ทำเนียบรัฐบาล 8 พ.ย.-นายกฯเตรียมร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 33 สาธารณรัฐสิงคโปร์ 13-15 พ.ย.นี้ เน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเกี่ยวกับเอกสารผลลัพธ์ที่จะลงนามหรือรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 33 และการประชุมสุดยอดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ประเทศสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 13 – 15 พฤศจิกายน 2561 ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเข้าร่วมประชุม ว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนมีประเด็นที่ไทยจะให้ความสำคัญ โดยระหว่างการประชุมนายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงเพื่อแสดงวิสัยทัศน์และผลักดันประเด็นต่าง ๆ เพื่อวางรากฐานสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปี 2562
“จะเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติ การจัดตั้งศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหาหรือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย ส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์และลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างกัน รวมถึงการผลักดันความร่วมมือเพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง อาทิ การต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ การบริหารจัดการชายแดน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการบริหารจัดการภัยพิบัติการเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น” พล.ท.วีรชน กล่าว
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะมีเอกสารผลลัพธ์ให้ผู้นำรับรอง 7 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติว่าด้วยความช่วยเหลือทางการกงสุลโดยคณะทูตของรัฐสมาชิกอาเซียนในประเทศที่ 3 แก่คนชาติของรัฐสมาชิกอาเซียนอื่นๆ 2.ร่างเอกสารกรอบดำเนินงานเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน 3.ร่างแผนแม่บทอาเซียนพ.ศ. 2568 เพื่อบูรณาการสิทธิคนพิการ 4.ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการรับรองวันเยาวชนอาเซียน เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ 5.ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการเจริญเติบโตอย่างเท่าเทียมและทุกคนมีส่วนร่วมของประชาคมอาเซียน 6. ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อที่ประชุมรัฐสภางภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 24 และ7.ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 14
“ยังมีร่างวิสัยทัศน์ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน ค.ศ.2030 ร่างถ้อยแถลงผู้นำการประชุมสุดยอดอาเซียนตะวันออก ว่าด้วยการต่อต้านภัยคุกคามจากนักรบก่อการร้ายต่างชาติและผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา เป็นต้น พร้อมกันนี้จะมีแถลงการณ์ร่วมผู้นำความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค ( RCEP) ครั้งที่ 2 เพื่อที่ผู้นำแต่ละประเทศจะได้เร่งรัดให้ RCEP บรรลุข้อตกลงให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าไทยจะเป็นประธานอาเซียน รัฐบาลนี้ได้เตรียมการทุกเรื่องสำหรับอนาคต ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลสามารถสานงานต่อได้เลย หรือจะปรับเปลี่ยนอะไรก็ทำได้ไม่ยาก แต่หากจะเริ่มใหม่ตรงนั้นจะเสียหาย” พล.ท.วีรชน กล่าว
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า วันที่ 16 -18 พฤศจิกายน 2561 นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 26 ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี โดยจะมี 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วมประชุม ซึ่งจะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจดิจิทัล และเชื่อมโยงผลักดันการเติบโต รวมถึงให้ความสำคัญกับผลกระทบจากทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ และรับมือความท้าทายจากยุคดิจิทัลด้วย ทั้งนี้ จะมีเอกสารสำคัญ 2 ฉบับ คือ 1.ปฏิญญาว่าด้วยผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก สาระสำคัญคือการเปิดรับดิจิทัลเพื่อความเชื่อมโยงในภูมิภาคต่าง ๆ และ 2.ผลลัพธ์การประชุมร่างถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอกเปกครั้งที่ 26 เพื่อสนับสนุนข้อริเริ่มความสำคัญในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตและเข้มแข็ง รวมถึงการปฏิรูปในเชิงโครงสร้าง.-สำนักข่าวไทย
