น ซึ่งใครที่รักประเทศไทยและสำนึกในแผ่นดินที่เกิด ต้องทำเพื่อแผ่นดินนี้ ที่บรรพบุรุษได้เสียสละรักษาไว้ หลังจากนี้อยู่ที่ทุกคนจะรักษาแผ่นดินนี้ไว้
“การเดินหน้าประเทศวันนี้ต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายและการขับเคลื่อนทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือ ส่วนเรื่องใดที่ยังมีปัญหา รัฐบาลพร้อมรับฟังและแก้ไข วันนี้อยากให้ประเทศชาติสงบสุขที่สุด เกิดความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้ความเป็นธรรม และดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ช่วงเวลานี้เป็นช่วงสำคัญ เพราะต้องขับเคลื่อนประเทศท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ควบคู่กับสถานการณ์โควิด-19 และถึงแม้จะยังไม่ทราบว่ายาวนานถึงเมื่อไหร่ แต่รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและภริยามอบถุงปันสุข ซึ่งเป็นสิ่งของจำเป็นสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันให้กับตัวแทนเด็กในสถานสงเคราะห์ นอกจากนี้ ยังพูดคุยกับเด็กพิการทางการพูด รับฟังแบบจำลองคลินิกแม่เลี้ยงเดียว ร่วมปล่อยปลา ปลูกพืชผักสวนครัวและเพาะเห็ดด้วย ทั้งนี้ ภายหลังร่วมกิจกรรมปลูกผักอินทรีย์ ซึ่งมีนิสิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นพี่เลี้ยงช่วยดูแลเด็กเพาะปลูกผัก นายกรัฐมนตรี ได้เดินมาพูดคุยทักทาย โดยได้ฝากว่าให้ไปบอกกับเพื่อน ๆ และทำความเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีได้ทำอะไรไปบ้าง และอยากให้ทุกคนร่วมมือกันทำงาน ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นความคิดของใคร แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างจะเปลี่ยนในครั้งเดียวเลยคงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจรับอุปการะเด็กชายอายุระหว่าง 6 – 18 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่อยู่ในภาวะยากลำบาก ประสบปัญหาสังคม ครอบครัวไม่สามารถให้การเลี้ยงดูได้อย่างเหมาะสม ปัจจุบันมีเด็กในความอุปการะจำนวน 265 คน.-สำนักข่าวไทย